หลายคนอาจยังสงสัยว่า ตกลงการจัดฟันในปัจจุบันนั้นมีกี่รูปแบบกันแน่ แล้วการจัดฟันแบบไหนที่เหมาะกับตนเอง ทั้งด้านราคา การดูแล ระยะในการจัดฟัน และความถี่ในการต้องมาทันตแพทย์เพื่อเปลี่ยนเครื่องมือจัดฟัน
การจัดฟันโดยหลักๆ ในปัจจุบันที่ผู้คนนิยมทำกัน จะแบ่งออกเป็น 3 แบบได้แก่
- การจัดฟันแบบโลหะรัดยาง
- การจัดฟันแบบดามอน
- การจัดฟันแบบใส (Invisalign)
วันนี้เราจะมาเปรียบเทียบการจัดฟันทั้ง 3 แบบข้างต้นกันว่า มีความแตกต่างกันอย่างไร ทั้งข้อดี ข้อเสีย ระยะเวลาและค่าใช้จ่ายต่างๆ
สารบัญ
การจัดฟันคืออะไร
การจัดฟัน คือ การแก้ไขการเรียงตัวของฟันที่ผิดปกติ ไม่เป็นระเบียบหรือไม่สวยงาม โดยการใช้เครื่องมือจัดการเรียงตัวของฟันภายในช่องปาก ทำให้โครงสร้างของกระดูกรองรับฟันและตำแหน่งของฟันค่อยๆ เปลี่ยนไปทีละน้อย
เปรียบเทียบการจัดฟันแบบต่างๆ
การจัดฟันแบบ Invisalign
เรียกอีกชื่อว่า “การจัดฟันแบบใส” เพราะเป็นการจัดฟันโดยใช้เครื่องมือที่เป็นแผ่นวัสดุใสๆ บางๆ แทนการนำเครื่องมือจัดฟันไปติดแน่นไว้บนฟัน
ก่อนอื่นผู้เข้ารับบริการจะต้องมีการสแกนฟันทั่วทั้งช่องปาก เอ็กซเรย์ดูกระดูกและเสียก่อน เพื่อวางแผนการจัดฟันและเตรียมผลิตเครื่องมือที่จำเพาะต่อฟันของผู้เข้ารับบริการแต่ละรายโดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์
นอกจากนี้เรายังสามารถถอดและใส่เครื่องมือจัดฟันแบบใสเองได้ด้วย
- ข้อดี
- ดูสวยงามกว่าการจัดฟันทั่วไป เนื่องจากไม่มีเหล็กติดกับด้านหน้าของฟัน และสีดูกลมกลืนไปกับเนื้อฟันด้วย
- ทำความสะอาดช่องปากได้ง่าย เพียงถอดเครื่องมือและแปรงฟันตามปกติ
- ไม่ต้องกังวลเรื่องเศษอาหารติดกับเครื่องมือจัดฟัน เนื่องจากถอดเครื่องมือขณะรับประทานอาหาร
- ไม่ส่งผลต่อการออกเสียงพูด
- เครื่องมือจัดฟันสามารถถอดออกมา แปรงล้างทำความสะอาดได้ง่าย
- ข้อเสีย
- มีราคาสูงกว่าการจัดฟันแบบอื่น โดยเฉพาะหากฟันมีการซ้อนเกมาก ก็จะต้องใช้เครื่องมือหลายชิ้น ราคาก็จะยิ่งสูง
- ระยะเวลา 1-3 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพฟัน
- ราคา ประมาณ 60,000-250,000 บาท ขึ้นไป
- การดูแล
- ต้องใส่เครื่องมือจัดฟันไว้ตลอด ยกเว้นเวลารับประทานอาหารและแปรงฟัน
- ให้แปรงและล้างเครื่องมือจัดฟันด้วยน้ำสะอาดอยู่เสมอ โดยใช้สบู่อ่อน
- ต้องมาพบทันตแพทย์ทุก 2-3 เดือน เพื่อติดตามผลการจัดฟัน หรือตามที่ทันตแพทย์นัด
- เหมาะกับใคร ผู้ที่ไม่ต้องการใส่เครื่องมือจัดฟันแบบติดแน่น หรือไม่อยากให้ผู้อื่นเห็นว่าจัดฟันอยู่ ต้องการความสะดวกในการแปรงฟันทำความสะอาด
การจัดฟันแบบดามอน
การจัดฟันด้วยเครื่องมือดามอน (Damon) เป็นการจัดฟันที่ไม่ต้องใส่ยางรัดฟัน ซึ่งจะทำให้การเคลื่อนที่ของตำแหน่งฟันทำได้เร็วขึ้น และใช้แรงในการดึงฟันที่ค่อนข้างน้อย นุ่มนวล คงที่ จึงทำให้ผู้เข้ารับบริการไม่รู้สึกเจ็บปวดมากเวลามาเปลี่ยนลวด
- ข้อดี
- ใช้เวลาจัดฟันน้อยกว่า เพราะการเคลื่อนที่ของฟันจะเกิดขึ้นได้เร็ว
- เจ็บน้อยกว่า เพราะใช้แรงในการดึงฟันอย่างนุ่นนวล
- อาจไม่จำเป็นต้องถอนฟันในระหว่างจัดฟันด้วย
- ไม่ต้องมาพบทันตแพทย์ทุกเดือน
- ข้อเสีย
- ราคาการจัดฟันค่อนข้างสูง
- เครื่องมือจัดฟันก็ยังคงต้องการการทำความสะอาดอย่างดี มิฉะนั้นอาจเกิดหินปูนได้ง่าย จึงต้องดูแลความสะอาดมากกว่าการจัดฟันแบบใส
- ต้องให้ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทำให้ เนื่องจากเครื่องมือมีความซับซ้อน
- ระยะเวลา 6 เดือน -2 ปี หรืออาจนานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับสภาพฟัน
- ราคา ประมาณ 70,000-95,000 บาทขึ้นไป
- การดูแล
- เพราะลักษณะเครื่องมือจัดฟันจะประกอบด้วยแบร็คเก็ตและลวด ผู้เข้ารับบริการจึงต้องทำความสะอาดตามคำแนะนำของทันตแพทย์อยู่เสมอ
- บางกรณีผู้เข้ารับบริการอาจต้องใส่ยางดึงฟันด้วยเพื่อลดโอกาสต้องถอนฟัน และเพื่อทำให้ระดับฟันหลังจากจัดฟันแล้วสบกันดีขึ้น และควรเปลี่ยนยางทุกวัน
- เหมาะกับใคร ผู้ที่ไม่มีเวลามาพบทันตแพทย์บ่อยๆ และไม่ต้องการถอนฟัน
การจัดฟันแบบลวดโลหะธรรมดา
เป็นวิธีการจัดฟันชนิดติดแน่น โดยทันตแพทย์จะใช้วัสดุเป็นลวดโลหะไร้สนิมคาดทับฟันให้เคลื่อนไปอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม พร้อมกับใช้ยางจัดฟันซึ่งสามารถเลือกสีสันต่างๆ ได้
อีกทั้งราคาค่าจัดฟันยังถูกที่สุดเมื่อเทียบกับการจัดฟันชนิดอื่น ด้วยสาเหตุนี้เองจึงทำให้การจัดฟันแบบลวดเหล็กธรรมดาเป็นการจัดฟันที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น
แต่มีข้อเสียคือ เจ็บ ผู้เข้ารับบริการจะต้องมาพบทันตแพทย์ทุกเดือน เพื่อปรับเครื่องมือจัดฟัน และเปลี่ยนยางจัดฟันที่เสื่อมสภาพ
- ข้อดี
- ราคาถูกที่สุด
- สามารถเปลี่ยนสียางจัดฟันได้ทุกครั้งที่มาพบทันตแพทย์ และเลือกสียางจัดฟันได้ตามต้องการ
- ข้อเสีย
- ไม่เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการให้เห็นเครื่องมือจัดฟันในช่องปาก
- เครื่องมือจัดฟันใช้แรงในการดึงฟันค่อนข้างมาก จึงมักจะทำให้รู้สึกเจ็บ
- ส่วนมากจำเป็นต้องมีการถอนฟันระหว่างจัดฟันด้วย
- ผู้เข้ารับบริการจำเป็นต้องมาพบทันตแพทย์ทุกเดือน ทำให้ต้องมีการจัดตารางเวลาตามนัดอยู่เสมอ
- ระยะเวลา 1-5 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพฟัน
- ราคา ประมาณ 45,000-65,000 บาทขึ้นไป
- การดูแล
- ให้ทำความสะอาดช่องปากด้วยการแปรงฟันตามปกติ ใช้ไหมขัดฟันรูปแบบเฉพาะสำหรับคนไข้จัดฟัน และใช้แปรงซอกฟันแปรงระหว่างแบร็คเก็ต ลวด และฟันให้สะอาด
- หลีกเลี่ยงอาหารที่แข็งและเหนียว เพราะเศษอาหารอาจไปติดตามเหล็กจัดฟันได้ อีกทั้งยังอาจทำให้เครื่องมือหักหรือหลุดได้
- ต้องมาพบทันตแพทย์ทุกๆ 3-5 สัปดาห์
- เหมาะกับใคร เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย แต่ต้องให้ทันตแพทย์เป็นผู้พิจารณาตามความเหมาะสมด้วย
การจัดฟันแต่ละรูปแบบจะมีจุดเด่นและข้อดี ข้อเสีย ที่แตกต่างกันไป ซึ่งผู้เข้ารับบริการอยากจะจัดฟันแบบไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับความต้องการและลักษณะฟันของแต่ละบุคคล
แต่วิธีที่ดีที่สุดในการเลือกวิธีการจัดฟันก็คือ การเข้าตรวจสภาพฟันและปรึกษากับทันตแพทย์เพื่อประเมินและพิจารณาการจัดฟันตามความเหมาะสม