Default fallback image

7 ข้อควรรู้เกี่ยวกับการผ่าตัดถุงน้ำอัณฑะ

โรคถุงน้ำอัณฑะ คือ ภาวะที่มีของเหลวสะสมในถุงอัณฑะจนบวมโต เป็นโรคที่เกิดได้ตั้งแต่ในเด็กทารกแรกเกิดไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ ซึ่งการผ่าตัด จัดเป็นวิธีรักษาหลักในกรณีที่ก้อนถุงน้ำมีขนาดใหญ่จนส่งผลต่อชีวิตประจำวันผู้ป่วย

บทความนี้ได้รวบรวมข้อควรรู้เกี่ยวกับการผ่าตัดถุงน้ำอัณฑะที่คุณไม่ควรพลาด เพื่อเป็นความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกระบวนการรักษาโรคนี้

1. ผ่าตัดถุงน้ำอัณฑะ เมื่อไรต้องผ่า?

ตอบ: การผ่าตัดถุงน้ำอัณฑะ เป็นการผ่าตัดเพื่อระบายของเหลวที่สะสมอยู่ในถุงอัณฑะจนทำให้ถุงอัณฑะบวม โดยส่วนมากแพทย์จะแนะนำให้ผ่าตัดเมื่ออาการบวมลุกลามในระดับรุนแรงแล้ว แต่ในผู้ป่วยที่อาการบวมยังอยู่ในระดับเล็กน้อย แพทย์อาจยังพิจารณาให้ใช้วิธีเฝ้าติดตามอาการไปก่อน

2. ผ่าตัดถุงน้ำอัณฑะ ขั้นตอนเป็นยังไง?

ตอบ: การผ่าตัดถุงน้ำอัณฑะ มีขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน ดังนี้

  1. วิสัญญีแพทย์วางยาสลบผู้ป่วย
  2. แพทย์กรีดเปิดแผลบริเวณถุงอัณฑะ หรือบริเวณขาหนีบใกล้ถุงอัณฑะ และแยกชั้นถุงอัณฑะเข้าไปถึงเปลือกชั้นเยื่อหุ้มถุงอัณฑะชั้นนอกซึ่งเป็นชั้นที่อยู่ของถุงน้ำอัณฑะ
  3. แพทย์ดูดของเหลวที่สะสมอยู่ภายในถุงอัณฑะออก จนกระทั่งถุงอัณฑะยุบตัว
  4. แพทย์อาจกลับด้านเนื้อเยื่อถุงอัณฑะ เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำของโรคถุงน้ำอัณฑะ
  5. เย็บปิดแผล 

หลังผ่าตัดเสร็จ ผู้ป่วยจะถูกย้ายไปเฝ้าดูอาการต่อที่ห้องพักฟื้น หากฟื้นจากยาสลบแล้ว และไม่มีสัญญาณอาการข้างเคียงที่เป็นอันตราย แพทย์ก็จะอนุญาตให้เดินทางกลับบ้านได้เลย

3. ผ่าตัดถุงน้ำอัณฑะ ใช้เวลานานไหม?

ตอบ: การผ่าตัดถุงน้ำอัณฑะมักใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 

4. ผ่าตัดถุงน้ำอัณฑะ พักฟื้นกี่วัน?

ตอบ: หลังผ่าตัดถุงน้ำอัณฑะ ผู้ป่วยสามารถเดินทางกลับไปพักฟื้นต่อที่บ้านได้ทันที ไม่ต้องค้างคืนที่โรงพยาบาล และสามารถกลับไปทำงาน ดำเนินชีวิตประจำวันได้ตามปกติหลังผ่าตัดประมาณ 4-7 วัน

อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยก็ยังต้องงดออกกำลังกาย งดทำกิจกรรมที่ใช้แรงมาก งดยกของหนักต่อไปเป็นระยะเวลา 2-4 สัปดาห์ รวมถึงงดมีเพศสัมพันธ์ งดเล่นกีฬาที่ทำให้อัณฑะถูกเสียดสีเป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์

5. เป็นถุงน้ำอัณฑะ ไม่ผ่าได้ไหม?

ตอบ: โดยปกติถุงน้ำอัณฑะที่เกิดในทารกมักจะหายเองได้ภายใน 1 ปี ซึ่งในกรณีนี้ก็ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด แต่หากไม่หาย รวมถึงถุงอัณฑะบวมขึ้นกว่าเดิม ทำให้เป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตสำหรับผู้ป่วยที่เป็นเด็กโต วัยรุ่น หรือวัยผู้ใหญ่ แพทย์ก็จะพิจารณาให้ทำการผ่าตัดรักษา 

6. เป็นถุงน้ำอัณฑะ หายเองได้ไหม?

ตอบ: ถุงน้ำอัณฑะในผู้ป่วยวัยทารกมักหายได้เองภายใน 1 ปี แต่ในผู้ป่วยวัยผู้ใหญ่ก็มีโอกาสที่โรคจะยังไม่สามารถหายได้เอง และต้องผ่าตัดเพื่อรักษา แต่หากผู้ป่วยมีเงื่อนไขสุขภาพที่ทำให้ผ่าตัดไม่ได้ ก็อาจใช้วิธีเจาะก้อนถุงน้ำด้วยเข็ม เพื่อระบายของเหลวออกมาจากถุงอัณฑะแทน

7. ผ่าตัดถุงน้ำอัณฑะ ผ่าแล้วสมรรถภาพทางเพศเหมือนเดิมไหม?

ตอบ: โดยทั่วไปการผ่าตัดถุงน้ำอัณฑะจะไม่ส่งผลกระทบต่อสมรรถภาพทางเพศแต่อย่างใด โดยเฉพาะหากผู้ป่วยเลือกผ่าตัดกับแพทย์ผู้เฉพาะทาง และในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน โอกาสที่การผ่าตัดจะส่งผลข้างเคียงต่อสมรรถภาพทางเพศ และสุขภาพด้านอื่นๆ จะมีค่อนข้างต่ำมาก

แม้การผ่าตัดถุงน้ำอัณฑะจะฟังดูน่ากังวล แต่จริงๆ แล้วเป็นหัตถการที่ทำได้ง่ายและพักฟื้นไม่นาน หากดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์ก็จะกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว

สิ่งสำคัญที่ผู้ป่วยจะต้องตระหนักก็คือ โรคนี้สามารถเกิดได้ตั้งแต่ในเด็กไปจนถึงผู้ใหญ่ ใครที่มีบุตรหลานภายในบ้าน ก็อย่าลืมสังเกตถุงอัณฑะให้ดี หากพบอัณฑะบวม มีขนาดใหญ่ขึ้น เหมือนมีถุงน้ำอยู่ที่อัณฑะ ร่วมกับมีอาการปวด หรือรู้สึกหนัก รู้สึกหน่วงๆ ที่อัณฑะ ก็ให้รีบมาตรวจกับแพทย์โดยเร็ว

อยากปรึกษาเรื่องปัญหาถุงน้ำอัณฑะ ปัญหาอัณฑะผิดปกติ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ปรึกษาทีม HDcare ได้เลย เราพร้อมเป็นผู้ช่วยส่วนตัวดูแลสุขภาพคุณ สอบถามข้อมูลเบื้องต้นกับคุณหมอเฉพาะทาง ทำนัดปรึกษาคุณหมอได้รวดเร็ว หรือค้นหาแพ็กเกจผ่าตัดราคาดี จาก รพ. หรือคลินิกใกล้คุณได้ทันที คลิกที่นี่เลย

Scroll to Top