ลบรอยสักเป็นวิธีนำรอยสักที่ไม่ต้องการออกไปจากร่างกาย ในอดีตการลบรอยสักอาจทำได้เพียงแค่ทำให้สีของรอยสักจางลงใกล้เคียงกับสีของผิวหนังมากที่สุด จึงยังคงเหลือร่องรอยการสักอยู่บ้าง
แต่ปัจจุบันมีการลบรอยสักหลายวิธีเช่น การลบรอยสักด้วยเลเซอร์ การลบรอยสักด้วยศัลยกรรมขัดผิวหนัง การลบรอยสักด้วยการผ่าตัดศัลยกรรม
หากสนใจลบรอยสัก อยากรู้ว่า วฺิธีลบรอยสักมีอะไรบ้าง? ลบรอยสักด้วยเลเซอร์คืออะไร? เตรียมตัวอย่างไรก่อนลบรอยสัก? HDmall.co.th จะพาไปหาคำตอบ
สารบัญ
ลบรอยสักคืออะไร?
ลบรอยสักหมายถึง การนำเม็ดสีต่างๆ ที่เกิดจากการสักไม่ว่าจะจากเข็ม หรือเครื่องสัก ออกจากผิวหนังให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ผิวบริเวณดังกล่าวแลดูเป็นผิวหนังปกติ ไม่มีลวดลายใดๆ อีก
ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญที่ทำให้การลบรอยสักได้ผลดีหรือไม่ ลบยาก หรือง่าย ต้องใช้เวลาในการลบหลายครั้ง หรือไม่ นั้นขึ้นอยู่กับ “สีของรอยสัก”
สีที่ลบง่ายได้แก่ สีเข้ม เช่น ดำ น้ำตาล น้ำเงินเข้ม เขียว แต่สีที่ลบยากจะเป็นสีแดง สีเหลือง สีส้ม
ระยะหลังๆ เริ่มมีความนิยมสักด้วยสีเนื้อ หรือสีออกขาว ซึ่งลบได้ยากมากขึ้นไปอีก และยิ่งสักหลายสีเท่าไหร่ ก็ยิ่งลบยากมากขึ้นเท่านั้น
นอกจากเรื่องสีแล้วยังมีปัจจัยเรื่องของสีผิวเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยผู้มีสีผิวเข้มจะลบรอยสักยากกว่า ขนาดของรอยสัก ตำแหน่งของรอยสัก ระยะเวลาการสักที่ผ่านมา และระดับความลึกของการสักที่มีผลต่อการยาก-ง่ายในการลบ
ยิ่งหากเป็นการสักด้วยมือสมัครเล่นด้วยแล้วมักจะลงน้ำหนักเข็มจะไม่เท่ากัน ก็ยิ่งลบรอยสักยากมากขึ้นกว่าการสักด้วยเครื่อง หรือการสักด้วยช่างสักมืออาชีพที่น้ำหนักการลงเข็มจะสม่ำเสมอ
ลบรอยสัก มีกี่วิธี อะไรบ้าง?
การลบรอยสักที่ได้มาตรฐานมีหลายวิธี ได้แก่
- การลบรอยสักด้วยเลเซอร์ ปัจจุบันได้รับความนิยมมากเพราะทำได้ง่าย มีประสิทธิภาพดี เกิดแผลเป็นน้อยและมีความปลอดภัยสูง เลเซอร์ที่นำมาใช้งานมีหลายประเภท แต่ที่นิยมและได้ผลดี มี 3 ชนิด คือ เลเซอร์ทับทิม (Ruby Laser), Nd- YAG Laser และ Picoway Laser
- การสักทับ (Tatoo camouflage) เป็นการสักลวดลายอื่นๆ ทับลงไปบนลวดลายเดิมที่ไม่ต้องการ รอยสักใหม่อาจมีสีเข็มขึ้น ขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อให้ปกปิดรอยสักเดิมได้มิดชิด เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการสักและต้องการสักในตำแหน่งเดิม
- การศัลยกรรมขัดผิวหนัง (Dermabrasion) การขัดอาจใช้สารเคมีร่วมกับยาชา หรือการใช้ความเย็นทำให้ชา แล้วจึงใช้อุปกรณ์ เช่น แปรงขัดที่หมุนด้วยความเร็วขัดบริเวณที่มีรอยสักเพื่อนำเม็ดสีออกไปจากชั้นผิวหนัง แต่วิธีนี้ก็สร้างความเจ็บปวด แสบทั้งในขณะขัดและหลังการขัดไปหลายวัน ปัจจุบันจึงไม่เป็นที่นิยม
- ศัลยกรรมผ่าตัดลบรอยสักออก (Sugical Removal) ผ่าตัดลอกผิวหนังส่วนที่รอยสักออกไปออกแล้วเย็บปิด กรณีนี้หากเป็นรอยสักขนาดเล็ก แพทย์สามารถเย็บปิดได้เลย และอาจมีแผลเป็นน้อย แต่หากรอยสักมีขนาดใหญ่ แพทย์อาจจำเป็นต้องผ่าตัดผิวหนังส่วนอื่นมาปิดแทน ซึ่งแน่นอนว่าจะเกิดแผลเป็นมากขึ้น ปัจจุบันวิธีนี้ไม่เป็นที่นิยมเพราะทำในตำแหน่งจำกัด ค่าใช้จ่ายสูง และมีโอกาสเกิดแผลเป็นมาก
ลบรอยสัก ด้วยต้วเองได้ไหม?
บางคนต้องการลบรอยด้วยตัวเอง ด้วยวิธีต่างๆ ได้แก่
- การใช้ “เกลือ น้ำส้มสายชู ปูนแดง ด่างทับทิม และยางไม้บางชนิด” มาขัดบริเวณรอยสัก ทาบริเวณรอยสัก หรือแช่บริเวณที่สัก เช่น การแช่น้ำเกลือแล้วขัดออก วิธีเหล่านี้นอกจากจะไม่เห็นผลแล้ว ยังอาจทำให้เจ็บตัว ผิวหนังถลอกเกิดแผลตามมาได้ บางรายอาจพบว่า ผิวหนังบริเวณดังกล่าวเหี่ยวย่นตามมามาก็มี รวมทั้งอาจมีการติดเชื้อตามมาได้
- การใช้ “ความร้อน” มาทาบริเวณรอยสัก เช่น การใช้เตารีด บุหรี่ หรือเหล็กที่ทำให้ร้อนมานาบบริเวณที่สัก วิธีนี้นอกจากจะไม่เห็นผลแล้ว ยังทำให้เจ็บตัวจากแผลไหม้ พุพอง เสี่ยงต่อการติดเชื้อ และเกิดแผลเป็นตามมาได้ง่าย
- การใช้ “ครีมลบรอยสัก น้ำยาลบรอยสักที่วางขายตามท้องตลาด” มาทาทิ้งไว้บริเวณรอยสักแล้วจึงขัดออก วิธีนี้อาจเห็นผลจากการที่ครีม หรือน้ำยาทำปฏิกิริยากัดสีผิวบริเวณที่สักให้จางลงได้บ้าง แต่สีของรอยสักก็จะไม่หมดไปทั้งหมด อีกทั้งผลิตภัณฑ์เหล่านี้อาจไม่ได้มาตรฐาน หากนำมาใช้ก็เสี่ยงต่อการแพ้ การระคายเคือง จนเกิดแผล และผิวด่างตามมาได้
ดังนั้นจึงไม่ควรลบรอยสักด้วยตัวเองเด็ดขาด เพราะนอกจากรอยสักจะไม่หายไปแล้วยังทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมาอีกด้วย แนะนำให้ไปปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสม ปลอดภัย และได้ผลลัพธ์จริงจะดีที่สุด
ข้อควรรู้เกี่ยวกับการลบรอยสักมีอะไรบ้าง?
- การลบรอยสักแต่ละรอยใช้เวลานานไม่เท่านั้นกัน ขึ้นอยู่กับสี ขนาดของรอยสัก ระยะเวลาในการสักที่ผ่านมา ตำแหน่งของรอยสัก และระดับความลึกของการสัก
- การลบรอยสักอาจเกิดรอยแผลเป็น รอยด่าง และสีผิวไม่สม่ำเสมอตามมาได้
- การลบรอยสักโดยทั่วไปไม่สามารถลบรอยแผลเป็นที่เกิดจากการสักได้
- อาจเกิดอาการระคายเคือง ผิวไหม้ หรือเจ็บปวดตามมาได้
- หากไปลบรอยสักไม่ได้มาตรฐาน หรือผิดวิธี อาจมีโอกาสติดเชื้อได้
- หลังการลบรอยสัก ต้องดูแลแผลที่เกิดขึ้นตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เช่น ไม่ให้โดนน้ำ ทายา หรือครีมตามกำหนด ในกรณีที่ทำเลเซอร์แพทย์อาจแนะนำให้หลีกเลี่ยงการโดนแดด และทาครีมกันแดดทุกครั้งที่ออกแดด
อย่างไรก็ตาม กว่าจะลบรอยสักได้หมดใช้เวลานานหลายเดือน บางกรณีก็ใช้เวลานานเป็นปี เสียค่าใช้จ่ายหลายครั้ง ไม่เหมือนการสักที่ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงก็เรียบร้อย และเสียค่าใช้จ่ายครั้งเดียวจบ
ดังนั้นทุกครั้งก่อนตัดสินใจสักอะไรบนร่างกาย จึงควรพิจารณาให้ดีถึงผลที่จะตามมาในอนาคต