หนองในคอ สาเหตุ อาการ วิธีป้องกันรักษา

โรคหนองในแท้ หรือ โกโนเรีย (Gonorrhoea) เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้บ่อย เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียไนซ์ซีเรียโกโนเรีย (Neisseria Gonorrhoeae)

มีคำถามเกี่ยวกับ หนองในคอ? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

เชื้อแบคทีเรียไนซ์ซีเรียโกโนเรีย สามารถพบได้ในน้ำอสุจิหรือสารคัดหลั่งในช่องคลอด เพราะเจริญเติบโตได้ดีในเยื่อบุและที่อับชื้น หรือในบริเวณที่อบอุ่นทั้งในอวัยวะเพศทั้งชายและหญิง อีกทั้งยังสามารถก่อให้เกิดโรคหนองในที่คออีกด้วย

สาเหตุของการเกิดโรคหนองใน

โรคหนองในเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยกับผู้ป่วยที่มีเชื้อโรคนี้อยู่แล้ว ทำให้โรคสามารถติดต่อหากันได้ผ่านทางช่องคลอด ทางปาก และทางทวารหนัก

ผู้ชายไม่จำเป็นต้องมีการหลั่งน้ำอสุจิก็สามารถติดโรคนี้ได้ โดยเมื่อเชื้อแบคทีเรียได้เข้าสู่ร่างกายแล้ว ก็จะลุกลามไปที่เยื่อบุปากมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูก เยื่อบุทวารหนัก และเยื่อบุปาก หรือคอ ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย

นอกจากนี้ การติดเชื้อหนองในของผู้ป่วยหญิงยังสามารถลุกลามจากบริเวณช่องคลอดไปที่ทวารหนักได้อีกด้วย

รวมถึงในกลุ่มผู้ป่วยที่ตั้งครรภ์ ทารกในครรภ์ก็สามารถติดเชื้อหนองในได้หากมีการสัมผัสเชื้อแบคทีเรียระหว่างคลอด

อย่างไรก็ตาม โรคหนองในจะไม่สามารถติดต่อกันได้หากไม่ใช่กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์ เช่น การใช้ภาชนะร่วมกัน การกินข้าวร่วมกัน การกอดจูบ หรือการใช้ห้องน้ำ เพราะเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้ไม่สามารถเจริญเติบโตได้ในสภาพแวดล้อมภายนอกนั่นเอง

โรคหนองในที่คอเกิดได้อย่างไร?

ผู้คนส่วนมากมักจะเชื่อกันว่า หากเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ก็น่าจะมีการติดต่อที่อวัยวะเพศอย่างเดียวเท่านั้น แต่ในความเป็นจริง โรคหนองในสามารถติดต่อได้ทางปากด้วย โดยเรียกอีกชื่อว่า “โรคหนองในที่คอ”

โรคหนองในที่คอมีสาเหตุมาจากการมีเพศสัมพันธ์ทางปาก และทำให้เชื้อแบคทีเรียแพร่กระจายจากอวัยวะเพศไปสู่ปาก หรือจากปากไปสู่อวัยวะเพศ ก่อนจะแพร่ลงสู่ลำคอ

อาการทั่วไปของโรคหนองในที่คอ

อาการในผู้ป่วยชาย

ระยะการฟักตัวของโรคจะอยู่ที่ประมาณ 2-14 วัน และจะเริ่มมีอาการภายใน 4-6 วันหลังจากติดเชื้อ โดยผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บคอ ปวดแสบปวดร้อน ปัสสาวะขัด ต่อมน้ำเหลืองบวม มีหนองไหลออกมาจากอวัยวะเพศและอยู่ในลำคอ

หากเป็นหนองในแท้ก็จะมีหนองเป็นสีขุ่นเหลือง หรือคล้ายเส้นก๋วยเตี๋ยว ซึ่งถึงแม้ตนเองจะไม่มีอาการผิดปกติดังที่กล่าวมา แต่กลุ่มผู้ชายที่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเป็นโรคหนองในที่คอก็อย่าเพิ่งนิ่งนอนใจ เพราะยังมีกลุ่มผู้ป่วยชายประมาณ 10% ที่ป่วยเป็นโรคนี้โดยไม่รู้ตัวเพราะไม่มีอาการแสดงใดๆ ออกมาเลย

อาการในผู้ป่วยหญิง

ระยะแรกหลังจากติดเชื้อ ผู้ป่วยหญิงจะไม่มีอาการแสดงใดๆ ออกมา จนเมื่อผ่านไปสักระยะหนึ่ง ผู้ป่วยจะต่อมน้ำเหลืองบวม รู้สึกเจ็บคอ มีตกขาวเป็นสีเหลืองหรือสีขาวเป็นปริมาณมากและมีกลิ่นเหม็น

อีกทั้งผู้ป่วยอาจรู้สึกปวดในอุ้งเชิงกรานและมีอาการปวดท้องน้อย ผู้ป่วยบางรายอาจมีไข้สูงด้วย

มีคำถามเกี่ยวกับ หนองในคอ? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

สิ่งที่อันตรายอีกอย่างหนึ่งคือ ยังมีผู้ป่วยหญิงเกือบ 50% ที่ไม่รู้ตัวว่าตนเองป่วยเป็นโรคนี้ เนื่องจากไม่มีอาการแสดงใดๆ ออกมาเลย และยังสามารถแพร่เชื้อต่อไปได้ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ด้วย

นอกเหนือจาการติดเชื้อในลำคอแล้ว เชื้อแบคทีเรียดังกล่าวยังสามารถลุกลามขึ้นไปสู่ดวงตาได้ด้วย ซึ่งผู้ป่วยจะพบว่าดวงตามีหนองไหลออกมา

หากผู้ป่วยโรคหนองในทุกรายปล่อยปละละเลยไม่ยอมรักษาโรคนี้ไม่หาย เชื้อแบคทีเรียก็อาจแพร่กระจายไปตามส่วนอื่นของร่างกายได้ ซึ่งจะมีผลต่อลิ้นหัวใจ ทำให้เกิดภาวะมีบุตรยาก หรือกระดูกเชิงกรานอักเสบได้

การตรวจหาเพื่อวินิจฉัยโรค

วิธีการตรวจโรคหนองในที่คอจะไม่ใช่เพียงการวิเคราะห์จากอาการของผู้ป่วยเท่านั้น แต่ยังต้องอาศัยการวิเคราะห์จากห้องปฏิบัติการทางการแพทย์เพื่อช่วยในการวินิจฉัยด้วย เช่น

  • การย้อมเชื้อ (Gram Stain) เป็นการตรวจเพื่อจำแนกหาเชื้อแบคทีเรีย แต่อาจไม่สามารถช่วยวินิจฉัยได้ 100% เพราะในลำคอของคนเราจะมีเชื้อโรคอื่นที่มีรูปร่างเหมือนเชื้อหนองในอยู่เป็นจำนวนมาก จึงทำให้ยากต่อการแยกแยะประเภทของเชื้อแบคทีเรีย
  • การเพาะเชื้อ (Bacterial Culture) เป็นวิธีตรวจวินิจฉัยที่แม่นยำที่สุด โดยแพทย์อาจนำเสมหะที่มีเชื้อหนองปะปนอยู่ หรือดูดหนองในลำคอออกมา แล้วนำไปเพาะเลี้ยงในน้ำเลี้ยงเชื้อพิเศษเพื่อรอผลตรวจต่อไป

หากต้องการตรวจโรคแบบเพาะเชื้อ สามารถเข้ารับการตรวจได้ที่ศูนย์กามโรคของกรมควบคุมโรคติดต่อ กระทรวงสาธารณสุข หรือหน่วยกามโรคของโรงพยาบาลรัฐและโรงพยาบาลเอกชนที่ได้มาตรฐาน

การรักษาโรคหนองในที่คอ

หลังจากตรวจวินิจฉัยแล้วว่าเป็นโรคหนองในที่คอ แพทย์อาจจ่ายยาปฏิชีวนะเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียซึ่งเป็นตัวการทำให้เกิดโรค และให้งดมีเพศสัมพันธ์ไปจนกว่าโรคจะหายขาดดี

นอกจากนี้ ผู้ป่วยยังควรพาคู่นอนไปเข้ารับการตรวจด้วยเพื่อความปลอดภัยของทั้ง 2 ฝ่าย

ไม่ควรไปซื้อยามารับประทานเอง เพราะเสี่ยงต่อการได้รับยาที่ไม่ถูกกับเชื้อโรค และทำให้เกิดอาการดื้อยาได้

วิธีป้องกันโรคหรือกลับมาเป็นซ้ำ

ถึงแม้คุณจะรักษาโรคหนองในที่คอจนหายดีแล้ว แต่หากยังมีพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์แบบเดิมๆ ความเสี่ยงที่จะกลับมาเป็นโรคหนองในก็สามารถเกิดขึ้นได้อีกครั้ง

หากคุณปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้ ก็จะช่วยลดโอกาสของการกลับมาเป็นโรคหนองในซ้ำอีกครั้งได้

  • สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้ง และให้สวมอย่างถูกต้องด้วย
  • ไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย และควรมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนของตนเองเพียงเท่านั้น
  • หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ทางปาก
  • ทำความสะอาดอวัยวะเพศหลังขับถ่ายให้เรียบร้อย โดยผู้หญิงควรใช้กระดาษชำระเช็ดจากด้านหน้าไปทางด้านหลังเท่านั้น
  • หากพบว่าตนเองเป็นโรคหนองใน จะต้องงดมีเพศสัมพันธ์ทันที และควรให้คู่นอนได้รับการรักษาควบคู่กันไปด้วย
  • รับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด และอย่าหยุดใช้ยาเองเด็ดขาด

โรคหนองในที่คอเกี่ยวข้องกับการจัดฟันหรือไม่?

โรคหนองในที่คอ เป็นโรคหนองในที่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการจัดฟันแต่อย่างใด

แต่อย่างไรก็ตาม การจัดฟันโดยไม่ได้ผ่านทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และใช้วัสดุดัดฟันที่ไม่ได้มาตรฐาน ก็สามารถทำให้ปากเกิดการติดเชื้อจนมีหนองไหลออกมาได้

กรณีนี้รวมไปถึงการไม่รักษาความสะอาดแผลผ่าตัดในช่องปากด้วย เช่น แผลผ่าฟันคุด แผลถอนฟัน

โรคหนองในแท้และโรคหนองในที่คอ เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียขณะมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ที่เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะต้องรักษาให้หายขาด ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เพราะเชื้อสามารถลุกลามไปยังอวัยวะส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้

วิธีป้องกันที่ดีที่สุด คือ ใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้ง ไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ และหากคุณมีพฤติกรรมเสี่ยงก็ควรตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นประจำทุกปีด้วย

มีคำถามเกี่ยวกับ หนองในคอ? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

หากคุณติดตั้ง LINE บนคอมพิวเตอร์ของคุณแล้ว ระบบจะเปิดบัญชีทางการ LINE ของ Jib AI ผู้ช่วยสุขภาพ โดยอัตโนมัติ

หากคุณยังไม่ได้ติดตั้ง LINE บนเดสก์ท็อป โปรดสแกน QR โค้ดด้วย LINE บนโทรศัพท์มือถือของคุณเพื่อเริ่มแชทกับ Jib AI ผู้ช่วยสุขภาพ