สรุป 5 ข้อตรวจก่อนแต่งงาน มีอะไรกันบ้าง?

การแต่งงานเป็นเรื่องที่ต้องดูกันระยะยาว ทั้งเรื่องการใช้ชีวิตคู่ การมีบุตร การวางแผนการเงิน ทำให้ก่อนจะแต่งงานจึงต้องวางแผนอะไรหลายอย่าง

มีคำถามเกี่ยวกับ ตรวจสุขภาพ? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

การตรวจสุขภาพก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ควรทำ เพราะหากแต่งงานไปแล้วดันพบโรคติดต่อหรือปัญหามีบุตรยาก ก็อาจทำให้แผนที่วางไว้คลาดเคลื่อนได้

แต่หลายคนก็สงสัยว่า แล้วการตรวจก่อนแต่งจะครอบคลุมมากแค่ไหน คุ้มกับที่เราให้ความสำคัญไหม HDmall จึงสรุปมาให้ดูใน 5 ข้อสั้นๆ ว่าโปรแกรมตรวจก่อนแต่งมักจะตรวจอะไรกันบ้าง

1. ซักประวัติทั่วไป

ขั้นตอนแรกมักเริ่มด้วยอะไรซอฟท์ๆ อย่างการซักประวัติพูดคุยกับพยาบาลหรือแพทย์ เพื่อถามข้อมูลเบื้องต้นจากผู้รับบริการ เช่น

  • มีโรคประจำตัวไหม
  • การรักษาที่เคยผ่านมา
  • ประวัติการฉีดวัคซีน
  • ใช้อาหารเสริม หรือสารสกัดอะไรไหม
  • มีอาการผิดปกติในช่วงที่ผ่านมาไหม
  • การใช้ชีวิตเป็นอย่างไร? (เช่น ออกกำลังกาย กินอาหาร)
  • ดื่มเหล้าสูบบุหรี่หรือไม่?

หากจำข้อมูลไม่ได้บางส่วน ก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรร้ายแรง แต่การให้ข้อมูลอย่างครบถ้วนก็จะเป็นผลดีต่อการวินิจฉัย ดังนั้นเมื่อรู้แล้วว่ามีคำถามอะไรบ้าง ควรเตรียมคำตอบตามจริงให้พร้อม

2. ตรวจร่างกาย

ขั้นตอนนี้จะเป็นขั้นตอนที่ทุกคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะเป็นการตรวจกายภาพเบื้องต้น

การตรวจที่พบบ่อยๆ เช่น ชั่งน้ำหนัก วัดความดัน ฟังการทำงานของปอด ส่องช่องคอ เป็นต้น จากนั้นก็บันทึกข้อมูลเพื่อนำไปประกอบการวินิจฉัยและให้คำแนะนำ

มีคำถามเกี่ยวกับ ตรวจสุขภาพ? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

3. ตรวจเลือด

การตรวจเลือดเป็นสิ่งสำคัญมากของโปรแกรมการตรวจก่อนแต่ง เพราะการตรวจเลือดสามารถบอกโรคที่มีโอกาสเป็นได้ เช่น

  • ตรวจหาเชื้อเอชไอวี
  • ตรวจหาโรคทางพันธุกรรม
  • ตรวจหาโรคธาลัสซีเมีย
  • ตรวจหาภูมิคุ้มกันหัดเยอรมัน
  • ตรวจหาสารบ่งชี้มะเร็งชนิดต่างๆ (เช่น มะเร็งรังไข่ มะเร็งเต้านม)

ซึ่งโรคและเชื้อเหล่านี้อาจมีผลกระทบต่อคู่รัก หรือทารกในครรภ์ได้ จึงจำเป็นต้องตรวจหาและรักษาตั้งแต่ในระยะแรกๆ

4. ตรวจสารคัดหลั่ง

อย่างที่ทราบกันดีว่า บุคลากรทางการแพทย์มักแนะนำให้ใส่ถุงยางอนามัยในการมีเพศสัมพันธ์ นั่นเป็นเพราะสารคัดหลั่งในช่องคลอด และน้ำอสุจิ สามารถส่งต่อเชื้อได้หลายประเภท เช่น เชื้อเอชไอวี หนองใน

โดยแพทย์อาจทำการเก็บตัวอย่างตกขาวในช่องคลอด เพื่อนำไปส่องกล้องจุลทรรศน์ดู นอกจากนี้น้ำลายก็สามารถส่งต่อเชื้อบางชนิดเช่นกัน เช่น ไวรัสตับอักเสบ

5. ตรวจด้วยอุปกรณ์เฉพาะทาง

บางโปรแกรมตรวจจะมีการใช้อุปกรณ์ตรวจเสริมด้วย เช่น การอัลตราซาวด์ (Ultrasound) ช่องท้องเพื่อดูภาพรวมของมดลูกเบื้องต้น การเอกซเรย์ปอด (Chest X-Ray) เพื่อตรวจหาความผิดปกติเบื้องต้น

จากรายการตรวจทั้ง 5 ประเภท จะเห็นได้ว่าโปรแกรมตรวจก่อนแต่งจะค่อนข้างครอบคลุมหลายโรค

ดังนั้นสำหรับคนที่กำลังวางแผนแต่งงาน ควรหาโปรแกรมตรวจก่อนแต่งสักโปรแกรม เพื่อความปลอดภัยของทั้งคุณและคนรัก

มีคำถามเกี่ยวกับ ตรวจสุขภาพ? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

หากคุณติดตั้ง LINE บนคอมพิวเตอร์ของคุณแล้ว ระบบจะเปิดบัญชีทางการ LINE ของ Jib AI ผู้ช่วยสุขภาพ โดยอัตโนมัติ

หากคุณยังไม่ได้ติดตั้ง LINE บนเดสก์ท็อป โปรดสแกน QR โค้ดด้วย LINE บนโทรศัพท์มือถือของคุณเพื่อเริ่มแชทกับ Jib AI ผู้ช่วยสุขภาพ