ภาพของผู้ที่เข้ารับการครอบแก้วซึ่งจะมีผิวหนังนูนแดงขึ้นมาอย่างชัดเจน โดยที่ผิวหนังบริเวณนั้นจะเปลี่ยนสีไปจากเดิม ภาพเหล่านี้ทำให้หลายคนอดคิดไม่ได้ว่า “ครอบแก้วแล้วเจ็บไหม?” “ครอบแก้วเจ็บมากหรือเปล่า?“ “ครอบแก้วแล้วช้ำกี่วันจึงจะหาย?” HDmall.co.th มีคำตอบ
สารบัญ
ครอบแก้ว เจ็บไหม?
การครอบแก้ว หรือครอบกระปุก (Cupping Therpy) เป็นวิธีการรักษาของแพทย์แผนจีนรูปแบบหนึ่ง สามารถบำบัดอาการผิดปกติและโรคได้หลากหลาย โดยเฉพาะกลุ่มอาการเจ็บป่วยเกี่ยวกับกล้ามเนื้อ อาการปวดเมื่อยต่างๆ ซึ่งการครอบแก้วให้ผลดีชัดเจน
หลักการทำงานของครอบแก้วคือ การใช้ความร้อนทำให้เกิดภาวะสุญญากาศขึ้นภายในกระปุกแก้วที่จะนำมาครอบ จากนั้นจึงนำกระปุกแก้วร้อนๆ ไปวางยังตำแหน่งต่างๆ ของร่างกายที่มีอาการผิดปกติ หรือวางตามแนวเส้นลมปราณตามหลักแพทย์แผนจีน
ที่สำคัญต้องวางปากกระปุกแก้วทุกใบให้แนบสนิทกับผิวหนังมากที่สุด
แรงดูดสุญญากาศภายในครอบแก้วจะดูดผิวหนังและกล้ามเนื้อของผู้เข้ารับการบำบัดให้ค่อยๆ สูงขึ้น ซึ่งในระหว่างนี้ผู้เข้ารับการครอบแก้วอาจมีอาการเจ็บบ้างเล็กน้อยเหมือนบางอย่างถูกดูด แต่ก็เป็นความเจ็บปวดในระดับที่สามารถทนได้ หรือบางคนแทบไม่รู้สึกเจ็บด้วยซ้ำ
ทำไมผิวหนังหลังครอบแก้วถึงเป็นสีแดง สีม่วง?
เมื่อได้รับความร้อนผิวหนังบริเวณนั้นจะมีการไหลเวียนโลหิตเพิ่มขึ้นอย่างมาก หลอดเลือดฝอยขยายตัวอย่างรวดเร็ว บางรายมีเม็ดเลือดแดงแตก เส้นเลือดฝอยแตกออก สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทำให้เลือดที่เคยคั่ง ไหลเวียนไม่สะดวก ได้ไหลออกจากเส้นเลือดไปอยู่ใต้ผิวหนังแทน
ผิวหนังบริเวณนั้นจะมีสีเข้มขึ้นจากเดิมภายในเวลาไม่กี่นาที แต่ไม่ใช่อาการช้ำแต่อย่างใด
ตำราแพทย์จีนยังระบุว่า สีของผิวหนังที่เปลี่ยนแปลงไปหลังจากครอบแก้วยังสามารถบ่งบอกถึงสภาวะในร่างกายของผู้เข้ารับการครอบแก้วได้ด้วย ดังนี้
- สีชมพูระเรื่อ หมายถึง เลือดลมไหลเวียนปกติ สุขภาพแข็งแรงดี
- สีแดงสด หมายถึง ภายในร่างกายมีความร้อนสะสมอยู่เล็กน้อย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนล้าปานกลาง
- สีแดงอมม่วงคล้ำ หมายถึง ภายในร่างกายมีเลือดคั่งและมีความเย็นอุดตันปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง
- สีเขียวอมม่วง หมายถึง พลังซี่ (ลมปราณ) อ่อนแอ เลือดอยู่ในระดับพร่อง พลังในร่างกายน้อยกว่าปกติ
ร่องรอยจากครอบแก้ว กี่วันหายเป็นปกติ?
หลังครอบแก้ว ผิวหนังของบางคนอาจไม่ปรากฎร่องรอยใดๆ หรือมีรอยเล็กน้อยและจางหายไปหลังจากนั้นไม่นาน กรณีเช่นนี้หมายถึงสุขภาพโดยรวมดี ยังไม่มีอะไรผิดปกติ
ยกเว้นผู้เข้ารับการบำบัดที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐาน เป็นโรคอ้วน หรือเป็นโรคโลหิตจาง ที่สภาพผิวหนังจะไม่เปลี่ยนแปลงนักหลังการครอบแก้ว ซึ่งผิวหนังหลังการครอบแก้วจะแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เป็นเรื่องปกติ
โดยทั่วไปรอยบนผิวหนังที่เกิดจากการครอบแก้วจะค่อยๆ จางลง และกลับเป็นปกติได้เองภายใน 5-7 วัน และสามารถครอบแก้วซ้ำได้อีกครั้งเมื่อผิวหนังกลับเป็นปกติ
แต่หากรอยจากการครอบแก้วไม่จางลงเลย ตำราแพทย์จีนจะตีความว่า มีอาการเจ็บป่วยเรื้อรัง ยังต้องได้รับการครอบแก้วอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษา
อย่างไรก็ตาม หากรอยดังกล่าวสร้างความกังวลใจให้กับคุณ หรือมีอาการผืดปกติ เช่น บวม แดง ปวดแสบปวดร้อน ปวดผิวหนังบริเวณนั้นอย่างรุนแรง มีไข้สูง ควรรีบไปพบแพทย์แผนปัจจุบันเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาต่อไป
ดูแลตัวเองอย่างไรหลังครอบแก้ว?
หลังครอบแก้วเสร็จควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสความเย็น ทั้งการไปอยู่ในสถานที่ที่มีอากาศเย็น การดื่มน้ำเย็น การอาบน้ำเย็น รวมทั้งการประคบเย็น อย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง
เนื่องจากความเย็นที่เข้ามาปะทะร่างกายจะช่วยหยุดเลือดที่ไหลภายในผิวหนัง โดยการทำให้เลือดแข็งตัวและคั่งหนักกว่าเดิม อาการปวดจึงมีมากขึ้น ดังนั้นควรปล่อยให้เลือดไหลเวียนตามธรรมชาติ
นอกจากนี้ยังแนะนำให้จิบเครื่องดื่มอุ่นๆ เช่น น้ำอุ่น ชาร้อน เพื่อกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น และควรพักผ่อนหลังจากครอบแก้ว ไม่ควรไปออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมที่ต้องออกแรง เพราะผู้เข้ารับการบำบัดบางรายอาจมีอาการอ่อนเพลีย
อย่างไรก็ตาม ก่อนเข้ารับการครอบแก้วควรศึกษาหาข้อมูล หรือปรึกษาแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้องเหมาะสม