เชื่อว่าผู้ชายหลายคนคงอยากมีขนาดน้องชายที่ใหญ่ขึ้น ยาวขึ้น และพยายามหาวิธีต่างๆ เพื่ออัปไซซ์ อัปขนาดน้องชายของตัวเอง ถึงแม้ปัจจุบันจะมีวิธีเพิ่มขนาดน้องชายให้เลือกหลากหลาย แต่ถ้าหากเลือกวิธีที่ผิด ชีวิตอาจจะเปลี่ยนไปเลยก็ได้!
ในบทความนี้ เราได้คุณเอิร์ธ หนึ่งในเคสเพิ่มขนาดน้องชายกับคุณหมอนัท นายแพทย์จิรวีร์ จันทรานุกูล ศัลยแพทย์ด้านยูโรวิทยา (Urology Surgery) หรือแพทย์ผ่าตัดเฉพาะทางด้านทางเดินปัสสาวะและอวัยเพศ จาก Men Plus By MediPrime Clinic มาแชร์ประสบการณ์จากการเพิ่มขนาดน้องชายให้ฟัง รวมถึงจะพาไปเจาะลึกข้อมูลต่างๆ ที่ควรรู้ก่อนเพิ่มขนาดน้องชายด้วย
สารบัญ
- แชร์ประสบการณ์เพิ่มขนาดน้องชาย ที่ Men Plus By MediPrime Clinic
- ฉีดฟิลเลอร์น้องชายเจ็บไหม?
- ผลลัพธ์หลังเพิ่มขนาดน้องชาย ที่ Men Plus By MediPrime Clinic
- เรื่องที่ควรรู้ก่อนเพิ่มขนาดน้องชาย
- ขนาดน้องชายคนไทยส่วนใหญ่อยู่ที่ประมาณเท่าไหร่?
- การเพิ่มขนาดน้องชายมีกี่วิธี?
- ระยะเวลาในการพักฟื้นหลังเพิ่มขนาดน้องชาย
- การเพิ่มขนาดน้องชายแต่ละวิธีอยู่ได้นานแค่ไหน?
- การฉีดฟิลเลอร์และการเติมไขมันเพิ่มขนาดน้องชายต่างกันอย่างไร?
- ฉีดสารแปลกปลอมเพิ่มขนาดน้องชายด้วยตัวเองอันตรายไหม?
- เพิ่มขนาดน้องชายวิธีไหนให้ทรงน้องชายสวยกว่ากัน?
- ฟิลเลอร์แบบไหนที่เหมาะกับการฉีดน้องชาย
- การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์และเติมไขมันเพิ่มขนาดน้องชาย
- การเพิ่มขนาดกับการเพิ่มความยาวน้องชาย แตกต่างกันไหม?
- ผ่าตัดเพิ่มความยาวน้องชายเหมาะกับใคร มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง?
- เพิ่มขนาดน้องชายที่ Men Plus By MediPrime Clinic ดีอย่างไร?
แชร์ประสบการณ์เพิ่มขนาดน้องชาย ที่ Men Plus By MediPrime Clinic
เอิร์ธเป็นหนึ่งคนที่เคยรู้สึกไม่มั่นใจในรูปร่างของน้องชายตัวเองมาก่อนครับ ตอนนั้นเลยตัดสินใจไปฉีดฟิลเลอร์น้องชายโดยที่ไม่ได้ศึกษาข้อมูลอะไรไปก่อน ทำให้ผมต้องเจอกับปัญหาน้องชายอักเสบ บวม และมีลักษณะที่ไม่ค่อยสมส่วน รู้สึกสูญเสียความมั่นใจมากกว่าเดิมอีกครับ
จนเอิร์ธได้เข้ามาปรึกษากับคุณหมอนัท ที่ Men Plus By MediPrime Clinic ซึ่งคุณหมอก็อธิบายให้ฟังว่า จริงๆ แล้วการฉีดฟิลเลอร์ไม่ใช่ว่าจะนำไปฉีดตรงไหนหรือใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้ออะไรก็ได้ ในแต่ละบริเวณจำเป็นต้องใช้ฟิลเลอร์ที่เหมาะสมและมีเทคนิคการฉีดที่ดี
อย่างในเคสของเอิร์ธที่หลังฉีดฟิลเลอร์น้องชายแล้วมีปัญหาก็เป็นเพราะว่า ตอนนั้นเอิร์ธใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสมกับน้องชาย ทำให้ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อน ทรงไม่สวย และมีอาการอักเสบเป็นๆ หายๆ จนใช้งานได้ลำบาก
คุณหมอเลยแนะนำให้เอิร์ธลองฉีดสลายฟิลเลอร์ก่อนสักประมาณ 2-3 ครั้ง ซึ่งหลังจากฉีดสลายฟิลเลอร์แล้วก็พบว่าที่บริเวณน้องชายของเอิร์ธมีพังผืดอยู่ค่อนข้างเยอะ เกิดจากการใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสม
คุณหมอเลยต้องรักษาด้วยขั้นตอนถัดไป นั่นก็คือการขริบเพื่อเลาะพังผืดออกมา และปิดท้ายด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใหม่เพื่อปรับแต่งรูปทรงน้องชายให้สวยงามครับ
ฉีดฟิลเลอร์น้องชายเจ็บไหม?
สำหรับความรู้สึกตอนฉีดฟิลเลอร์น้องชายกับคุณหมอนัท เอิร์ธจะบอกว่าไม่รู้สึกเจ็บเลยครับ ชิลมากๆ เพราะคุณหมอจะใช้เทคนิคการฉีดยาบล็อกเส้นประสาทให้ก่อน แถมหลังจากฉีดก็ไม่ได้มีความรู้สึกเจ็บอะไรเกิดขึ้นด้วย สามารถใช้งานได้ปกติหลังจากนั้นประมาณ 3-7 วันเลย
ผลลัพธ์หลังเพิ่มขนาดน้องชาย ที่ Men Plus By MediPrime Clinic
ผลลัพธ์ที่ได้หลังเพิ่มขนาดน้องชาย ที่ Men Plus By MediPrime Clinic เอิร์ธก็รู้สึกมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นมากๆ เลยครับ จากเดิมที่น้องชายมีลักษณะไม่สมดุล ไม่สมส่วน มีความบวม และอักเสบ ตอนนี้น้องชายของผมก็กลับมาเป็นปกติแล้ว แถมยังมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น ทรงสวยขึ้นด้วย จากตอนแรกที่ใส่ถุงยางไซซ์ 52 ตอนนี้ต้องเปลี่ยนมาเป็นไซซ์ 58 แล้วครับ บอกเลยว่าภูมิใจสุดๆ
และถ้าถามว่า หลังฉีดฟิลเลอร์เพิ่มขนาดน้องชายไปแล้วส่งผลต่อเรื่องบนเตียงไหม? ก็บอกเลยว่าส่งผลครับ ส่งผลให้ผมมั่นใจขึ้นและคู่นอนแฮปปีขึ้นนั่นเอง ฮ่าๆ เอาจริงๆ ฉีดฟิลเลอร์น้องชายมีข้อดีเยอะมากถ้าศึกษาข้อมูลให้ดี เลือกฉีดกับคุณหมอผู้ชำนาญ และเลือกสถานบริการที่เชื่อถือได้
ใครที่นึกไม่ออกว่าจะไปฉีดฟิลเลอร์น้องชายที่ไหนดี ผมว่าไม่ต้องนึกแล้วครับ มาปรึกษาคุณหมอนัท ที่ Men Plus By MediPrime Clinic จบเลย
เรื่องที่ควรรู้ก่อนเพิ่มขนาดน้องชาย
อย่างที่เอิร์ธบอกไปว่าก่อนจะเพิ่มขนาดน้องชายไม่ว่าจะด้วยวิธีอะไรก็ตาม การศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดและการเลือกแพทย์เป็นสิ่งสำคัญมาก ไม่อย่างนั้นอาจทำให้เกิดผลเสียตามมาอย่างที่เอิร์ธเคยเป็นได้
ครั้งนี้เอิร์ธเลยรวบรวมคำถามที่ควรรู้ก่อนเพิ่มขนาดน้องชายมาถามคุณหมอนัทให้อย่างละเอียด ถ้าพร้อมแล้วก็มาศึกษาข้อมูลไปพร้อมๆ กันเลยครับ
ขนาดน้องชายคนไทยส่วนใหญ่อยู่ที่ประมาณเท่าไหร่?
คุณหมอนัทบอกว่า ตามมาตรฐานและจากข้อมูลทางการแพทย์แล้ว ส่วนใหญ่น้องชายคนไทยจะมีขนาดอยู่ที่ 49-52 มิลลิเมตร (ขนาดไซซ์ถุงยางอนามัย) และมีความยาวอยู่ที่ 4.5-5 นิ้ว วัดจากบนลงล่างครับ
การเพิ่มขนาดน้องชายมีกี่วิธี?
สำหรับวิธีการเพิ่มขนาดน้องชายที่ถูกหลักการแพทย์ในปัจจุบันจะมีด้วยกัน 3 วิธี ดังนี้
1. การผ่าตัด
การผ่าตัดเพิ่มขนาดน้องชาย เป็นการตัดเนื้อเยื่อตัวเองจากส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายมาเติมเต็มบริเวณน้องชายให้มีความหนาขึ้น เป็นวิธีที่เหมาะสำหรับคนที่ยังไม่ได้ขริบแต่อยากขริบอยู่แล้ว หรือคนที่อยากได้ทรงน้องชายออกมาสวยเป็นธรรมชาติ
โดยการผ่าตัดเพิ่มขนาดน้องชายมีข้อดีตรงที่สามารถทำพร้อมกันกับการขริบได้เลย และให้ทรงน้องชายออกมาสวยเป็นธรรมชาติ แต่ทั้งนี้ก็อาจมีข้อจำกัดเล็กน้อยตรงที่ไม่สามารถเพิ่มขนาดน้องชายได้เยอะมาก รวมถึงอาจทำให้รู้สึกเจ็บระหว่างทำได้
2. การเติมไขมันตัวเอง
การเติมไขมันตัวเองเพื่อเพิ่มขนาดน้องชาย เป็นวิธีที่คล้ายกันกับการเติมไขมันบนใบหน้า โดยคุณหมอจะเก็บไขมันจากบริเวณต่างๆ ของร่างกายแล้วนำมาฉีดเติมเต็มบริเวณน้องชายให้มีขนาดใหญ่ขึ้น
วิธีนี้มีข้อดีตรงที่ทำให้เกิดการอักเสบและแพ้ได้น้อย เนื่องจากเป็นการใช้ไขมันจากร่างกายตัวเอง แต่สำหรับคนที่มีอายุค่อนข้างเยอะ เป็นโรคเบาหวาน หรือผอมมากๆ ก็อาจจะไม่เหมาะกับวิธีนี้ เพราะจะทำให้ไขมันติดยากและไม่เห็นผลลัพธ์อะไร
3. การฉีดฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์น้องชาย เป็นวิธีที่กำลังมาแรงและได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน วิธีนี้จะเป็นการฉีดสารไฮยาลูรอนิค แอซิด (HA) เข้าไปเติมเต็มบริเวณน้องชายให้มีขนาดใหญ่และมีรูปทรงที่สวยงามมากขึ้น
การฉีดฟิลเลอร์น้องชายถือว่าเป็นวิธีที่ทำได้ง่ายและสามารถปรับแต่งทรงน้องชายได้สวยงามที่สุดเมื่อเทียบกับวิธีอื่นๆ แล้ว รวมถึงยังเป็นวิธีที่มีข้อจำกัดน้อยด้วย
แต่การฉีดฟิลเลอร์เพิ่มขนาดน้องชายก็จำเป็นต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ผู้ชำนาญการเท่านั้น รวมถึงควรเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่เหมาะสม มีเทคนิคการฉีดที่ดี เพราะไม่อย่างนั้นก็อาจทำให้เกิดผลเสียและอาการแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมาได้ครับ
ระยะเวลาในการพักฟื้นหลังเพิ่มขนาดน้องชาย
ระยะเวลาในการพักฟื้นหลังเพิ่มขนาดน้องชายแต่ละวิธีจะมีความแตกต่างกันออกไป โดยการฉีดฟิลเลอร์น้องชายจะใช้เวลาพักฟื้นอยู่ที่ประมาณ 3 วันเท่านั้น หลังทำแผลก็แทบจะไม่มี อาจเป็นแค่รูเข็มเล็กๆ นิดหน่อยเท่านั้น ยิ่งถ้าใช้เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ที่ Advance ก็จะยิ่งทำให้เกิดรอยเข็มได้น้อยมาก
ส่วนการเติมไขมันเพิ่มขนาดน้องชายจะใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 2-4 อาทิตย์ถึงจะกลับมาใช้งานได้ตามปกติ หรือถ้าจะให้ดี คุณหมอก็แนะนำให้รอประมาณ 1 เดือนแล้วค่อยกลับมาใช้งาน เพื่อให้ไขมันติดดียิ่งขึ้นครับ
แต่ถ้าเป็นการผ่าตัดเพิ่มขนาดน้องชายด้วยเนื้อเยื่อตัวเอง วิธีนี้จะขึ้นอยู่กับเทคนิคที่คนไข้แต่ละคนทำ ใครที่ทำเป็นแผลขริบจะใช้เวลาพักฟื้นอยู่ที่ประมาณ 3 อาทิตย์ แผลหัวหน่าวใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 2 อาทิตย์ และถ้าเป็นแบบไร้แผลจะใช้เวลาพักฟื้นอยู่ที่ประมาณ 2-3 อาทิตย์ครับ
ซึ่งโดยรวมแล้วจะเห็นได้ว่า ทุกวิธีไม่มีวิธีไหนที่ใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นเกิน 1 เดือนเลย แต่ถ้าเร็วสุด ใช้งานได้ไวสุดก็ต้องยกให้การฉีดฟิลเลอร์น้องชายเลยครับ แถมวิธีนี้ยังสามารถเติมได้ง่ายและเติมได้เรื่อยๆ ด้วย
การเพิ่มขนาดน้องชายแต่ละวิธีอยู่ได้นานแค่ไหน?
สำหรับการเพิ่มขนาดน้องชายด้วยวิธีต่างๆ จะให้ระยะเวลาของผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไป ดังนี้ครับ
- ผ่าตัดเพิ่มขนาดน้องชาย เป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ยาวนานที่สุด เนื่องจากเป็นการผ่าตัดเนื้อเยื่อของตัวเองมาเติมเต็มบริเวณน้องชายให้มีความหนาขึ้น
- เติมไขมันตัวเอง วิธีนี้ถ้าไขมันติดดี คุณหมอบอกว่าผลลัพธ์จะสามารถอยู่ได้นาน 5 ปีขึ้นไปเลย แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการเก็บไขมัน เทคนิคที่ใช้ และร่างกายของคนไข้ด้วยนะครับ
- การฉีดฟิลเลอร์น้องชาย สารไฮยาลูรอนิค แอซิด (HA) ที่ฉีดเข้าไปสามารถอยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับร่างกายและการดูแลตัวเองหลังรับบริการ หลังจากนั้นฟิลเลอร์จะสลายไปเองตามธรรมชาติ
การฉีดฟิลเลอร์และการเติมไขมันเพิ่มขนาดน้องชายต่างกันอย่างไร?
การฉีดฟิลเลอร์และการเติมไขมันตัวเองเพื่อเพิ่มขนาดน้องชาย หลายคนอาจคิดว่าเป็นการฉีดเหมือนกัน แต่จริงๆ แล้วคุณหมอบอกว่าสองอย่างนี้เป็นคนละหัตถการกันเลยครับ
สำหรับการเติมไขมันเพิ่มขนาดน้องชาย ขั้นตอนสำคัญที่สุดจะอยู่ตรงช่วงการเก็บไขมัน เพราะต้องเก็บไขมันให้ยังมีประสิทธิภาพและเพียงพอสำหรับการนำไปใช้ต่อ ถ้าหากเก็บไขมันได้ไม่ดี ก็จะทำให้ฉีดไขมันเข้าไปที่น้องชายแล้วไม่ติด รวมถึงไม่สามารถปรับขนาดหรือปรับรูปทรงได้ตามต้องการด้วย
ส่วนการฉีดฟิลเลอร์ ขั้นตอนสำคัญจะอยู่ที่การฉีด ต้องอาศัยฝีมือและเทคนิคการฉีดเป็นหลัก รองลงมาคือการเลือกชนิดของฟิลเลอร์ให้เหมาะสม ซึ่งผู้ที่เคยขริบมาแล้ว การฉีดฟิลเลอร์น้องชายจะทำได้ง่ายกว่าและลดโอกาสที่ฟิลเลอร์จะไหลลงมากองตรงปลายได้
ฉีดสารแปลกปลอมเพิ่มขนาดน้องชายด้วยตัวเองอันตรายไหม?
คุณหมอเล่าให้ฟังว่า การฉีดสารแปลกปลอมเพิ่มขนาดน้องชายด้วยตัวเองเป็นสิ่งที่อันตรายมาก อันดับแรกเลยคือไม่ได้ฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และส่วนใหญ่จะเป็นการฉีดน้ำมันมะกอกหรือซิลิโคนเหลวเข้าไป ซึ่งสารเหล่านี้เป็นสารที่ร่างกายไม่สามารถย่อยสลายได้
การฉีดสารแปลกปลอมที่ร่างกายย่อยสลายไม่ได้เป็นอะไรที่อันตรายมากๆ โดยเฉพาะการฉีดบริเวณน้องชายที่เนื้อเยื่อมีความยืดหดได้ตลอดเวลา ก็จะยิ่งทำให้เกิดการอักเสบเป็นๆ หายๆ และพัฒนาไปเป็นก้อนแข็งหรือพาราฟิโนม่า (Paraffinoma) จนสุดท้ายอาจนำไปสู่การติดเชื้อและต้องตัดน้องชายทิ้งไป หรือบางคนก็อาจเป็นมะเร็งได้ครับ
เพราะฉะนั้นใครที่อยากเพิ่มขนาดน้องชายก็อย่าหาทำ อย่าหาฉีดสารแปลกปลอมเพิ่มขนาดน้องชายเด็ดขาดนะครับ อันตรายมากจริงๆ ไม่คุ้มเลย
เพิ่มขนาดน้องชายวิธีไหนให้ทรงน้องชายสวยกว่ากัน?
คุณหมอบอกว่าจริงๆ แล้วทรงน้องชายที่สวยงามของแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ ขึ้นอยู่กับว่าชอบแบบไหน บางคนอาจชอบน้องชายที่ดูเรียบเนียน ไม่เห็นเส้นเลือดเลย หรือบางคนอาจชอบน้องชายที่ดูแข็งแกร่ง เห็นเส้นเลือดและมีความขรุขระเล็กน้อย
ซึ่งคุณหมอก็แนะนำว่า ใครที่อยากให้น้องชายเรียบเนียนสุดๆ การฉีดฟิลเลอร์จะเหมาะสมกว่า เพราะฟิลเลอร์สามารถเติมเต็มทีละจุดได้ แต่ถ้าใครที่อยากให้น้องชายดูเป็นธรรมชาติ มีเส้นเลือดและมีความขรุขระเล็กน้อย ก็แนะนำให้ไปเติมไขมันหรือผ่าตัดด้วยเนื้อเยื่อตัวเองเลยครับ
ฟิลเลอร์แบบไหนที่เหมาะกับการฉีดน้องชาย
ปัจจุบันมีฟิลเลอร์ให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ แต่ฟิลเลอร์ที่คุณหมอแนะนำให้ฉีดบริเวณน้องชายก็คือ Intimate Filler หรือฟิลเลอร์สำหรับจุดซ่อนเร้นนั่นเอง
เนื่องจาก Intimate Filler เป็นฟิลเลอร์ที่ออกแบบมาเพื่อบริเวณจุดซ่อนเร้นโดยเฉพาะ เลยให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าฟิลเลอร์ทั่ว ๆ ไป และช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์และเติมไขมันเพิ่มขนาดน้องชาย
สำหรับการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์และเติมไขมันเพิ่มขนาดน้องชาย คุณหมอบอกว่าต้องแยกสองวิธีนี้ออกจากกันก่อนครับ เพราะการเติมไขมันเพิ่มขนาดน้องชาย หลังจากถอดผ้าพันแผลออกแล้วก็ไม่ควรไปยุ่งกับบริเวณนั้น ควรปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติเพื่อให้ไขมันติดดีและได้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด
ส่วนการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์น้องชาย คุณหมอก็แนะนำว่า หลังฉีดฟิลเลอร์ไปแล้ว 2 วันควรนวดบริเวณน้องชายเพื่อจัดทรงให้สวยงามครับ นอกนั้นก็ไม่มีอะไรต้องดูแลเป็นพิเศษเลย
แต่สำหรับคนที่สงสัยว่า หลังเพิ่มขนาดน้องชายด้วยสองวิธีนี้ต้องลางานมั้ย คุณหมอบอกว่าไม่จำเป็นครับ แต่ถ้าใครทำงานที่ต้องมีการโดนบริเวณน้องชาย เช่น บาร์โฮส อันนี้คุณหมอก็แนะนำให้หยุดงานไปก่อนประมาณ 2-3 วันในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์ ส่วนกรณีที่เติมไขมันแนะนำให้หยุดงานไปก่อนประมาณ 1 อาทิตย์ครับ
การเพิ่มขนาดกับการเพิ่มความยาวน้องชาย แตกต่างกันไหม?
คุณหมออธิบายให้ฟังว่า การเพิ่มขนาดและการเพิ่มความยาวน้องชายเป็นคนละหัตถการกันเลยครับ โดยการเพิ่มขนาดจะมีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มเส้นรอบวง ส่วนการเพิ่มความยาวจะเป็นการดึงน้องชายออกมาไม่ให้หดกลับเข้าไป
ผ่าตัดเพิ่มความยาวน้องชายเหมาะกับใคร มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง?
การผ่าตัดเพิ่มความยาวน้องชายไม่ใช่วิธีที่เหมาะสำหรับทุกคนครับ ก่อนตัดสินใจทำจึงควรเข้ามาปรึกษากับคุณหมอก่อน อย่างของเอิร์ธเองก็ไม่สามารถทำได้ เพราะเส้นเอ็นไม่เหนี่ยวรั้งและไม่มีไขมันหัวหน่าว ทำไปก็อาจจะไม่เห็นผลอะไรครับ
โดยหลักการของการเพิ่มความยาวน้องชายจะเป็นการตัดเส้นเอ็นครับ ปกติแล้วน้องชายจะโดนยึดให้ติดกับหัวหน่าวด้วยเส้นเอ็น 3 เส้น การเพิ่มความยาวจะต้องตัดเส้นเอ็นที่อยู่ตรงกลางร่วมกับการตัดเส้นเอ็นที่อยู่ด้านข้างออกเล็กน้อยเพื่อทำให้น้องชายยาวขึ้น
หลังจากตัดเส้นเอ็นแล้ว คุณหมอจะเอาหนังส่วนเกินออกมา รวมถึงทำการเย็บเพื่อป้องกันไม่ให้น้องชายรั้งกลับเข้าไปที่หัวหน่าวด้วย หลังทำจะช่วยให้น้องชายยาวขึ้นได้ประมาณ 1-2 นิ้วครับ
เพิ่มขนาดน้องชายที่ Men Plus By MediPrime Clinic ดีอย่างไร?
จากประสบการณ์ส่วนตัวของเอิร์ธที่ได้มาใช้บริการเพิ่มขนาดน้องชายกับคุณหมอนัท ที่ Men Plus By MediPrime Clinic ผมคิดว่าสิ่งที่เป็นจุดเด่นของคุณหมออย่างแรกเลยก็คือ คุณหมอจะเลือกใช้วิธีเพิ่มขนาดน้องชายที่ได้รับการรับรองทางการแพทย์เท่านั้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้หลังทำ
นอกจากนี้ คุณหมอจะประเมินปัญหาให้ก่อนทุกเคส เพื่อดูว่าแต่ละเคสเหมาะกับการเพิ่มขนาดน้องชายด้วยวิธีไหน สามารถทำได้มั้ย ถ้าเคสไหนที่ทำไม่ได้คุณหมอก็จะไม่ฝืนทำให้ รวมถึงคุณหมอจะอธิบายข้อดีและข้อจำกัดของแต่ละวิธีให้ฟังอย่างละเอียด เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าถ้าเพิ่มขนาดน้องชายด้วยวิธีต่างๆ ไปแล้วจะเป็นยังไงบ้าง ตรงนี้เป็นอะไรที่ผมชอบมากๆ ครับ คุณหมอให้คำปรึกษาอย่างตรงไปตรงมาเลย
ที่สำคัญคือ Men Plus By MediPrime Clinic เค้ามีรับประกันความพึงพอใจให้หลังทำนานถึง 6 เดือนด้วย เรียกได้ว่าเพิ่มขนาดน้องชายกับคุณหมอนัทสบายใจหายห่วงเลยครับ แถมยังได้ผลลัพธ์ดีๆ กลับไปด้วย
สำหรับหนุ่มๆ คนไหนที่สนใจเพิ่มขนาดน้องชายและต้องการปรึกษาคุณหมอก่อน สามารถนัดคิวปรึกษาคุณหมอผ่านไลน์ @HDcare ฟรี! ไม่เสียค่าใช้จ่ายครับ