เปลือกตาตกและหย่อน สาเหตุ อาการ วิธีรับมือกับปัญหา

เปลือกตาตกและหย่อน เป็นภาวะที่เปลือกตาบนมีการหย่อนคล้อยลงมาจนบดบังการมองเห็นหรือทำให้ดวงตาดูเหนื่อยล้า ซึ่งเกิดจากหลายปัจจัย เช่น อายุที่เพิ่มขึ้น การถ่ายทอดทางพันธุกรรม หรือกล้ามเนื้อเปลือกตาอ่อนแรง ภาวะนี้ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อความงามของใบหน้า แต่ยังอาจกระทบต่อการมองเห็นในกรณีที่รุนแรง การรักษาเปลือกตาตกอาจรวมถึงการผ่าตัดยกเปลือกตา เพื่อปรับปรุงการมองเห็นและเพิ่มความมั่นใจในรูปลักษณ์

มีคำถามเกี่ยวกับ เปลือกตาตก? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

ความสำคัญของหนังตา

หนังตา เป็นเนื้อเยื่อชนิดเดียวกันกับผิวหนัง  แต่เนื้อเยื่อจะบางกว่าส่วนอื่นๆ ทำหน้าที่ในการปกป้องดวงตา และช่วยในการเคลื่อนไหว ของลูกตา

ถึงแม้ “หนังตา” จะเป็นเนื้อเยื่อผิวหนัง เหมือนผิวหนังทั่วไป แต่ถือว่า หนังตานั้น เป็นส่วนเดียวกันกับตา ภายในหนังตาจะมีกล้ามเนื้อสำหรับการเคลื่อนไหวของตา ช่วยในการหลับตา ลืมตา และกระพริบตา  และภายในหรือภายใต้หนังตา จะมีเนื้อเยื่อยุตาใต้ผิวหนังด้านใน อยู่ติดลูกตา ซึ่งสามารถเกิดการอักเสบและเกี่ยวข้องกับเยื่อบุตาขาว  เช่น เยื่อบุตาขาวอักเสบ เยื่อบุใต้หนังตาก็จะอักเสบตามไปได้ด้วย

ดังนั้น  หนังตา จึงถือเป็นส่วนที่สำคัญของดวงตา คอยปกป้องและช่วยเหลือดวงตา  เช่น กระพริบตา หยีตาเมื่อเจอแสงจ้า หลับตาเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมจะเข้าตา เป็นต้น และหนังตายังทำหน้าที่สัมพันธ์กับ  ต่อมไมโบโมเบียน (Meibomian gland) ที่ทำหน้าที่ในการผลิตน้ำตา ร่วมกับ ต่อมน้ำตา  โดยที่นอกเหนือจากสร้างน้ำตาแล้วจะมีการสร้างไขมันเพื่อเคลือบเยื่อตาให้มีความชุมชื่น ลื่นและลดการระคายเคือง ช่วยในการทำความสะอาดฝุ่นผงต่างๆ ที่เข้าลูกตา และขับออกมาจากดวงตาทุกวันในรูป “ขี้ตา” นั่นเอง

ซึ่งหากหนังตาผิดปกติ จะมีผลกระทบต่อการมองเห็น การเคลื่อนไหวของตาและกระทบกับการทำงานส่วนต่างๆ ดังนี้

โดยปกติในช่วงที่เรานอนหลับ หนังตาจะปิดดวงตาไว้ เพื่อรักษาความชุ่มชื้น และระหว่างวันการกระพริบตาจะเป็นการช่วยถนอมดวงตาและรักษาความชุ่มชื้นของดวงตา

การกะพริบตายังเป็นการช่วยในการกระตุ้นการสร้างน้ำตาเพื่อออกมาหล่อเลี้ยงลูกตา แต่สำหรับคนที่มีอาการหนังตาผิดปกติ  จะทำให้การทำงานเหล่านี้ผิดปกติ โดยเฉพาะ อาการที่เรียกว่า “หนังตาตกหรือหนังตาหย่อน” ดังนี้

อาการหนังตาตกหรือหย่อน

อาการหนังตาตก (Ptosis) เป็นภาวะที่เปลือกตาบนตกลงมาต่ำกว่าปกติ อาจตกลงมาเพียงเล็กน้อยไปจนถึงตกลงมาจนปิดรูม่านตา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการมองเห็น  ในบางรายอาจเพียงแค่ทำให้รูปลักษณ์เปลี่ยนแปลงไปแต่ไม่ส่งผลต่อการมองเห็นมากนัก ยกเว้น หนังตานั้นตกจนไปปิดบังลานตาและมุมในการมองเห็น

อาการหนังตาตก นั้น สามารถเป็นข้างเดียว หรือ เป็น ทั้ง 2 ข้าง ซึ่งไม่ได้ก่อให้เกิดอาการเจ็บปวดแต่ทำให้ การมองเห็นลดลงได้  ซึ่งมีวิธีการสังเกตดังนี้

มีคำถามเกี่ยวกับ เปลือกตาตก? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

  • โดยปกติเมื่อเรามองภาพหน้าตกจะมองเห็นตามปกติ สำหรับคนที่เริ่มหนังตาตก จะต้องเงยหน้า หรือ โก่งคิ้วเพื่อให้มองเห็นชัดเจน
  • เมื่อปล่อยให้หนังตาผิดปกตินานๆ จะเกิดภาวะแทรกซอนต่อดวงตา ระดับสายตา ลานสายตา และการมองเห็น ได้
  • เมื่อส่องกระจกจะพบว่า ดวงตา 2 ข้างไม่เท่ากัน หรือ ตาเล็กแคบกว่าปกติ
  • หนังตาตกสามารถเกิดขึ้นได้ทุกวัย เกิดจากความผิดปกติของกล้ามเนื้อตา เช่นในเด็ก เราจะสังเกตง่า เด็กเหมือนง่วง ตลอดเวลา แต่ถ้าเกิดขึ้นกับเด็กเล็กๆ จะเรียกอาการนี้ว่า ตาเหล่ ได้

สาเหตุที่ทำให้เปลือกตาตกและหย่อน

  • สาเหตุของหนังตาตกนั้น  เกิดขึ้นได้หลายปัจจัย เช่น
  • เกิดจากความผิดปกติของร่างกายที่มีผลต่อระบบประสาท เช่น โรคหลอดเลือดสมอง  โรคเนื้องอกหรือมะเร็งที่สมอง หรือ เกิดอุบัติเหตุโดยตรงกับระบบประสาทที่ตา
  • หนังตาตกตั้งแต่กำเนิด (Congenital Ptosis) เกิดจากกล้ามเนื้อที่หนังตาผิดปกติมาแต่กำเนิด ส่วนใหญ่จะพบความผิดปกติข้างเดียว ร้อยละ 70
  • อายุที่เพิ่มขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อตามผิดปกติ หรือ หย่อนยาน จนทำให้หนังตาตก
  • เกิดจากภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัดตา เช่น การผ่าตัดทำตา 2 ชั้น การผ่าตัดต้อ การทำเลสิก รวมถึงเนื้องอกที่ตาได้
  • เกิดจากกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง หรือ เป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับกล้ามเนื้ออ่อนแรง(Myasthenia Gravis) นอกจากจะทำให้หนังตาตกหรือกล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวอ่อนแรง ยังทำให้กล้ามเนื้อบริเวณอื่น ๆ เช่น กล้ามเนื้อใบหน้า แขน และขา มีอาการอ่อนแรงได้เช่นกัน
สาเหตุที่ทำให้เปลือกตาตกและหย่อน

วิธีการรักษาเปลือกตาตกและหย่อน

การรักษาหนังตาตกนั้น สามารถทำได้เมื่อวินิจฉัยสาเหตุ และทำการผ่าตัดรักษาด้วยการหนังตา ยกเว้นในรายที่มีความผิดปกติจากระบบประสาทและสมอง ต้องรักษาตามอาการ ร่วมกับ การรักษาแบบประคับประคอง

ส่วนใหญ่การผ่าตัดรักษา แพทย์จะทำการผ่าตัดยกเปลือกตาเป็นตา 2 ชั้น ซึ่งต้องอาศัยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการทำการรักษา ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 1 วัน และพักฟื้นประมาณ 1-2 เดือน และช่วงหลังพักฟื้นผู้ป่วยต้องหลีกเลี่ยงการใช้สายตานานๆ หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่แสงจ้า การใช้โทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน หรือ คอมพิวเตอร์ จนกว่าแผลที่ตาจะหาย และเปลือกตาสามารถใช้งานได้ตามปกติ ทั้งนี้ ภาวะเปลือกตาตกหย่อนและโรคของเปลือกตาอื่นๆ จำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านจักษุตกแต่งและเสริมสร้าง (Ophthalmic Plastic and Reconstructive Specialist) เท่านั้นเพื่อป้องกันอาการแทรกซ้อนที่ไม่พึงประสงค์ต่อไป

วิธีการรักษาเปลือกตาตกและหย่อน

วิธีการป้องกันและการดูแลเปลือกตา

นอกจากที่เราต้องดูแลและปกป้องดวงตาของเราแล้ว การดูแลเปลือกตาก็สำคัญ ซึ่งมีวิธีการดูแลง่ายๆ ดังนี้

1. กะพริบตาบ่อยๆ เพื่อกระตุ้นการสร้างและการหลั่งของน้ำตา เป็นการช่วยถนอมเยื่อบุตา และช่วยรักษาความชุ่มชื้นของดวงตา

2. พักการใช้สายตาอย่างน้อยทุก 1-2 ชั่วโมงในกรณีที่ต้องมีการเพ่งหรือใช้กล้ามเนื้อตามากกว่าปกติ เช่น ใช้งานคอมพิวเตอร์ งานออกแบบที่ต้องการความละเอียดสูงๆ

3. ทำความสะอาดดวงตาและเปลือกตาด้วยน้ำสะอาดทุกวัน หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ในการเช็ดหรือทำความสะอาดรอบดวงตา เช่น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวบางชนิดมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ควรหลีกเลี่ยงการใช้รอบดวงตา

4. หากมีความผิดปกติที่เปลือกตา หรือ ดวงตา ควรปรึกษาแพทย์ ไม่แนะนำให้ซื้อมาหยอดตาเอง

5. ระมัดระวังการใช้วัสดุ หรือ ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน สำหรับดวงตา เช่น บิ๊กอาย น้ำยาแช่คอนแทคเลนส์ ให้ระมัดระวังเลือกที่ได้คุณภาพและมาตรฐานเพราะจะต้องสัมผัสผิวดวงตาโดยตรง

6. ในรายที่มีปัญหากล้ามเนื้อหนังตาตกหรือหย่อนมากๆ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาผ่าตัดรักษา


เปรียบเทียบราคา แพ็กเกจกรีดตา

มีคำถามเกี่ยวกับ เปลือกตาตก? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

หากคุณติดตั้ง LINE บนคอมพิวเตอร์ของคุณแล้ว ระบบจะเปิดบัญชีทางการ LINE ของ Jib AI ผู้ช่วยสุขภาพ โดยอัตโนมัติ

หากคุณยังไม่ได้ติดตั้ง LINE บนเดสก์ท็อป โปรดสแกน QR โค้ดด้วย LINE บนโทรศัพท์มือถือของคุณเพื่อเริ่มแชทกับ Jib AI ผู้ช่วยสุขภาพ