มีคำถามมากมายเกี่ยวกับการเจาะน้ำไขสันหลังในเด็กทารก ว่าเป็นหัตถการทางการแพทย์เพื่อวัตถุประสงค์อะไร ทำแล้วมีผลอะไรต่อร่างกายหรือไม่ ต้องนอนพักฟื้นนานเท่าใด อีกทั้งมีอันตรายมากน้อยแค่ไหน บทความนี้เรามีคำตอบมาอธิบายค่ะ
สารบัญ
การเจาะน้ำไขสันหลังในเด็กทารกคืออะไร
การเจาะน้ำไขสันหลังเป็นการเจาะนำเอาของเหลวที่อยู่ในช่องว่างใต้ชั้นเยื่อหุ้มสมองออกมา โดยมีจุดประสงค์ดังนี้
- รักษาโรค เป็นการระบายน้ำในสมองอันเนื่องมาจากภาวะที่โพรงในสมองโต เป็นการลดความดันในโพรงกะโหลกศีรษะ หรือเพื่อฉีดยาชาเข้าไประงับอาการปวดในการผ่าตัด หรือฉีดยาเพื่อการรักษาโรคบางชนิดอย่างเช่นโรคมะเร็งในระยะแพร่กระจายที่เยื่อหุ้มสมอง
- การวินิจฉัยโรค ด้วยการเจาะเอาน้ำที่หล่อเลี้ยงสมองและไขสันหลังมาตรวจ เพื่อประกอบการวินิจฉัยโรคว่ามีการติดเชื้อในระบบประสาทหรือไม่ เช่น ทารกมีไข้สูงและเกิดอาการชัก
น้ำที่เจาะออกมาได้นั้นเรียกว่า น้ำหล่อเลี้ยงสมองหรือน้ำเลี้ยงไขสันหลัง (Cerebrospinal fluid : CSF) เป็นของเหลวที่ทำหน้าที่ป้องกันหรือช่วยพยุงไม่ให้สมองและไขสันหลังเกิดการเลื่อนไหล แต่ถ้าการตรวจหากพบว่ามีความผิดปกติของน้ำหล่อเลี้ยง นั่นก็หมายความว่าเยื่อหุ้มสมองและไขสันหลังมีความผิดปกติเกิดขึ้นนั่นเอง
การเจาะน้ำไขสันหลังอันตรายหรือไม่
ขณะทำการเจาะน้ำไขสันหลัง เมื่อทารกอยู่ในท่านอนตะแคงและงอเข่าให้ชิดได้แล้ว แพทย์จะทำความสะอาดผิวหนังบริเวณที่จะเจาะพร้อมกับฉีดยาชาให้ จากนั้นจึงใช้เข็มปลายแหลมเจาะเพื่อนำ CSF ออกมา เมื่อได้ปริมาณที่ต้องการแล้วจึงดึงเข็มเจาะออกและทำความสะอาดก่อนปิดแผลด้วยปลาสเตอร์ ขั้นตอนทั้งหมดจะใช้เวลาเพียง 10 – 20 นาที ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของทารกในการให้ความร่วมมือของแต่ละคนด้วย
การเจาะน้ำไขสันหลังมีความรู้สึกเจ็บ แต่อันตรายที่เกิดจากการเจาะน้ำไขสันหลังมีน้อยมาก อาจมีเพียงอาการแทรกซ้อนหลังทำการเจาะบ้างอย่างเช่นปวดศีรษะหรือปวดหลัง และพบว่ามีจำนวนน้อยมากที่มีอาการรุนแรง กล่าวคือมีภาวะเลื่อนกดทับก้านสมองจนอาจทำให้มีอาการหัวใจหยุดเต้นแล้วเสียชีวิต ซึ่งจะเกิดกรณีนี้เฉพาะผู้ป่วยที่มีความดันในโพรงกะโหลกสูง และต้องระบายน้ำ CSF ออกเป็นจำนวนมาก
ราคาการเจาะน้ำไขสันหลังในเด็กทารก
การเจาะน้ำไขสันหลังเป็นหัตถการทางการแพทย์ ด้วยการใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์เช่นเข็มเจาะเข้าทางด้านหลัง เป็นการตัดสินใจของแพทย์ว่าควรต้องทำหรือไม่และทำเพื่อจุดประสงค์เพื่ออะไร ดังนั้นก่อนเข้ารับบริการควรปรึกษาแพทย์ที่จะทำการเจาะ จึงจะได้คำตอบที่ชัดเจนกว่า หากเป็นโรงพยาบาลรัฐบาลราคาก็ย่อมจะถูกกว่าโรงพยาบาลของเอกชนอย่างแน่นอน
วิธีการเตรียมตัวและการพักฟื้น
- ทารกไม่ต้องงดอาหารหรือน้ำ
- ญาติจำเป็นต้องทำความเข้าใจกับวิธีการทำของแพทย์ เพราะเด็กทารกยังไม่สามารถสื่อสารและพร้อมให้ความร่วมมือกับแพทย์ ซึ่งอาจต้องให้ญาติเข้าไปพร้อมกับทารก
- การพักฟื้นในโรงพยาบาลเป็นแค่การเจาะน้ำในไขสันหลังเพื่อวินิจฉัยโรคเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องนอนพักในโรงพยาบาล แต่ถ้ามีโรคที่ต้องรักษาอยู่แล้วอย่างเช่นเจาะเพื่อให้เคมีบำบัดแบบนี้ ก็จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อรักษาต่อไปตามปกติ
วิธีการดูแลตัวเองหลังการเจาะน้ำไขสันหลัง
- หลังการเจาะน้ำไขสันหลังแล้ว ควรให้ทารกนอนหงายเป็นเวลา 6 – 8 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไขสันหลังไหลออกและให้แผลที่เจาะนั้นปิดสนิท ทั้งนี้ทารกยังคงสามารถดื่มน้ำได้และไม่มีข้อห้ามในการกินนมหรืองดอาหาร ยกเว้นกรณีที่ทารกจะมีอาการไม่รู้สึกตัว แต่ก็ควรต้องให้อยู่ในดุลพินิจของแพทย์อีกด้วย
- แผลเจาะเป็นเพียงแผลเล็กๆ เหมือนการเจาะเลือดทั่วไป ดังนั้นการดูแลแผลเจาะน้ำไขสันหลังจึงไม่มีอะไรเป็นพิเศษ แต่ควรต้องปิดแผลด้วยปลาสเตอร์เพื่อป้องกันเลือดที่แผลเจาะซึมออกมาเท่านั้น โดยทิ้งไว้ประมาณ 6 – 8 ชั่วโมง ก็แกะออกและสามารถอาบน้ำให้ทารกได้
หากมีปัญหาใดๆ ควรปรึกษาแพทย์และทำความเข้าใจถึงจุดประสงค์ที่ต้องทำการเจาะให้ถ่องแท้ รวมทั้งให้ความร่วมมือกับแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อประโยชน์สูงสุดในที่มีต่อตัวเด็กทารกนั่นเอง