จูบปาก มีโอกาสพบโรคติดต่ออะไรบ้าง เสี่ยงแค่ไหน


จูบปาก มีโอกาสพบโรคติดต่ออะไรบ้าง

หนึ่งในพฤติกรรมที่แสดงออกของมนุษย์ทุกชาติพรรณ โดยเฉพาะวัยรุ่นเพื่อกระตุ้นอารมณ์ทางเพศก็คือการจูบ คุณรู้ไหมว่ามีโรคภัยมากมายที่มาพร้อมกับการจูบได้เช่นกัน เราจึงควรดูแลและตรวจสุขภาพอยู่เสมอ และเข้าใจว่ามีโอกาสพบโรคอะไรบ้าง

โรคที่มีโอกาสติดต่อผ่านทางน้ำลายจากการจูบปาก มีดังนี้

โรคเริม

โรคร้ายที่แสดงความน่าอับอายแก่ผู้ป่วย จากการพบเห็น เพราะร่องรอยหลักฐานเป็นบาดแผลที่ริมฝีปาก เริมส่วนใหญ่คนทั่วไปจะเข้าใจว่าเป็นโรคติดต่อจากเพศสัมพันธุ์เท่านั้น แต่การจูบเป็นพฤติกรรมร้ายอีกหนึ่ง เพราะเนื่องจากการจูบแบบฝรั่งเศสจะใช้ริมฝีปากประกบกัน และบางรายอาจเร่งเร้าคู่รัก ด้วยการจูบที่ดูดดื่ม เป็นการเพิ่มโอกาสติดเชื้อโรคเริมมากขึ้น เริมเป็นโรคร้ายที่อาจเกิดกับเด็ก หรือคนปกติได้จากการดื่มน้ำจากแก้ว ก๊อกน้ำสาธารณะ รวมทั้งช้อนที่ใช้ตักอาหารจากร้านอาหาร ผู้ป่วยบางรายอาจไม่แสดงอาการเพราะเชื้อเริมจะฝังตัวอยู่ปมประสาท เมื่อผู้ป่วยมีอาการอ่อนแอเชื้อนี้ก็จะแสดงอาการออกมา ส่วนอาการจะมีตุ่มหนอง ในบริเวณปากด้านใน และแผลที่ริมฝีปาก

อ่านต่อ: โรคเริม อันตรายไหม สาเหตุ อาการ วิธีรักษา

โรคคางทูม

โรคใกล้ตัวที่เชื้อไวรัส โรคร้ายนั้นอาศัยน้ำลายเป็นพาหะ เนื่องจากการจูบปัจจุบันมีรูปแบบที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะวัยรุ่นจะใช้วิธีการจูบแบบฝรั่งเศส (French kiss )เป็นการใช้ลิ้นเข้าไปดันลิ้นในปากของกันและกัน โดยจะวนไปมาเป็นเลขแปดหรือตวัดลิ้นไปมาเป็นวงกลมเพื่อกระตุ้นให้ ตื่นเต้น เร้าใจมากขึ้น ทำให้โอกาสน้ำลายเข้าไปในปาก ดังนั้นวิธีการจูบแบบนี้จะเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดโรคคางทูมได้ง่าย ส่วนอาการเด่นชัดก็คือ มีไข้ เบื่ออาหาร ปวดที่บริเวณต่อมน้ำลายใต้คาง กลืนอาหาร แม้กระทั่งน้ำลายก็เจ็บคอ ทำให้คุณภาพชีวิตรักต่ำลงเชื้อนี้อาจจะเข้าไปทำลายอสุจิในเพศชายได้

แพ็กเกจแนะนำ: ฉีดวัคซีนคางทูม หัด

โรคหวัด

ไข้หวัดใหญ่ เมื่อมีปากชนปาก อวัยวะที่ใกล้ปากที่สุดก็คือจมูก จมูกคืออวัยวะขับน้ำมูกเมื่อเวลาผู้ป่วยเป็นไข้หวัด ดังนั้นการจูบคู่รักที่กำลังป่วยเป็นไข้จะมีโอกาสสัมผัสน้ำมูกของกันและกันมากขึ้น โรคหวัดจะติดต่อได้ง่าย

อ่านต่อ: อาการไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดธรรมดา ไข้เลือดออก ต่างกันอย่างไร?

ไวรัสตับอักเสบบีและเอ

บางสายพันธุ์โรคนี้ติดต่อกันง่ายมาก เช่นการรับประทานอาหารโดยไม่ใช้ช้อนกลาง แน่นอนว่าจะติดต่อกันทางการจูบได้เช่นกัน เพราะเชื้อจะอยู่ในน้ำลาย เชื้อจะทำให้ผู้ป่วยโรคนี้มีอาการของโรคตับแข็ง มะเร็งตับและเสียชีวิตได้ในอนาคต

อ่านต่อ: ชวนรู้จักวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี

ปฏิเสธไม่ได้ว่า การจูบเป็นบรรทัดฐานของคู่รักที่จะต้องแสดงออกว่ารัก แต่มีโรคร้ายที่อาจคร่าชีวิตของอีกฝ่ายได้ แฝงอยู่เป็นภัยมืดใกล้ ๆตัวเมื่อการแสดงออกเรื่องความรักแบบการจูบปาก มีอันตรายมากมายขนาดนี้ เราทำไมไม่เปลี่ยนวิธีการแสดงออกจากการจูบปากมาจูบที่หน้าผาก แก้ม หรือที่ซอกคอแทน อาจจะได้อารมณ์ไปอีกแบบ

ตอบคำถามจากทางบ้าน

อยากทราบเวลาจูบแลกลิ้นต้องจูบตอนสุขภาพดีไหมคะ กังวลเรื่องโรคติดต่อค่ะ แต่อยากจูบแบบนั้น ขอวิธีเพิ่มเติมในการป้องโรคแต่ยังจูบกันได้ค่ะ ?

การจูบแลกลิ้นนั้นสามารถทำได้อย่างปลอดภัยครับ แต่ควรทำในช่วงที่ทั้ง 2 คนต่างมีสุขภาพดีทั้งคู่ ไม่มีความเจ็บป่วย เช่น เป็นหวัด ไอ มีน้ำมูก มีแผลในปาก เพราะอาจทำให้มีการติดโรคสู่กันได้ครับ (ตอบโดย กันตณัฏฐ์ อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.))

จูบกับแฟนครั้งแรกตอน3เดือนก่อน ผมและแฟนไม่ได้เป็นเริม และจูบมาเรื่อยๆตลอด3เดือน อาทิตย์ละครั้ง ยังจะมีโอกาสเป็นเริมอยู่มั้ยครับ ผมอ่านมาว่าเริมเกิดจากการติดเชื้อโดยตรงกับคนเป็นเริม แต่ก็ยังไม่หายกังวลครับ

ความเข้าใจที่ว่าการติดโรคเริมนั้นจะต้องติดจากคนที่เป็นโรคเริมเป็นความเข้าใจที่ถูกต้องแล้วครับ นั่นหมายความว่าถ้าหากแฟนคุณไม่เคยเป็นโรคเริมมาก่อนก็จะสามารถจูบกับแฟนได้โดยไม่มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเริมครับ (ตอบโดย กันตณัฏฐ์ อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.))

สวัสดีครับ คือผมได้มีการจูบกับผู้ที่มีเชื้อ HIV แค่จูบครับไม่มี การออรอล หรืออะไรทั้งนั้น เพราะก่อนที่ผมจะ ออรอลผมถามเขาก่อน และเขาก็ตอบว่ามีเชื้อและได้รับการรักษา โดยทานยาต้านมาแล้ว ประมาณ 6-7 เดือน หลังจากที่ผมพบกับเขาวันนั้นอีก ประมาณ 3 วัน ผมได้ทำงานออกจากห้องแอร์ และทำงานตากแดดเป็นเวลาประมาณ 30นาที ถึง 1 ชั่วโมง (แดดช่วงบ่าย 2 โมง) พอตกเย็นมา มีอาการเหมือนมีไข้ อ่อนเพลีย แต่ตัวไม่ร้อน ตัวไม่ร้อน พอเช้ามารู้สึกอ่อนเพลียมาก มีอาการร้อนที่หน้า มีเหงื่อซึม เหนื่อยง่าย หายใจลำบาก มีอาการท้องเดินบางเวลา ผ่านมาอาทิตย์แรก อาการดีขึ้น แต่อาการอ่อนเพลียยังอยู่ ขาสั่นไม่ทีแรง เข้าอาทิตย์ที่สอง มีอาการคอแห้งตลอดเวลา เหงื่อซึมแค่บางเวลา อาการหวิว ๆ ริมฝีปากแห้ง เข้าอาทิตย์ที่สามอาการดีขึ้นนมาก ตัวเบา แต่มีอาการเหมือนมีไข้อ่อน ๆ แต่ตัวไม่ร้อน หน้าแดงเป็นแค่บางเวลา อ่อนเพลียบ้างแต่ไม่มาก ตั้งแต่มีอาการเหงือซึม ที่คอจะแสบและคัน การพักผ่อนของผมคือนอน ประมาณเกือบเที่ยงคืนทุกวัน ตื่น 7 โมง #ผมไม่แน่ใจว่านี้คืออาการของคนที่ได้รับเชื้อ HIV หรือ ผมเป็นหวัดแดด ผมกังวลมาก เพราะเป็นมาได้ประมาณ 3 สัปดาห์ แล้วครับ อาการร้อนที่หน้า ยังอยู่แต่เป็นพรัอมกับอาการไข้เล็กน้อยครับ


การจูบกับผู้ป่วยที่ติดเชื้อHIV มีโอกาสที่จะติดเชื้อผ่านน้ำลายนั้นน้อยมากๆครับ หากไม่ได้มีการจูบที่รุนแรงจนกระทั่งมีแผลเลือดออกแล้วนั้น อาการที่แจ้งว่าคาดว่าอาจเกิดจากความกังวลว่าอาจติดเชื้อ ร่วมกับสุขภาพร่างกายที่ไม่แข็งแรงจากการทำงาน พักผ่อนไม่เพียงพอเดิมครับ หากกังวลภายหลังได้รับเชื้อประมาณ1เดือน สามารถตรวจAnti HIVเพื่อดูการติดเชื้อได้ครับ การติดต่อของเชื้อ HIV สามารถติดต่อกันได้ 3 ช่องทาง ได้แก่ การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ป้องกันผ่านสารคัดหลั่ง การส่งต่อเชื้อทางเลือดอย่างการใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน และเชื้อเอดส์จากแม่สู่ลูก (กอบศักดิ์ ชัยชะแตง (นพ.))

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสุขภาพ สอบถามทางแอดมินได้ที่ช่องแชทมุมขวาล่างหรือช่องทางอื่นๆ ทางโซเชียลครับ


เปรียบเทียบราคาแพ็กเกจตรวจสุขภาพ

เปรียบเทียบราคาแพ็กเกจตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD)


บทความแนะนำ


ที่มาของข้อมูล

ขยาย

ปิด

@‌hdcoth line chat