ตาบอดสีคืออะไร เกิดจากอะไร กิจกรรมใดที่คนตาบอดสีไม่ควรทำ

ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจและยังเป็นอวัยวะสำคัญที่ใช้สำหรับการมองเห็นอีกด้วย เคยสังเกตหรือไม่ว่าทำไมเราจึงสามารถพบเห็นวัตถุหรือสื่อต่างๆ ได้ครบทุกสีสัน ช่วยทำให้คุณรู้สึกดีและประทับใจในระหว่างทำกิจกรรมต่างๆ แต่รู้หรือไม่ว่ามีหลายคนที่ไม่สามารถมองเห็นสีสันได้อย่างครบถ้วน ซึ่งเป็นอาการที่เราเรียกกันว่า “ตาบอดสี” นั่นเอง  จนทำให้การใช้ชีวิตนั้นดูจะไม่สมบูรณ์สักเท่าไรนัก โดยอาการของผู้ที่ตาบอดสีมักจะไม่สามารถมองเห็นสีเขียว สีเหลือง สีส้มและสีแดงได้อย่างชัดเจน และในบางรายอาจจะมีอาการตาบอดสีทุกสี (Achromatopsia) แต่พบได้น้อยมาก

มีคำถามเกี่ยวกับ ตาบอดสี? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

ตาบอดสี คืออะไร แบ่งออกได้กี่ชนิด?

ตาบอดสี (Color blindness) คือความผิดปกติของสายตาที่ทำให้มองเห็นสีบางสีผิดไปจากปกติ ซึ่งเกิดจากความปกติของเซลล์รับรู้การเห็นสี (Photo receptor cell) โดยจะต้องผ่านการทดสอบสายตาเพื่อทำการยืนยันรูปแบบของตาบอดสีว่า บอดสีอะไร และบอดสีมากน้อยเพียงใด ตาบอดสีนั้นไม่ใช่อาการของคนที่ไม่สามารถมองเห็นสีนั้นๆ ได้ ว่ากันง่ายๆ คือหากคุณตาบอดสีแดง เมื่อเห็นวัตถุที่มีสีแดง สีแดงนั้นจะเปลี่ยนไปเป็นสีอื่นที่ไม่ตรงกับสีแดง ตาบอดสีมักจะพบได้มากที่สุดกับผู้ชาย โดยพบผู้ชายมีอาการตาบอดสีประมาณ 8% ของประชากรทั้งหมด แต่พบในผู้หญิงได้เพียงประมาณ 0.4% เท่านั้น

อาการตาบอดสี แบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด โดยแบ่งไปตามสาเหตุได้ดังนี้

1. ภาวะตาบอดสีชนิดเกิดแต่กำเนิด

เป็นภาวะถ่ายทอดทางพันธุกรรมจาก X chromosome (โครโมโซม) ของฝ่ายแม่/ฝ่ายหญิง จากการวิจัยทำให้พบว่าตาบอดสีแต่กำเนิดจะมีอาการบอดสีแดง หรือพร่องสีแดง บอดสีเขียวหรือพร่องสีเขียว เป็นส่วนมาก

2. ตาบอดสีที่เกิดในภายหลัง

เกิดจากความผิดปกติของการเห็นสีที่เกิดในภายหลัง ซึ่งมักจะเกิดจากสาเหตุของโรคจอตา หรือประสาทตา รวมไปถึงการสูญเสียเซลล์รูปกรวยชนิดต่างๆ ทำให้ไม่สามารถมองเห็นสีน้ำเงิน-เหลือง และโรคของประสาทตามักสูญเสียการมองเห็นสีแดง-เขียว ซึ่งนอกจากมองเห็นสีผิดไปแล้ว ผู้ป่วยมักจะมีสายตาหรือลานสายตาที่ผิดปกติด้วย

มีคำถามเกี่ยวกับ ตาบอดสี? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการตาบอดสี

โดยปกติแล้ว ดวงตาจะประกอบไปด้วยเซลล์หลังจอตา 2 ชนิด ซึ่งเป็นส่วนประกอบของร่างกายที่ทำหน้าที่ในการแยกสีต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในสายตาของเรา เซลล์ชนิดแรกคือ เซลล์รูปแท่ง (Rod Cell) ที่มีความไวต่อการรับแสงในที่มืด ทำให้เราสามารถมองเห็นได้ในเวลากลางคืนและเป็นสีโทนดำ ขาว และเทาเท่านั้น เซลล์อีกชนิดหนึ่งคือ เซลล์รูปกรวย (Cone Cell) ที่มีความไวในการรับแสงที่สว่างกว่า ทำให้สามารถแยกแสงสีต่างๆ ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เซลล์รูปกรวยนี้เองถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราสามารถแยกชนิดของสีต่างๆ ในระหว่างการมองเห็นได้ ด้วยการส่งสัญญาณไปยังสมองเพื่อทำการแยกสีและการผสมของแสงสีต่างๆ ทำให้สามารถมองเห็นวัตถุต่างๆ หรือสื่อต่างๆ ด้วยสีสันที่ครบถ้วน และสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการตาบอดสีได้นั้นก็มีด้วยกันหลายสาเหตุ แต่มักจะพบว่าเกิดจากความผิดปกติของยีนส์ในร่างกายเสียเป็นส่วนใหญ่

วิธีการทดสอบตาบอดสี

สำหรับผู้ที่รู้สึกว่าตนเองมีความผิดปกติในการมองเห็นสี สามารถเข้ารับการทดสอบตาบอดสีได้ด้วยวิธีการทดสอบทางสายตา นั่นก็คือ การเข้ารับการตรวจและปรึกษากับจักษุแพทย์ ซึ่งทางด้านจักษุแพทย์จะทดสอบผ่านเครื่องมือการตรวจโรคตาบอดสี ได้แก่ แผ่นภาพ Ishihara Chart ซึ่งถือเป็นวิธีทดสอบสียอดนิยม เป็นลักษณะของแผ่นภาพที่มีจุดวงกลมวงใหญ่และมีจุดวงกลมเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยตัวเลขและสีที่ถูกซ่อนอยู่แตกต่างกัน จากนั้นจะให้ผู้เข้าทดสอบทำการดูที่ภาพและแยกสี ตลอดจนการอ่านตัวเลข หากเกิดความสับสนและไม่สามารถบอกตัวเลขบนภาพได้ แสดงว่าคุณมีอาการตาบอดสีซึ่งจะต้องทำการตรวจสอบอย่างละเอียดว่ามีอาการตาบอดสีแบบใด เพื่อทำให้สามารถหาวิธีรักษาได้อย่างถูกต้องยิ่งขึ้นต่อไป

กิจกรรมที่ผู้ป่วยตาบอดสีไม่ควรทำ

ผู้ป่วยตาบอดสีถือว่าเป็นผู้ที่ไม่ควรทำกิจกรรมใดๆ ที่มีอาชีพที่เกี่ยวกับการแยกแยะสีสันโดยตรง เช่น การขับรถ เนื่องจากผู้ป่วยจะไม่สามารถแยกแยะสีบนสัญญาณจราจรได้ อาจจะทำให้เกิดการตัดสินใจที่ผิดพลาดจนทำให้เกิดอุบัติเหตุกับตัวเองหรือคนอื่นได้ กิจกรรมเกี่ยวกับการตัดเย็บเสื้อผ้าต่างๆ การตกแต่งหรือทาสีผนังห้อง และการเลือกซื้อของที่จำเป็นต้องเลือกสีสันเป็นหลัก นอกจากนี้ ยังมีอาชีพอื่นๆ เช่น กราฟฟิคดีไซน์ เจ้าหน้าที่ห้องตรวจสารเคมี ตำรวจ นักดับเพลิง หรือช่างถ่ายรูป เนื่องจากผู้ป่วยตาบอดสีจะไม่สามารถปฏิบัติงานได้อย่างเต็มที่

สำหรับผู้ที่ตรวจพบว่าตนเองมีอาการตาบอดสี ควรจะต้องได้รับการดูแลจากคนใกล้ชิดอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีอายุน้อย เพื่อช่วยให้สามารถปรับตัวในการใช้ชีวิตได้เป็นปกติมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ควรเข้าตรวจสายตากับจักษุแพทย์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยหาสาเหตุของอาการตาบอดสีและเลือกใช้วิธีรักษาหรือบรรเทาอาการตาบอดสีที่เหมาะสมที่สุด แต่ตัวผู้ป่วยเองก็ไม่ต้องวิตกกังวลในการใช้ชีวิตจนเกินไป เพราะคุณยังสามารถเห็นภาพได้ชัดเจนและยังสามารถประกอบอาชีพอื่นๆ ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ความสามารถในการมองเห็นสีได้


เปรียบเทียบราคาแพ็กเกจตรวจตา

มีคำถามเกี่ยวกับ ตาบอดสี? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

หากคุณติดตั้ง LINE บนคอมพิวเตอร์ของคุณแล้ว ระบบจะเปิดบัญชีทางการ LINE ของ Jib AI ผู้ช่วยสุขภาพ โดยอัตโนมัติ

หากคุณยังไม่ได้ติดตั้ง LINE บนเดสก์ท็อป โปรดสแกน QR โค้ดด้วย LINE บนโทรศัพท์มือถือของคุณเพื่อเริ่มแชทกับ Jib AI ผู้ช่วยสุขภาพ