โรคมะเร็งเป็นโรคร้ายที่เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ หากโรคเข้าสู่ระยะรุนแรงและเชื้อมะเร็งได้ลุกลามไปยังเนื้อเยื่อและอวัยวะใกล้เคียง หรืออวัยวะสำคัญ
โรคมะเร็งสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชายทุกวัย โดยทั้งสองเพศต่างก็มีความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งที่ต่างชนิดกันไป
สถิติ พ.ศ. 2562 ของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขพบว่า โรคมะเร็งที่คร่าชีวิตผู้หญิงเป็นอันดับหนึ่งคือ โรคมะเร็งเต้านม อันดับสองคือ โรคมะเร็งปากมดลูก และอันดับสามคือ โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
จากตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่ของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ประเทศไทย พ.ศ. 2562 พบว่า โรคมะเร็งที่มักเกิดขึ้นในผู้ชาย 3 อันดับแรก ได้แก่
- โรคมะเร็งตับ (จำนวนผู้ป่วยใหม่ 226 ราย)
- โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ (จำนวนผู้ป่วยใหม่ 204 ราย)
- โรคมะเร็งปอด (จำนวนผู้ป่วยใหม่ 134 ราย)
ในผู้ที่มีความเสี่ยง เช่น ทำงานอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อาจมีสารก่อมะเร็ง สารเคมี มลพิษ ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮออล์เป็นเวลานานๆ ใช้สารเสพติดเป้นประจำ
หรือมีข้อบ่งชี้ทางสุขภาพ เช่น มีเนื้องอก มีคนในครอบครัวเคยเป็นมะเร็งมาก่อน จึงควรมีการตรวจสุขภาพเพื่อหาความเสี่ยงของโรคมะเร็งเหล่านี้ตามช่วงอายุที่แนะนำ หรือตรวจตามคำแนะนำของแพทย์
สารบัญ
โรคมะเร็งที่พบบ่อยในผู้ชายมีอะไรบ้าง?
1. โรคมะเร็งตับ
โรคมะเร็งตับ (Liver cancer) ถือเป็นโรคมะเร็งที่เกิดขึ้นในผู้ชายเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย โดยมีปัจจัยเสี่ยงมาจากพฤติกรรมเสพติดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลานานๆ
การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงในปริมาณมากๆ ติดต่อกันเป็นเวลานานจนไขมันไปพอกที่ตับ รวมทั้งการได้รับสารพิษจากอาหารและสิ่งแวดล้อม
ผู้ป่วยโรคไวรัสตับอักเสบบีและซี ถือเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งตับมากกว่าที่อื่น รวมถึงผู้ป่วยโรคตับแข็ง (Cirrhosis) ซึ่งเกิดจากเนื้อเยื่อตับถูกทำลาย และได้รับความเสียหายจากการรับสารพิษเป็นระยะเวลานาน โดยเฉพาะสารพิษจากสุรา ทำให้เกิดพังผืดไปเกาะตับ
ระยะของโรคมะเร็งตับจะแบ่งออกได้ 4 ระยะ โดยอาการของแต่ละระยะจะมีดังต่อไปนี้
- ระยะที่ 1 และ 2 ก้อนมะเร็งจะมีขนาดประมาณ 2 เซนติเมตร มักจะไม่มีอาการแสดงออกมา ผู้ป่วยหลายรายจึงอาจไม่รู้ว่า ตนเองเป็นโรคมะเร็งตับ แต่บางรายอาจมีอาการผิดปกติบ้าง เช่น อ่อนเพลีย ปวดท้อง ท้องอืด
- ระยะที่ 3 และ 4 เป็นระยะที่เชื้อมะเร็งลุกลามไปสู่อวัยวะใกล้เคียง และต่อมน้ำเหลืองแล้ว ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการอื่นๆ ที่สังเกตได้ชัดขึ้น เช่น ตัวเหลือง ตาเหลือง คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้องด้านขวาบนอย่างรุนแรง
2. โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ (Colorectal cancer) เป็นอีกโรคที่พบได้เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทย โดยไม่ได้เกิดในผู้ชายเท่านั้น แต่ยังเกิดในผู้หญิงเป็นจำนวนมากด้วยเช่นกัน แต่กลุ่มผู้ที่มีโอกาสเป็นโรคมะเร็งชนิดนี้มากที่สุดจะเป็นผู้สูงอายุเพศชาย อายุประมาณ 50-70 ปี
ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ จะได้แก่ พฤติกรรมการรับประทานเนื้อสัตว์เป็นประจำ แต่รับประทานผัก ผลไม้ อาหารที่มีกากใยอาหารน้อย ไม่ออกกำลังกาย เสพติดการบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
ผู้ที่มีอาการท้องผูกเป็นประจำยังมีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วย และผู้ที่เคยมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ หรือมีความผิดปกติเกี่ยวกับลำไส้ ก็มีโอกาสเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่มากกว่าคนทั่วไป
ระยะของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่แบ่งออกได้ 4 ระยะ โดยอาการของแต่ละระยะจะมีดังต่อไปนี้
- ระยะที่ 1 เชื้อมะเร็งจะเติบโตอยู่แค่ในเนื้อเยื่อชั้นในสุดของผนังลำไส้ใหญ่เท่านั้น หรืออาจลุกลามไปถึงเนื้อเยื่อในชั้นกลางด้วย
- ระยะที่ 2 แบ่งเป็น 2A และ 2B โดยระยะ 2A เซลล์มะเร็งจะมีการลุกลามไปยังเนื้อเยื่อชั้นกลางของลำไส้ใหญ่ รวมถึงเนื้อเยื่อบริเวณโดยรอบ ส่วนระยะ 2B เซลล์มะเร็งจะลุกลามจากเนื้อเยื่อไปสู่อวัยวะอื่นๆ ใกล้กับลำไส้ใหญ่ รวมถึงเนื้อเยื่อบุช่องท้อง
- ระยะที่ 3 แบ่งเป็น 3A 3B และ 3C โดย 3A จะเป็นระยะที่เซลล์มะเร็งลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลืองข้างเคียงประมาณ 3 ต่อม 3B จะเป็นระยะที่เซลล์มะเร็งลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลือง รวมถึงเนื้อเยื่อลำไส้ส่วนปลาย เนื้อเยื่อชั้นกลางของผนังลำไส้ใหญ่ และอวัยวะใกล้เคียง ส่วนระยะ 3C เป็นระยะที่เซลล์มะเร็งลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลือง 4 ต่อมขึ้นไป ร่วมกับลุกลามไปยังเนื้อเยื่อชั้นกลางของผนังลำไส้ใหญ่ เนื้อเยื่อรอบๆ ลำไส้ใหญ่ และลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย รวมถึงอวัยวะใกล้เคียงกับเยื่อบุช่องท้อง
- ระยะที่ 4 เป็นระยะที่เซลล์มะเร็งลุกลามจากลำไส้ใหญ่ออกไปยังต่อมน้ำเหลืองของอวัยวะส่วนอื่น และแพร่กระจายออกไปทั่วถึงอวัยวะซึ่งไกลออกไปอีกอย่างตับ และปอด
3. โรคมะเร็งปอด
โรคมะเร็งปอด (Lung Cancer) มีปัจจัยเสี่ยงมาจากพฤติกรรมการสูบบุหรี่ การเสพยาเสพติดประเภทสูดเข้าจมูกอย่างกัญชาและโคเคน รวมถึงการรับสารพิษเข้าสู่ปอดมากเกินไป เช่น สารหนู นิเกิล สารกัมมันตภาพรังสี ถ่านหิน
โรคมะเร็งปอดแบ่งออกได้ 2 ชนิด ได้แก่
- โรคมะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็ก (Small cell lung cancer) เป็นโรคมะเร็งปอดชนิดรุนแรง สามารถลุกลามออกนอกเนื้อปอดได้ มักเกิดขึ้นบริเวณใกล้ขั้วปอด
- โรคมะเร็งปอดชนิดเซลล์ไม่เล็ก (Non-small cell lung cancer) เป็นโรคมะเร็งปอดที่มีการดำเนินของโรคค่อนข้างช้า สามารถแบ่งออกได้ 4 ระยะ โดยเชื้อมะเร็งจะเริ่มลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลืองที่ขั้วปอดในระยะที่ 2 และในระยะ 3 กับ 4 เชื้อมะเร็งจะแพร่กระจายไปยังอวัยวะใกล้เคียง
4. โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก (Prostate Cancer) เกิดจากการแบ่งตัวของเซลล์ต่อมลูกหมากที่เจริญเติบโตมากผิดปกติ พบมากในผู้ชายอายุ 50 ปีขึ้นไปในผู้ชายทั่วโลก
ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมากมักไม่ได้มาจากพฤติกรรมการสูบบุหรี่ หรือบริโภคแอลกอฮอล์ แต่อาจเกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง มีภาวะอ้วน หรือน้ำหนักเกิน
นอกจากนี้ผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวที่เป็นผู้ชายเคยเป็นโรคมะเร็งมาก่อน ก็มีโอกาสเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้สูงเช่นกัน
ระยะของโรคมะเร็งต่อมลูกหมากแบ่งออกได้ 4 ระยะ ได้แก่
- ระยะที่ 1 เป็นระยะที่เชื้อมะเร็งยังอยู่ในต่อมลูกหมาก ซึ่งจะอยู่รอบๆ ท่อปัสสาวะส่วนต้น
- ระยะที่ 2 เชื้อมะเร็งยังคงอยู่ในต่อมลูกหมากและยังไม่ได้ลุกลามออกไปด้านนอก
- ระยะที่ 3 เชื้อมะเร็งเริ่มลุกลามออกไปอุดทางเดินปัสสาวะ รวมถึงอวัยวะรอบๆ ต่อมลูกหมาก
- ระยะที่ 4 เชื้อมะเร็งลุกลามไปที่ต่อมน้ำเหลือง รวมถึงอวัยวะใกล้เคียง
5. โรคมะเร็งในช่องปาก
โรคมะเร็งในช่องปาก (Oral Cancer) สามารถเกิดได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย แต่มักเกิดในผู้ชายมากกว่า มีสาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม เช่น การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บ่อยๆ การสูบบุหรี่ หรือยาสูบ
โรคมะเร็งในช่องปากจะเกิดขึ้นเมื่อเนื้อเยื่อในช่องปากเกิดการเจริญเติบโตผิดปกติ จนลุกลามทำลายเนื้อเยื่อปกติโดยรอบ และทำให้เกิดก้อนเนื้อใหญ่ขึ้นในช่องปาก รวมถึงบริเวณริมฝีปาก
นอกจากนี้โรคมะเร็งในช่องปากยังเกิดขึ้นได้จากการได้รับบาดเจ็บในช่องปากอย่างต่อเนื่อง เช่น ฟันแตก ขอบฟันคม เหงือกมีแผล จนทำให้เนื้อเยื่อช้ำไม่หายดี และลุกลามกลายเป็นโรคมะเร็งในช่องปากในที่สุด
หากได้รับบาดเจ็บในช่องปาก อย่านิ่งนอนใจคิดว่า “ไม่เป็นไร” ควรไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษาตามความเหมาะสม เช่น อุดฟัน ทำฟันปลอม
จากข้อมูลโรคมะเร็งทั้ง 5 ชนิดที่กล่าวไปข้างต้น จะเห็นได้ว่า โรคมะเร็งมีความรุนแรง และส่งผลให้อวัยวะส่วนอื่นๆ เสียหายลงด้วย ผู้ชายที่มีความเสี่ยง และมีข้อบ่งชี้ทางสุขภาพจึงจำเป็นต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพเพื่อคัดกรองความเสี่ยงของโรคมะเร็ง หรือตรวจตามคำแนะนำของแพทย์
นอกจากการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งสำหรับคนทุกเพศทุกวัยแล้ว หลายโรงพยาบาลยังมีการแบ่งแพ็กเกจตรวจโรคมะเร็งสำหรับผู้ชายโดยเฉพาะด้วย ซึ่งรายการที่จะตรวจจะเน้นไปที่อวัยวะซึ่งมักเกิดความผิดปกติในผู้ชาย รวมถึงคัดกรองความเสี่ยงโรคมะเร็งที่เกิดในผู้ชายมากกว่า
รายการตรวจโรคมะเร็งสำหรับผู้ชาย
- ตรวจดัชนีมวลกาย
- ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด
- ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด
- ตรวจระดับไขมันในเลือด
- ตรวจเอกซเรย์ปอด
- ตรวจเอกซเรย์หัวใจ
- ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
- ตรวจการทำงานของตับ
- ตรวจหาสารบ่งชี้มะเร็งตับ
- ตรวจหาภูมิไวรัสตับอักเสบ
- ตรวจการทำงานของไต
- ตรวจอัลตราซาวด์ช่องท้อง
- ตรวจหาสารบ่งชี้มะเร็งต่อมลูกหมาก
- ตรวจหาสารบ่งชี้มะเร็งลำไส้ใหญ่
- ตรวจปัสสาวะ
- ตรวจหาเลือดในอุจจาระ
นอกจากรายการตรวจสุขภาพที่กล่าวไปข้างต้น คุณอาจได้รับการตรวจสุขภาพพื้นฐานร่วมด้วย เช่น ตรวจชีพจร ตรวจหมู่เลือด ตรวจคัดกรองการได้ยิน ตรวจสุขภาพตา ตรวจสมรรถภาพขอหัวใจ
การรักษาโรคมะเร็งมีโอกาสที่จะหายขาดได้ หากตรวจพบตั้งระยะแรกๆ ของโรค และรีบดำเนินการรักษาอย่างถูกวิธีและเหมาะสม
ดังนั้นทั้งคุณผู้ชายและคุณผู้หญิงจึงอย่ามองข้ามการตรวจสุขภาพและการตรวจคัดกรองมะเร็งว่า เป็นเรื่องไม่จำเป็น
ตรวจสอบความถูกต้องโดย นพ. วรพันธ์ พุทธศักดา