Loxoprofen จัดเป็นยาในกลุ่มยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ หรือเอ็นเซด (NSAIDs) กลไกการออกฤทธิ์ของยา คือ ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไซโคลออกซิจิเนส (Cyclooxygenase; COX – เอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างสารสื่อกลางการอักเสบ) แบบไม่จำเพาะเจาะจง (ยับยั้งทั้ง COX-I และ COX-II) ยับยั้งการสังเคราะห์พรอสตาแกลนดินส์ (Prostaglandins) ซึ่งเป็นสารสื่อกลางการอักเสบจากกรดอะราคิโดนิก (Arachidonic acid) ทำให้มีฤทธิ์ในการต้านการอักเสบ
สารบัญ
สรรพคุณและข้อบ่งใช้ของ Loxoprofen
โรคที่เป็นข้อบ่งใช้ของยานี้ ได้แก่
- โรคปวดข้อรูมาตอยด์เรื้อรัง
- โรคข้อเสื่อม
- อาการปวดหลังส่วนล่าง (lower back pain)
- ภาวะอักเสบรอบข้อ (periarthritis) ของหัวไหล่
- เพื่อบรรเทาอาการปวด และอักเสบหลังการผ่าตัด
- เพื่อบรรเทาอาการปวดจากการถอนฟัน
ตัวยา Loxoprofen จัดอยู่ในกลุ่มยาอันตราย ตามการจำแนกโดยคณะกรรมการอาหารและยา มีจำหน่ายเฉพาะร้านยาแผนปัจจุบันที่มีเภสัชกรชั้นหนึ่งควบคุมการขายยา ต้องมีการจัดทำบัญชียาอันตราย และสำหรับบุคคลทั่วไปเภสัชกรสามารถจำหน่ายยาและให้คำแนะนำในการใช้ยาได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ใบสั่งของผู้ประกอบวิชาชีพฯ
ขนาดและวิธีการใช้
Loxoprofen มีขนาดและวิธีการใช้ตามข้อบ่งใช้ ดังนี้
- สำหรับบรรเทาอาการอักเสบและอาการปวดจากไขข้อรูมาตอยด์ ข้อเสื่อม ปวดหลังช่วงล่าง ปวดรอบข้อไหล่ ปวดฟัน และการปวดแผลหลังการผ่าตัด หรือหลังถอนฟัน การใช้ยาในรูปแบบยารับประทาน ขนาดการใช้ยาในผู้ใหญ่ ขนาด 60 มิลลิกรัม (1 เม็ด) วันละสามครั้ง หากเป็นการใช้ยาตามอาการเมื่อมีอาการปวด รับประทานขนาด 60-120 มิลลิกรัม (1-2 เม็ด) ต่อครั้ง
- สำหรับลดไข้ การใช้ยาในรูปแบบยารับประทาน ขนาดการใช้ยาในผู้ใหญ่ ขนาด 60 มิลลิกรัม (1 เม็ด) ต่อครั้ง วันละสองครั้ง ไม่เกินวันละ 180 มิลลิกรัม (3 เม็ด)
- ขนาดยาสามารถปรับได้ตามความเหมาะสมของอาการและอายุของผู้ป่วย
ข้อควรระวังในการใช้
- ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่มีการแพ้ยา Loxoprofen และผู้ป่วยที่มีการแพ้ยา NSAIDs กลุ่มที่ยับยั้ง COX-I เนื่องจากอาจเกิดการแพ้ยาข้ามกลุ่ม (Cross hypersensitivety) ได้ (เป็นยาในกลุ่ม NSAIDs ซึ่งเป็นกลุ่มยาขนาดใหญ่ มีหลายกลุ่มย่อย)
- ควรระวังการใช้ยาในผู้ป่วยสตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร
ผลข้างเคียงของการใช้
- อาการข้างเคียงที่พบได้บ่อย ได้แก่ ระคายเคืองกระเพาะอาหาร ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ไม่อยากอาหาร อาการบวม ผื่นแพ้ ลมพิษ ง่วงซึม ไข้ และอาการคัน
- อาการข้างเคียงที่พบได้น้อย ได้แก่
- การแพ้ยาแบบ Anaphylaxis ซึ่งเป็นการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อยา สารเคมี หรืสารก่อการแพ้อย่างรุนแรง หรือเกิดอาการช็อก
- ความผิดปกติต่อระบบเลือด ได้แก่ โลหิตจางจากเม็ดเลือดแดงแตก เกร็ดเลือดต่ำ เม็ดเลือดขาวต่ำ
- ความผิดปกติต่อไต ไตอักเสบ
- ความผิดปกติต่อหัวใจ ได้แก่ ภาวะหัวใจล้มเหลว
- เนื้อเยื่อระหว่างถุงลมปอดอักเสบ
- ความผิดปกติต่อระบบทางเดินอาหาร ได้แก่ เลือดออกในระบบทางเดินอาหาร การอุดกั้นของระบบทางเดินอาหาร ตับบกพร่อง ดีซ่าน
- กล้ามเนื้อสลายตัว
- หืดกำเริบ
ข้อควรทราบอื่นๆของยา
- ยานี้ยังไม่ถูกจัดกลุ่มตามดัชนีความปลอดภัยการใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์ (Pregnancy Safety Index) อย่างไรก็ตาม การใช้ยานี้ในสตรีมีครรภ์ควรใช้อย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์
- ควรรับประทานยานี้ระหว่างหรือหลังอาหาร เนื่องจากยาทำให้เกิดการระคายเคืองกระเพาะอาหารได้
- ไม่ควรรับประทานยานี้เกินกว่าครั้งละ 2 เม็ด
- ผู้ป่วยควรระวังการใช้ยาต้านการอักเสบหลายชนิดในเวลาเดียวกัน ในผู้ป่วยบางรายอาจพบการใช้ยาต้านการอักเสบต่างยี่ห้อ แต่ตัวยาเป็นตัวยาเดียวกันหรืออยู่ในกลุ่มเดียวกัน ซึ่งอาจเสริมฤทธิ์กันทำให้ได้รับยาเกินขนาดและเกิดผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์ (เช่น ระคายเคืองกระเพาะอาหาร กิดแผลในกระเพาะอาหาร) หรือพิษจากการใช้ยาได้
- ยานี้แนะนำให้เก็บรักษาที่อุณหภูมิไม่เกิน 30 องศาเซลเซียส เก็บให้พ้นจากแสง และความชื้น