Default fallback image

8 สัญญาณเตือน ช่องคลอดหย่อนยาน เมื่อไหร่ต้องไปหาหมอ

ภาวะช่องคลอดหย่อนยาน (Vaginal Prolapse) เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้หญิง เกิดจากความอ่อนแอหรือเสียหายของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อในอุ้งเชิงกราน ส่งผลให้อวัยวะภายใน เช่น มดลูก กระเพาะปัสสาวะ หรือลำไส้ เคลื่อนต่ำลงและอาจยื่นออกมาทางช่องคลอด ซึ่งสามารถกระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างมาก ทั้งด้านการเคลื่อนไหว การขับถ่าย และความสัมพันธ์ทางเพศ การรู้เท่าทันอาการและสัญญาณเตือนจึงมีความสำคัญ เพื่อให้สามารถเข้ารับการวินิจฉัยและดูแลได้อย่างเหมาะสม 

บทความนี้จะพาคุณมารู้จัก 8 อาการ สัญญาณเตือนของภาวะช่องคลอดหย่อนยาน พร้อมคำแนะนำว่าเมื่อใดควรปรึกษาแพทย์ 

สัญญาณเตือน ช่องคลอดหย่อนยาน 

1. รู้สึกเหมือนมีบางอย่างตุงหรือหน่วงอยู่ในช่องคลอด

หนึ่งในอาการเริ่มต้นที่พบบ่อยที่สุด ผู้หญิงหลายคนมักอธิบายว่า อาการแรกเริ่มจะรู้สึกคล้ายกับมีก้อนเล็กๆ หรือแรงถ่วงบางอย่างอยู่ภายในช่องคลอด หรือรู้สึกหนักๆ หน่วงๆ บริเวณอุ้งเชิงกราน ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นว่าอวัยวะภายในอย่างกระเพาะปัสสาวะหรือมดลูกกำลังเคลื่อนตัวต่ำกว่าตำแหน่งปกติ

อาการนี้มักรุนแรงขึ้นเมื่ออยู่ในท่ายืนเป็นเวลานาน ขณะไอ จาม เบ่ง หรือยกของหนัก เนื่องจากกิจกรรมเหล่านี้เพิ่มแรงดันในช่องท้อง ส่งผลให้อวัยวะที่หย่อนคล้อยถูกดันลงต่ำไปอีก ในทางกลับกัน เมื่อนอนราบ อาการอาจบรรเทาหรือหายไปเพราะแรงโน้มถ่วงไม่ทำงานในแนวเดียวกัน

แม้จะไม่เจ็บในระยะแรก แต่อาการนี้สามารถรบกวนความรู้สึกสบายตัวและการใช้ชีวิตประจำวันได้ หากเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติลักษณะนี้ ควรหมั่นสังเกตและพิจารณาเข้าพบแพทย์เพื่อวินิจฉัย

2. มองเห็นหรือคลำพบก้อนเนื้อยื่นออกมาจากช่องคลอด

ในกรณีที่ภาวะหย่อนยานมีความรุนแรงมากขึ้น อาจมองเห็นหรือคลำพบก้อนเนื้อที่ยื่นออกมานอกช่องคลอด ซึ่งมักเป็นอวัยวะภายในที่เลื่อนหลุดจากตำแหน่งเดิม อาการนี้อาจสังเกตได้ชัดเจนขณะเข้าห้องน้ำ หรืออาบน้ำ

ขนาดของก้อนเนื้ออาจแตกต่างกัน ตั้งแต่เล็กน้อยจนแทบไม่รู้สึก ไปจนถึงขนาดที่ก่อให้เกิดการเสียดสีกับชุดชั้นในและสร้างความไม่สบาย หากคุณสังเกตก้อนลักษณะนี้ ควรรีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยชนิดและระดับความรุนแรงของภาวะดังกล่าว และป้องกันภาวะแทรกซ้อน เช่น แผลกดทับ การระคายเคือง หรือการติดเชื้อ

3. ปัญหาเกี่ยวกับการปัสสาวะ เช่น ปัสสาวะเล็ด บ่อย หรือไม่สุด

ภาวะช่องคลอดหย่อนยาน โดยเฉพาะกรณีกระเพาะปัสสาวะหย่อน (Cystocele) มักส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินปัสสาวะ ทำให้เกิดอาการหลายรูปแบบ ได้แก่

  • ปัสสาวะเล็ด (Urinary Incontinence): เป็นอาการที่พบบ่อยที่สุด โดยเฉพาะเมื่อไอ จาม หัวเราะ ออกกำลังกาย ยกของหนัก หรือแม้กระทั่งเดินเร็วๆ ก็อาจมีปัสสาวะเล็ดออกมาโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งเป็นผลจากแรงดันภายในช่องท้องที่กระทบกระเพาะปัสสาวะที่ขาดการพยุงที่มั่นคง
  • ปัสสาวะบ่อย (Urinary Frequency): รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำบ่อยครั้งกว่าปกติ ทั้งกลางวันและกลางคืน แม้จะเพิ่งปัสสาวะไปไม่นาน เนื่องจากกระเพาะปัสสาวะที่หย่อนลงมาอาจมีความจุที่ลดลง หรือมีการระคายเคือง
  • ปัสสาวะไม่สุด (Incomplete Emptying): หลังจากปัสสาวะแล้ว อาจยังคงรู้สึกว่ามีปัสสาวะค้างอยู่ในกระเพาะปัสสาวะ หรือรู้สึกว่าปัสสาวะออกไม่หมด ซึ่งอาจนำไปสู่การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะซ้ำๆ ได้
  • ปัสสาวะลำบาก (Urinary Difficulty): ในบางราย อาจต้องเบ่งหรือใช้แรงในการปัสสาวะมากกว่าปกติ หรืออาจต้องปรับท่าทางเพื่อให้ปัสสาวะออกมาได้ง่ายขึ้น

4. ปัญหาในการขับถ่าย เช่น ท้องผูก หรือต้องใช้นิ้วช่วยเบ่ง

ภาวะลำไส้ตรงหย่อน (Rectocele) ซึ่งผนังช่องคลอดด้านหลังหย่อนลงมาดันลำไส้ตรง อาจส่งผลต่อการขับถ่าย เช่น

  • ท้องผูกเรื้อรัง (Chronic Constipation): อาจมีปัญหาในการขับถ่ายอุจจาระบ่อยครั้ง และมักรู้สึกว่าอุจจาระแข็ง ทำให้ต้องใช้แรงเบ่งอย่างมาก
  • รู้สึกถ่ายไม่สุด: แม้จะเบ่งถ่ายไปแล้ว ก็ยังคงรู้สึกว่ามีอุจจาระค้างอยู่ในลำไส้ตรง หรือรู้สึกว่าไม่สามารถขับถ่ายออกมาได้หมด
  • ต้องใช้นิ้วช่วยดันบริเวณช่องคลอดขณะเบ่งถ่าย: ถือเป็นอาการที่บ่งชี้ถึงภาวะลำไส้ตรงหย่อนอย่างชัดเจน ผู้ป่วยบางรายอาจต้องใช้นิ้วช่วยดันผนังช่องคลอดจากภายนอก หรือสอดนิ้วเข้าไปในช่องคลอดเพื่อดันผนังช่องคลอดให้ดันอุจจาระออกมา 
  • ปวดเบ่ง หรือรู้สึกไม่สบายตัวขณะขับถ่าย: การที่ลำไส้ตรงหย่อนอาจทำให้โครงสร้างทางเดินอุจจาระเปลี่ยนไป ทำให้เกิดความรู้สึกปวดหน่วง หรือไม่สบายตัวในขณะพยายามเบ่งถ่าย

5. เจ็บหรือรู้สึกไม่สบายขณะมีเพศสัมพันธ์

ภาวะช่องคลอดหย่อนยานสามารถส่งผลกระทบอย่างมากต่อความสัมพันธ์ทางเพศและความพึงพอใจในชีวิตคู่ ความรู้สึกเจ็บปวดหรือไม่สบายตัวขณะมีเพศสัมพันธ์ (Dyspareunia) อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับการหย่อนคล้อยของช่องคลอด

  • การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของช่องคลอด: การที่ผนังช่องคลอดหย่อนลงมา อาจทำให้ช่องคลอดมีรูปร่างเปลี่ยนไป หรือมีก้อนเนื้อยื่นออกมา ซึ่งอาจขัดขวางการสอดใส่ หรือทำให้เกิดการเสียดสีที่ไม่พึงประสงค์
  • ความรู้สึกหน่วง หรือมีแรงกดทับ: ในบางตำแหน่ง หรือบางท่าทางขณะมีเพศสัมพันธ์ อาจทำให้รู้สึกถึงแรงกดทับ หรือความรู้สึกหน่วงๆ จากอวัยวะที่หย่อนลงมา ทำให้รู้สึกไม่สบายตัว
  • ช่องคลอดแห้งหรือบาง: โดยเฉพาะในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน การที่ฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลงไม่เพียงทำให้เนื้อเยื่ออ่อนแอลงและหย่อนคล้อย แต่ยังทำให้ช่องคลอดขาดความชุ่มชื้นและบางลง ซึ่งสามารถเพิ่มความรู้สึกเจ็บปวดขณะมีเพศสัมพันธ์ได้
  • ความรู้สึกไม่มั่นใจ: นอกจากความรู้สึกทางกายแล้ว ความกังวลเกี่ยวกับรูปร่างที่เปลี่ยนไปของช่องคลอด หรือความกลัวที่จะมีปัสสาวะเล็ดขณะมีเพศสัมพันธ์ ก็อาจลดความมั่นใจและส่งผลกระทบต่อความต้องการทางเพศได้

6. ปวดหลังส่วนล่าง หรือปวดหน่วงบริเวณอุ้งเชิงกราน

แม้อาการปวดหลังส่วนหลัง หรือ อาการปวดหน่วงบริเวณอุ้งเชิงกราน จะไม่ใช่อาการเฉพาะเจาะจงที่เกิดกับภาวะช่องคลอดหย่อนยานเสมอไป แต่อาการเหล่านี้ก็นับเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่อาจบ่งชี้ถึงภาวะช่องคลอดหย่อนยานได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากอาการปวดนั้นรุนแรงขึ้นเมื่อยืน เดิน หรือทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงมาก และบรรเทาลงเมื่อได้นอนพัก

สาเหตุของการปวดอาจมาจากการที่อวัยวะที่หย่อนลงมาสร้างแรงกดดันต่อเส้นประสาท กล้ามเนื้อ หรือเนื้อเยื่อเกี่ยวพันในบริเวณอุ้งเชิงกรานและหลังส่วนล่างอย่างต่อเนื่อง การเคลื่อนที่ของอวัยวะที่ผิดปกติไปจากตำแหน่งเดิมก็สามารถทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยหรือปวดตึงได้

อย่างไรก็ตาม อาการปวดหลังส่วนล่างและอุ้งเชิงกรานสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง กล้ามเนื้อ หรืออวัยวะอื่นๆ ในช่องท้อง ดังนั้น หากคุณมีอาการปวดเรื้อรังและไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยที่ละเอียด เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและได้รับการรักษาที่ตรงจุด

7. รู้สึกไม่สบายหรือหนักผิดปกติเมื่อทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน

นอกเหนือจากอาการหน่วงๆ หรือมีก้อนยื่นออกมาแล้ว ผู้หญิงที่มีภาวะช่องคลอดหย่อนยานอาจรู้สึกถึงความไม่สบาย หรือมีความรู้สึกหนักผิดปกติในบริเวณอุ้งเชิงกรานเมื่อต้องทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น

  • ยืนเป็นเวลานานๆ: การยืนนานๆ จะทำให้แรงโน้มถ่วงดึงอวัยวะที่หย่อนลงมามากขึ้น ทำให้รู้สึกหนักหรือหน่วงรุนแรงขึ้น
  • เดิน: การเดินอาจทำให้เกิดการเสียดสี หรือความรู้สึกไม่สบายในช่องคลอดได้ โดยเฉพาะหากมีก้อนเนื้อยื่นออกมา
  • ออกกำลังกาย: กิจกรรมที่มีแรงกระแทกสูง เช่น การวิ่ง การกระโดด หรือการออกกำลังกายที่ต้องใช้กล้ามเนื้อหน้าท้องมาก อาจทำให้อาการหย่อนคล้อยแย่ลงและรู้สึกไม่สบายอย่างเห็นได้ชัด
  • ยกของหนัก: การยกของหนักเพิ่มแรงดันในช่องท้องอย่างมาก ซึ่งสามารถกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกหนัก หน่วง หรือดันอวัยวะที่หย่อนออกมามากขึ้น

8. มีอาการซ้ำๆ หรืออาการแย่ลงเมื่อเวลาผ่านไป

สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่าอาการข้างต้นที่คุณกำลังเจออยู่นั้น เกิดขึ้นเป็นประจำซ้ำๆ หรือมีแนวโน้มที่จะแย่ลงเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไปหรือไม่ ภาวะช่องคลอดหย่อนยานเป็นภาวะที่มักจะค่อยๆ พัฒนาขึ้นอย่างช้าๆ ในระยะเริ่มต้น อาการอาจไม่รุนแรงและปรากฏขึ้นเป็นบางครั้ง แต่หากไม่ได้รับการดูแลหรือรักษาอาการมีแนวโน้มที่จะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างชัดเจน

  • อาการที่เกิดขึ้นบ่อยขึ้น: เช่น จากที่เคยปัสสาวะเล็ดเป็นบางครั้ง ก็กลายเป็นปัสสาวะเล็ดบ่อยขึ้น หรือปัสสาวะเล็ดในปริมาณมากขึ้น
  • ความรุนแรงของอาการที่เพิ่มขึ้น: ความรู้สึกหน่วงๆ ที่เคยเป็นเล็กน้อย อาจกลายเป็นความรู้สึกหนักและอึดอัดตลอดเวลา
  • ก้อนเนื้อที่ยื่นออกมาใหญ่ขึ้น: ก้อนเนื้อที่เคยยื่นออกมาเพียงเล็กน้อย อาจยื่นออกมามากขึ้นเรื่อยๆ จนมองเห็นชัดเจนหรือรู้สึกถึงได้ง่ายขึ้น

หากคุณสังเกตเห็นว่าอาการเหล่านี้มีแนวโน้มแย่ลงอย่างต่อเนื่อง หรือเริ่มรบกวนชีวิตประจำวันมากขึ้นเรื่อยๆ นี่เป็นสัญญาณชัดเจนว่าถึงเวลาที่คุณควรไปปรึกษาแพทย์แล้ว การรีบไปพบแพทย์จะช่วยให้ได้รับการวินิจฉัยตั้งแต่เนิ่นๆ และสามารถเลือกแนวทางการรักษาที่เหมาะสมได้ ก่อนที่ภาวะจะรุนแรงจนการรักษาซับซ้อนขึ้น

เมื่อไหร่ต้องไปหาหมอ?

การตัดสินใจไปพบแพทย์ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย อย่างไรก็ตาม หากมีอาการเหล่านี้แนะนำให้ไปพบแพทย์

  • สังเกตเห็นก้อนเนื้อยื่นออกมาจากช่องคลอด: ไม่ว่าก้อนจะเล็กหรือใหญ่ก็ตาม ควรพบแพทย์ เนื่องจากเป็นสัญญาณที่ชัดเจนที่สุด
  • อาการเริ่มกระทบต่อชีวิตประจำวันหรือความสัมพันธ์: เช่น ทำให้รู้สึกอึดอัด ไม่มั่นใจ หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เคยชอบ หรือส่งผลกระทบต่อการทำงานหรือความสัมพันธ์
  • รู้สึกเจ็บหรือไม่สบายตัวขณะมีเพศสัมพันธ์: ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสุขในชีวิตคู่
  • กังวลกับอาการที่เกิดขึ้น: แม้ว่าอาการจะยังไม่รุนแรงมากนัก แต่หากคุณมีความกังวลใจ การปรึกษาแพทย์จะช่วยให้คุณสบายใจและได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง
  • มีปัจจัยเสี่ยง: หากคุณมีประวัติคลอดบุตรทางช่องคลอดหลายครั้ง หรือการคลอดบุตรที่ยากลำบาก และเริ่มมีอาการสงสัย การตรวจคัดกรองตั้งแต่เนิ่นๆ อาจช่วยป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงขึ้น

อย่าปล่อยให้อาการลุกลามจนส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน ภาวะช่องคลอดหย่อนยานสามารถรักษาได้ ไม่ต้องรู้สึกอายที่จะปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง และวางแผนการรักษาที่เหมาะสม

หากคุณกำลังเผชิญสัญญาณเตือนเหล่านี้ หรือมีปัจจัยเสี่ยง อยากตรวจสุขภาพให้มั่นใจ ปรึกษาทีม HDcare ได้เลย เราพร้อมเป็นผู้ช่วยส่วนตัวดูแลสุขภาพคุณ สอบถามข้อมูลเบื้องต้นกับคุณหมอเฉพาะทาง ทำนัดปรึกษาคุณหมอได้รวดเร็ว หรือค้นหาแพ็กเกจตรวจวินิจฉัยและรักษาช่องคลอดหย่อนยานจาก รพ. หรือคลินิกใกล้คุณได้ทันที คลิกที่นี่เลย

Scroll to Top