คิ้วเปรียบเสมือนมงกุฎของใบหน้าที่ช่วยให้ใบหน้าดูโดดเด่น สวยงาม และมีมิติ หลายคนจึงให้ความสนใจกับการปรับแต่งคิ้วเป็นอย่างมาก การ “ยกคิ้ว” จึงกลายเป็นหนึ่งในบริการที่พบได้มากตามคลินิกเสริมความงามทั่วไป ซึ่งปัจจุบันการยกคิ้วเองก็มีด้วยกันหลายวิธี ทั้งการฉีด Botulinum Toxin การฉีด Filler การร้อยไหม ไปจนถึงการใช้ HIFU แต่วิธีต่างๆ ที่กล่าวมานี้เป็นเพียงการยกคิ้วแก้ปัญหาในระยะสั้นไม่เกิน 1-2 ปีเท่านั้น
สารบัญ
ยกคิ้วคืออะไร?
การยกคิ้ว (Brow Lift) เป็นเทคนิคการผ่าตัดผิวหนังบริเวณคิ้ว เพื่อยกกระชับผิวให้ปลายคิ้วยกสูงขึ้นในระดับที่พอเหมาะ ช่วยแก้ปัญหาคิ้วตก คิ้วไม่เท่ากัน หนังตาตก หางตาตก
ปกติแล้วการยกคิ้วเป็นส่วนหนึ่งของศัลยกรรมดึงหน้าหรือหน้าผาก โดยการผ่าตัดจะทำให้เปลือกตาเต่งตึงเรียบเนียนขึ้น และหากทำร่วมกับการดึงหน้า ดึงหน้าผาก หรือการทำตาสองชั้น จะช่วยกำจัดหนังตาส่วนเกิน มองเห็นตาสองชั้นชัดเจนขึ้น เพราะเป็นการเพิ่มพื้นที่บริเวณรอบดวงตา ทำให้ดวงตาดูโตและสดใสขึ้น
ยกคิ้วมีกี่เทคนิค?
ปัจจุบันมีการผ่าตัดยกคิ้วทั้งหมด 4 เทคนิคหลักๆ มีข้อแตกต่างกัน ดังต่อไปนี้
1. ยกคิ้วเทคนิค Direct Brow Lift
การยกคิ้วเทคนิค Direct Brow Lift เป็นวิธียกคิ้วที่ทำง่ายไม่ยุ่งยาก เริ่มด้วยการฉีดยาชา จากนั้นแพทย์จะกรีดแผลบริเวณขอบคิ้วด้านล่างหรือด้านบนแล้วแต่กรณี และเย็บชั้นผิวหนังช่วงบนให้ตึงเพื่อยกคิ้วขึ้นมา ซึ่งเทคนิคนี้ดูแลแผลผ่าตัดได้ง่าย เหมาะสำหรับคนที่มีโรคประจำตัวเพราะไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ แต่จะเห็นแผลเส้นสีขาวบริเวณคิ้วค่อนข้างชัดเจน จึงเหมาะกับผู้ที่ทำคิ้วถาวรอยู่แล้วหรือต้องการทำคิ้วถาวร เพราะแผลเป็นที่เกิดจากการดึงคิ้วจะสามารถซ่อนอยู่ในรอยสักคิ้วได้ หรือผู้ที่มีผิวขาวเนื่องจากจะเห็นแผลเป็นไม่ชัดเจน
2. ยกคิ้วเทคนิค Pretrichial Brow Lift
การยกคิ้วเทคนิค Pretrichial Brow Lift เป็นวิธีที่นิยมในอดีต แพทย์จะทำการกรีดตลอดแนวยาวเหนือหน้าผากขึ้นไป เพื่อดึงคิ้วยกขึ้นในตำแหน่งที่เหมาะสม ซึ่งข้อดีของเทคนิคนี้จะช่วยปรับผิวหนังบริเวณใบหน้าให้ดูเต่งตึง แต่จะมีแผลเป็นแนวยาวหลังผ่าตัดและใช้เวลาพักฟื้นที่ค่อนข้างนานเนื่องจากต้องวางยาสลบ แต่ข้อเสียคือหน้าผากและคิ้วจะยกขึ้นพร้อมกัน ซึ่งอาจไม่ได้ระยะที่สวยงามของคิ้ว และผู้รับบริการส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้เปิดแผลขนาดใหญ่ วิธีนี้จึงไม่เป็นที่นิยมแล้วในปัจจุบัน
3. ยกคิ้วเทคนิค Temporal Lift
การยกคิ้วเทคนิค Temporal Lift หรือที่หลายคนเรียกว่าการดึงขมับ เพราะแพทย์จะกรีดบริเวณขมับเพื่อปรับคิ้วด้านข้างให้สูงขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ต้องการแก้ไขหางคิ้วหรือหางตาตก และช่วยดึงรอยย่นบนผิวหนังให้ลดน้อยลง ส่งผลให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์มากขึ้น แต่วิธีการผ่าตัดยกคิ้วแบบนี้จะทำให้เห็นรอยแผลผ่าตัดชัดเจน ไม่สามารถซ่อนรอยแผลได้ จึงไม่เป็นที่นิยมนัก
4. การผ่าตัดยกคิ้วผ่านกล้อง (Endoscopic Brow Lift)
การผ่าตัดยกคิ้วผ่านกล้อง เป็นการผ่าตัดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน โดยใช้วัสดุที่เรียกว่า เอ็นโดไทน์ (Endotine) เข้ามาช่วยยึดเกาะด้านในเพื่อให้คิ้วได้รูปทรงตามที่ต้องการ
อย่างไรก็ตาม ทั้ง 4 เทคนิคที่กล่าวมามีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป ผู้ที่สนใจรับบริการควรเข้าปรึกษาแพทย์เพื่อให้เลือกเทคนิคที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละบุคคลก่อนตัดสินใจ
ยกคิ้ว Endotine คืออะไร?
การผ่าตัดยกคิ้วผ่านกล้องขนาดเล็กที่เรียกว่า Endoscopic เป็นการผ่าตัดเปิดแผลบริเวณเหนือหน้าผากใต้ไรผม โดยกำหนดจุดแผลให้สอดกล้องได้ 3-5 จุด และจุดแผลตรงกับตำแหน่งหัวตาและหางตาของคิ้วทั้งสองข้าง แล้วแพทย์จะติดวัสดุที่เรียกว่า “Endotine Transbleph” ที่ทำหน้าที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและยึดเกาะด้านใน เพื่อให้ได้รูปทรงคิ้วตามที่ต้องการ ทั้งนี้การผ่าตัดทุกขั้นตอน จะสามารถเห็นทุกรายละเอียดผ่านทางจอมอนิเตอร์ ฉะนั้นการผ่าตัดจึงมีความปลอดภัยสูง ไม่เกิดผลข้างเคียงต่อเส้นประสาท เส้นเลือด เนื้อเยื่อ และไม่ต้องทำการกรีดแผลยาวเหมือนการผ่าตัดยกคิ้วทั่วไป ทำให้รอยแผลผ่าตัดมีขนาดเล็ก แผลสามาถผสานกันหายได้เร็ว มีอาการบวมและชาค่อนข้างน้อยใช้เวลาพักฟื้นสั้นแม้จะเป็นการดมยาสลบ และยังสามารถซ่อนไว้บริเวณไรผมด้านหน้าได้ด้วย
ทั้งนี้ปัจจุบันการยกคิ้ว ด้วยวัสดุเอ็นโดไทน์ (Endotine) เป็นเทคนิคการยกคิ้ว และดึงหน้าผากที่ได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน โดยการดึงเซลล์ผิวหนังแบบละเอียดด้วยวัสดุเอ็นโดไทน์ ซึ่งเป็นวัสดุทางการแพทย์ ที่มีคุณสมบัติพิเศษเพื่อการยกกระชับผิวหนัง และได้รับการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานหลักของรัฐบาลเกาหลีที่ควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร (Korea Food & Drug Administration: KFDA) และองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (Food and Drung Administration: U.S. FDA) โดยแพทย์จะฝังเอ็นโดไทน์ลงไปที่กระดูกบริเวณหน้าผาก ซึ่งเข้าไปช่วยเสริมสร้างพังผืดใหม่ให้ตึงกระชับ ยึดเนื้อเยื่อ ให้คิ้วยกขึ้น
โดยข้อดีของการยกคิ้วด้วย Endotine
- ให้ผลลัพธ์นานถึง 5-20 ปี
- คิ้วโก่งได้รูปสวย ส่งให้ดวงตาดูโตและสดใสขึ้น
- ลดรอยย่นบริเวณหน้าผาก ระหว่างคิ้ว
- แก้ปัญหาคิ้วตกเพราะผิวหนังบริเวณคิ้วยกสูงและกระชับขึ้น
- แก้ปัญหาหนังตาตก และขจัดหนังตามาก ทำให้ดวงตาดูโต และชั้นตาชัดขึ้น
- มีแผลขนาดเล็กบนหน้าผาก และสามารถซ่อนรอยแผลไว้ที่ไรผมได้
- มีผลข้างเคียงจากแผลผ่าตัดน้อยมาก เพราะเป็นการผ่าตัดผ่านกล้อง
- ใช้ระยะเวลาพักฟื้นสั้น แผลผสานได้เร็ว
- มีความปลอดภัยสูง ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย เพราะเอ็นโดไทน์สามารถสลายไปเองภายใน 6-12 เดือน
ยกคิ้วเหมาะกับใคร?
ผู้ที่มีเงื่อนไขตรงกับข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้ สามารถเข้าปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณายกคิ้วได้
- ผู้ที่มีปัญหาคิ้วตกไม่สวยงาม กระทบต่อการมองเห็น เพราะหนังตาทั้งสองข้างหย่อนลงมาปิดชั้นตา
- ผู้ที่มีคิ้วทั้งสองข้างไม่เท่ากัน
- ผู้ที่มีหางตาตก ทำให้ใบหน้าดูเศร้า ไม่สดใส
- ผู้ที่มีหนังตามาก หนังตาหย่อนคล้อย และริ้วรอยบริเวณเปลือกตามาก
- ผู้ที่มีระยะห่างระหว่างคิ้วและดวงตาดูแคบ ทำให้หน้าดุและดูมีอายุ
- ผู้ที่ต้องการปรับทรงคิ้วให้สวยได้สัดส่วนมากขึ้น
- ผู้ที่เคยทำตาสองชั้น หรือมีตาสองชั้นอยู่แล้ว แต่มีเปลือกตาหนา หนังตาตก ทำให้มองเห็นชั้นตาไม่ชัดเจน
- ผู้ที่มีอายุมากขึ้น ทำให้คิ้วเลื่อนตำแหน่งลงมาใกล้ตามากขึ้น
- ผู้ที่มีปัญหาคิ้วตกร่วมกับรอยตีนกาและรอยย่นบนหน้าผากจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาโดยการผ่าตัดหนังตาบนเพียงอย่างเดียว
ยกคิ้วไม่เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่สักคิ้วสูงเหนือโครงคิ้วพื้นฐานของตัวเอง
- ผู้ที่เสริมหน้าผากด้วยซิลิโคน
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวที่อาจส่งผลต่อการผ่าตัด เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจ มะเร็ง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
- ผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี (HIV)
การเตรียมตัวก่อนยกคิ้ว
- ปรึกษาแพทย์ ถึงขั้นตอนการผ่าตัด การดูแลหลังผ่าตัดและผลลัพธ์ที่คาดหวัง รวมทั้งแจ้งประวัติหากเคยยกคิ้วมาก่อน
- หากมีโรคประจำตัว ยาที่กินเป็นประจำ หรือมีประวัติแพ้ยาใดๆ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนรับการผ่าตัด
- งดยาละลายลิ่มเลือด ยาสเตียรอยด์ ยาแก้ปวด ยาลดกล้ามเนื้ออักเสบ อาหารเสริมทุกชนิด และยาสมุนไพรที่มีคุณสมบัติลดอาการบวมช้ำประมาณ 2 สัปดาห์
- งดสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อ ประมาณ 2 สัปดาห์
- งดรับประทานอาหารและดื่มน้ำ สำหรับผู้ต้องผ่าตัดโดยใช้ยาสลบ อย่างน้อย 6 ชั่วโมง
- งดแต่งหน้า ใส่น้ำหอม ทาเล็บ ใส่คอนแทคเลนส์ และใส่เครื่องประดับ ในวันผ่าตัด
- ควรอาบน้ำ ล้างหน้าให้สะอาด และสระผม ก่อนวันผ่าตัด
- แจ้งแพทย์หากมีอาการเจ็บป่วย เช่น มีไข้ ไอ เจ็บคอ ท้องเสีย มีแผลติดเชื้อ ตาแดง ตาเจ็บ เป็นต้น อย่างน้อย 2 วัน ก่อนผ่าตัด
- ควรมาถึงโรงพยาบาล ล่วงหน้าประมาณ 2 ชั่วโมง
- ควรสวมเสื้อใส่สบาย ไม่รัดรูป และมีกระดุมหน้า เพื่อความสะดวกในการถอดเปลี่ยนชุด
- ควรมีญาติหรือผู้ดูแลขับรถ หรือการใช้บริการรถสาธารณะ ในการเดินทางกลับบ้าน
ขั้นตอนการยกคิ้ว
ขั้นตอนการผ่าตัดยกคิ้วแบบทั่วไป
- แพทย์ประเมินและวางแผนการผ่าตัด
- แพทย์ฉีดยาชาเฉพาะจุด บริเวณกำหนดที่จะกรีดรอยแผลยาว เช่น บริเวณใต้คิ้ว เพื่อยกกล้ามเนื้อและผิวหนังขึ้นไปชิดขอบใต้คิ้ว
- แพทย์เย็บปิดแผล
ขั้นตอนการผ่าตัดยกคิ้วผ่านกล้อง
- แพทย์ประเมินและกำหนดจุดเล็กๆ เพื่อเปิด ปิดแผล 3-5 จุด บริเวณไรผมเหนือหน้าผาก ที่จะให้กล้องสอดเข้าไปได้ ไม่ต้องกรีดแผลยาวเหมือนการผ่าตัดแบบมาตรฐาน
- ผู้รับบริการดมยาสลบ
- แพทย์ดึงหน้าผาก เพื่อให้คิ้วยกขึ้น และฝังวัสดุเอ็นโดไทน์ลงไป
- แพทย์เย็บปิดแผล โดยจะซ่อนแผลไว้ใต้ไรผม
โดยรวมระยะเวลาในการผ่าตัดทั้งสองแบบประมาณ 1 ชั่วโมง
การดูแลตัวเองหลังยกคิ้ว
หลังการผ่าตัดยกคิ้ว ควรหมั่นทำความสะอาดแผลด้วยน้ำเกลือ และทายาฆ่าเชื้อด้วยคอตตอนบัต เบาๆ ซึ่งในช่วง 1-3 วันแรก ผู้รับบริการบางรายอาจมีอาการตึงชาบริเวณหน้าผาก และอาการจะดีขึ้นใน 4 วันเป็นต้นไป โดยผู้ผ่าตัดควรดูแลตัวเองหลังยกคิ้ว ดังต่อไปนี้
- นอนหนุนหมอนสูง ในช่วง 2-3 คืนแรก หลังผ่าตัด
- ใช้ทิชชูเปียกหรือสำลีชุบน้ำทำความสะอาดใบหน้า หลีกเลี่ยงไม่ให้แผลโดนน้ำ ในช่วง1-3 วันแรก สามารถล้างหน้าและสระผมได้ในวันที่ 4
- หมั่นประคบเย็นอย่างสม่ำเสมอ ในช่วง 3-7 วัน รอบบริเวณที่ติดพลาสเตอร์
- ประคบอุ่นในวันที่ 7 เป็นต้นไป เมื่อแกะพลาสเตอร์ออกแล้ว
- งดออกกำลังกายหนัก ประมาณ 2-4 สัปดาห์
- งดเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ ประมาณ 2-4 สัปดาห์
- งดอาหารหมักดอง อาหารทะเล กะปิ ปลาร้า ประมาณ 3 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการนอนตะแคงทับแผล หรือขยี้ตา ประมาณ 3 เดือน
- หลีกเลี่ยงแสงแดด และทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF50 ขึ้นไป เนื่องจากใน 1 เดือนแรกแผลจะมีความไวต่อแสงแดด
- รับประทานยาจนครบ และปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลตัวเองจากแพทย์อย่างเคร่งครัด
ยกคิ้วแล้วแต่งหน้าได้ไหม?
การผ่าตัดยกคิ้ว จะให้งดแต่งหน้าในวันผ่าตัด และในช่วง 1-4 วัน หลังจากนั้น เมื่อแผลแห้งสนิทจะสามารถล้างหน้าได้ปกติ และสามารถเขียนคิ้ว แต่งหน้าได้ตามปกติ แต่บางรายอาจมีอาการเจ็บเล็กน้อยเมื่อมีการเขียนคิ้ว
อย่างไรก็ตาม แม้ผ่าน 4 วันไปแล้ว แผลผ่าตัดยังไม่แห้งสนิท ก็ควรรอให้แห้งสนิทก่อนจึงเริ่มแต่งหน้า เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อที่อาจเกิดจากเครื่องสำอางได้
ผลข้างเคียงจากการยกคิ้ว
ผลข้างเคียงที่เกิดจากการผ่าตัดยกคิ้วเหมือนกับการผ่าตัดทั่วไป แต่อาจจะน้อยกว่า เพราะเป็นการผ่าตัดเล็ก และหากเป็นการผ่าตัดยกคิ้วผ่านกล้องจะมีปลอดภัยและผลข้างเคียงน้อยมาก แต่โดยทั่วไปผลข้างเคียงที่อาจพบได้ ได้แก่
- อาการปวดบวมซึ่งสามารถรับประทานยาเพื่อบรรเทาอาการได้
- อาการติดเชื้อจากแผลผ่าตัด
- มีเลือดออกมากบริเวณแผลผ่าตัด
- แผลหายช้าหรือขอบแผลหายไม่สนิท
- เส้นประสาทในตำแหน่งใกล้เคียงแผลถูกกระทบกระเทือน ส่งให้เป็นอัมพาตชั่วคราวบริเวณคิ้ว หรือมีอาการชาชั่วคราวหนังศีรษะบางส่วน
โดยหากมีอาการข้างต้นที่มากกว่าปกติ ควรกลับไปพบแพทย์เพื่อแก้ไขต่อไป
ยกคิ้วอยู่ได้นานไหม?
การผ่าตัดยกคิ้วให้ผลลัพธ์กึ่งถาวร มีอายุนานถึงถึง 5-20 ปี ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นร่วมด้วย เช่น การใช้ชีวิต การดูแลรักษา และอายุที่เพิ่มขึ้น เป็นต้น โดยเฉพาะการผ่าตัดยกคิ้วโดยใช้วัสดุ Endotine จะให้ผลลัพธ์ชัดเจนรวดเร็ว มีอาการเจ็บน้อย ใช้เวลาพักฟื้นสั้น ไม่เป็นแผลเป็น และมีอายุนาน อีกทั้งมีความปลอดภัยสูงกว่าการผ่าตัดยกคิ้ว หรือดึงหน้าในแบบเก่า และปรับโครงหน้าให้ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าด้วย
คิ้วตก นอกจากส่งผลให้ใบหน้าดูไม่สวยงาม ดูโทรม แก่กว่าวัยแล้ว ยังอาจส่งผลต่อสุขภาพได้อีกด้วย โดยอาจทำให้เนื้อเยื่อช่วงหางตาตกลงมารบกวนการมองเห็นได้ การยกคิ้ว จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างได้ประสิทธิภาพ และให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน ทำให้ดวงตากลับมาสวย สดใส ดูอ่อนเยาว์