หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อ “มะเร็งปอด” แต่อาจยังไม่รู้ว่ามะเร็งปอดนั้นมีหลายชนิด หนึ่งในชนิดที่พบไม่มาก แต่กลับมีความรุนแรงและลุกลามได้อย่างรวดเร็ว คือ มะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็ก หรือ SCLC (Small cell lung cancer)
สารบัญ
รู้จักมะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็ก (SCLC)
มะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็กหรือ SCLC เป็นหนึ่งในสองชนิดหลักของโรคมะเร็งปอด แม้จะพบได้น้อย ประมาณ 20% เมื่อเทียบกับมะเร็งปอดอีกชนิด คือ มะเร็งปอดชนิดเซลล์ไม่เล็ก (Non–small cell lung cancer: NSCLC) แต่กลับมีความรุนแรงมากกว่า
มะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็กมักพบในคนที่สูบบุหรี่หรือเคยสูบบุหรี่ เซลล์มะเร็งเจริญเติบโตไว และแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นได้รวดเร็ว ทำให้มักตรวจเจอมะเร็งในระยะลุกลาม มะเร็งแพร่กระจายไปนอกปอดแล้ว และนั่นเป็นสาเหตุว่าทำไม SCLC ถึงเป็นมะเร็งปอดที่มีความรุนแรง
มะเร็งปอดชนิดเซลล์ไม่เล็ก ยังแบ่งเป็นชนิดย่อยได้เป็น 2 ชนิด ตามลักษณะของเซลล์ภายใต้กล้องจุลทรรศน์ คือ
- Small cell carcinoma เป็นชนิดย่อยที่พบบ่อยที่สุดในมะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็ก ลุกลามเร็วและแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นได้ในระยะเวลาไม่นาน
- Combined small cell carcinoma เป็นชนิดย่อยที่พบได้น้อย ประมาณ 2–5% โดยในก้อนมะเร็งเดียวกันจะมีลักษณะของทั้งมะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็กและมะเร็งปอดชนิดเซลล์ไม่เล็กร่วมกันอยู่
อาการโรคมะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็ก (SCLC)
มะเร็งปอดชนิดเซลล์ไม่เล็กมักไม่มีอาการในระยะแรก เมื่อมะเร็งแพร่กระจายถึงเริ่มแสดงอาการให้เห็น อาจมีทั้งอาการในระบบทางเดินหายใจและอาการที่เกี่ยวเนื่องกับระบบอื่น ๆ ดังนี้
- ไอเรื้อรัง เป็นได้ทั้งไอแห้ง ๆ หรือไอมีเสมหะปน
- ไอมีเลือดปน
- เจ็บแน่นหน้าอก
- หอบเหนื่อย หายใจลำบาก หายใจมีเสียงหวีด หายใจสั้น เจ็บหน้าอกตอนหายใจ
- เสียงแหบ เสียงเปลี่ยนไปจากเดิม
- เบื่ออาหาร
- น้ำหนักตัวลดลงเร็วโดยไม่มีสาเหตุ
- คอ ใบหน้า แขน หรือทรวงอกมีอาการบวม
- เกิดการติดเชื้อในปอดบ่อย เช่น ปอดบวม ปอดอักเสบ
- ปวดกระดูก
อาการข้างต้นไม่ได้บ่งบอกว่าเป็นมะเร็งปอดเสมอไป อาจเป็นผลมาจากโรคหรือปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ได้เหมือนกัน หากพบอาการลักษณะดังกล่าว ควรไปพบแพทย์ โดยเฉพาะคนที่สูบบุหรี่ หรือมีประวัติเคยสูบบุหรี่มาก่อน
สาเหตุของโรคมะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็ก (SCLC)
ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุชัดเจนที่ทำให้เกิดมะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็ก แต่พบปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ก่อให้เกิดมะเร็งปอดชนิดนี้ ประมาณ 80–90% มาจากการสูบบุหรี่และการได้รับควันบุหรี่มือสอง ซึ่งส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์หลอดลม จนกลายพันธุ์เป็นเซลล์มะเร็ง
ส่วนปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่รองลงมา ได้แก่
- การสัมผัสสารพิษและสารก่อมะเร็งต่าง ๆ เช่น ฝุ่นละออง PM 2.5 แร่ใยหิน (Asbestos) แก๊สเรดอน นิกเกิล โครเมียม และโลหะอื่นๆ
- พันธุกรรมและประวัติครอบครัว หากมีญาติหรือคนในครอบครัวเคยเป็นมะเร็งปอดความเสี่ยงจะเพิ่มมากขึ้น
- เคยได้รับการรักษาด้วยการฉายแสงบริเวณทรวงอก
- เป็นโรคเกี่ยวกับปอด เช่น โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) วัณโรคปอด ถุงลมโป่งพอง
การวินิจฉัยโรคมะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็ก (SCLC)
มะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็กมีการเจริญเติบโตและแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว จำเป็นต้องมีการตรวจวินิจฉัยที่แม่นยำและทันเวลา นอกจากการซักประวัติและตรวจร่างกาย จะมีการตรวจเพิ่มเติมตามสภาวะของแต่ละคน เช่น
- การเอกซเรย์ปอด เพื่อดูความผิดปกติภายในปอดเบื้องต้น
- การทำ CT scan หรือ PET scan เพื่อดูการแพร่กระจายของมะเร็ง มะเร็งลุกลามไปมากน้อยแค่ไหน
- การส่องกล้อง (Bronchoscopy) เพื่อตรวจดูภายในปอดและเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อสำหรับการตรวจทางพยาธิวิทยา
- การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจมะเร็ง (Biopsy) โดยนำเนื้อเยื่อหรือของเหลวไปส่องภายใต้กล้องจุลทรรศน์ ซึ่งจะช่วยให้วินิจฉัยได้ว่าเป็นมะเร็งหรือไม่ เป็นมะเร็งชนิดใด รวมถึงช่วยประเมินระยะและความรุนแรงของโรค เพื่อวางแผนการรักษาขั้นต่อไป
นอกจากนี้ อาจมีการวินิจฉัยด้วยวิธีอื่น ๆ อีก ขึ้นอยู่กับสภาวะของผู้ป่วยแต่ละคน
ระยะของโรคมะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็ก (SCLC)
การกำหนดระยะของมะเร็งปอดนั้นมีความสำคัญต่อการรักษา เพราะสามารถวางแผนการรักษา และเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละคน
ระยะของมะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็ก แบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่
- ระยะจำกัด (Limited stage) มะเร็งยังคงอยู่ในปอดข้างใดข้างหนึ่ง อาจแพร่ไปยังต่อมน้ำเหลืองใกล้เคียง
- ระยะกระจาย (Extensive stage) มะเร็งได้แพร่กระจายไปยังปอดทั้งสองข้าง หรือไปยังส่วนอื่นของร่างกาย เช่น สมอง ตับ กระดูก ต่อมน้ำเหลือง และต่อมหมวกไต
หลักการรักษาโรคมะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็ก (SCLC)
มะเร็งปอดชนิดเซลล์ตัวเล็กมีการเจริญเติบโตและแพร่กระจายรวดเร็ว การรักษาหลักมักเน้นการควบคุมมะเร็งและบรรเทาอาการจากโรค รวมถึงจำเป็นต้องพิจารณาจากอายุ สุขภาพโดยรวม ระยะของมะเร็งปอดของผู้ป่วยร่วมด้วย
วิธีหลักรักษามะเร็งปอดชนิดเซลล์ตัวเล็กมักเป็นการใช้ยาเคมีบำบัด (Chemotherapy) ที่ใช้การฉีดยาเข้าไปกำจัดและยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็ง ร่วมกับการฉายรังสี (Radiation therapy) ที่ฉายรังสีพลังงานสูงเข้าไปทำลายเซลล์มะเร็ง
กรณีที่ผู้ป่วยตอบสนองได้ดีต่อยาเคมีบำบัดและรังสีรักษา แต่ยังมีรอยโรคหลงเหลืออยู่ในปอด แพทย์จะรักษาเพิ่มเติมด้วยการผ่าตัด อาจต้องผ่าตัดปอดออกทั้งหมด หรือเพียงบางส่วน ซึ่งต้องพิจารณาเป็นรายคนไป
นอกจากนี้ วิธีการรักษาอื่น ๆ ที่นำมาใช้รักษามะเร็งปอดชนิดเซลล์ตัวเล็ก เช่น
- ยาภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) เป็นการฉีดยาเข้าไปกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายให้จดจำ ก่อนจะทำลายเซลล์มะเร็งด้วยภูมิคุ้มกันของตัวเอง อาจใช้รักษาเดี่ยว ๆ หรือร่วมกับยาเคมีบำบัด
- ยามุ่งเป้า (Targeted Therapy) เป็นยารับประทานที่ออกฤทธิ์เฉพาะกับยีนหรือโปรตีนที่กลายพันธุ์ในเซลล์มะเร็ง ไม่กระทบต่อเซลล์ปกติ ทำให้เกิดผลข้างเคียงน้อย และประสิทธิภาพในการรักษาดีกว่าเคมีบำบัด
การป้องกันมะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็ก (SCLC)
ปัจจุบันยังไม่มีวิธีที่ป้องกันการเกิดโรคมะเร็งปอด รวมถึงปอดชนิดเซลล์เล็กด้วย แต่สามารถลดความเสี่ยงจากโรคได้ด้วยการเลิกสูบบุหรี่ เลี่ยงการรับควันบุหรี่มือสอง และการสัมผัสสารก่อมะเร็งต่าง ๆ ให้ได้มากที่สุด ร่วมกับการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ
นอกจากนี้ คนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงมะเร็งปอด เช่น สูบบุหรี่จัด มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ทำงานใกล้ชิดกับสารเคมี หรือสารก่อมะเร็ง ควรตรวจสุขภาพเป็นประจำ หรือเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปอดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อระวังความผิดปกติตั้งแต่เนิ่น ๆ
แม้มะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็ก (SCLC) จะเป็นโรคที่ลุกลามรวดเร็ว พบได้น้อยกว่าชนิดอื่น แต่หากตรวจพบตั้งแต่ระยะแรก โอกาสในการรักษาก็จะสูงขึ้น หากคุณหรือคนใกล้ตัวมีความเสี่ยง แนะนำให้เข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปอด สนใจดูแพ็กเกจตรวจคัดกรองโรคมะเร็ง คลิกที่นี่ จองราคาพิเศษได้ที่ HDmall.co.th