การทำเคมีบำบัด (Chemotherapy) เพื่อรักษาโรคมะเร็งสามารถทำให้เกิดผลข้างเคียงอย่างผมร่วงได้ (Hair loss) แต่อย่ากังวล เพราะหลังจากที่เสร็จสิ้นการรักษาแล้ว เส้นผมก็จะงอกขึ้นมาใหม่เหมือนเดิมภายในระยะเวลา 2-3 เดือน แต่ในระหว่างที่รักษาอยู่นั้น ก็ควรเตรียมอุปกรณ์คลุมศีรษะเอาไว้ใช้สำหรับป้องกันแสงแดด หรือเสริมสร้างความมั่นใจไม่ให้ผู้ป่วยเครียดจนเกินไปนัก
คุณสามารถหาความช่วยเหลือได้จากประกันสุขภาพ (Health insurance) สำหรับจ่ายค่าวิกผม นอกจากนี้ยังสามารถประดิษฐ์อุปกรณ์คลุมศีรษะจากเสื้อผ้าแบบง่ายๆ เพื่อเอามาทำผ้าโพกหัวได้ด้วย โดยขอแนะนำให้เลือกผ้าที่มีความนิ่มและหยืดหยุ่นสูง เช่น ผ้าซาติน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความระคายเคือง
วิกผมสำหรับผู้เข้ารับการเคมีบำบัด
การใส่วิกผมระหว่างการรักษามะเร็ง (Cancer treatment) เป็นหนึ่งในวิธียอดนิยมที่ผู้เข้ารับการเคมีบำบัดเลือกใช้ เพื่ออำพรางศีรษะล้านจากการทำเคมีบำบัด ซึ่งเป็นผลข้างเคียงอย่างหนึ่งของการทำเคมีบำบัดนั่นเอง
วิกที่เหมาะกับผู้ป่วยนอกจากจะช่วยรักษาภาพลักษ์ทางกาย ไม่ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกแปลกแยกไปจากคนรอบข้างแล้ว ก็ยังทำให้มีสุขภาพจิตดีขึ้นอีกด้วย แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถซื้อวิกมาใส่ได้ เนื่องจากวิกผมที่มีคุณภาพมักมีราคาสูง แต่อย่ากังวล เพราะผู้ป่วยสามารถขอรับบริจาควิกผมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติ (National cancer institute)
สำหรับผู้ที่ต้องการบริจาคเส้นผม หรือเงินสำหรับทำวิกผมก็สามารถติดต่อไปที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติได้เช่นกัน หรือโทร 02-2026800 ต่อ 1509
ข้อควรรู้เกี่ยวกับการบริจาคเส้นผม
- ไม่ว่าจะผมตรง ผมหยิก ผมดัด หรือผมทำสี หากเป็นเส้นผมที่มีสภาพดีความยาวตั้งแต่ 10 นิ้วขึ้นไป สามารถบริจาคได้หมด
- เส้นผมที่ไม่ควรบริจาค เช่น เส้นผมที่มีความยาวไม่ถึง 10 นิ้ว ผมแห้งเสียแตกปลายมากๆ ผมฟอก ผมมีเหา ผมทำเดทร็อค หรือผมต่อ เป็นต้น
- ก่อนบริจาคเส้นผม ควรทำความสะอาดผมให้เรียบร้อย เป่าให้แห้งสนิท และต้องทิ้งไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง เพื่อป้องกันความชื้น
- หากสระผม เป่าผม และตัดผมเพื่อบริจาคเลยทันที เส้นผมจะยังคงมีความชื้นอยู่ เมื่อนำมาเก็บไว้ก็จะทำให้เกิดเชื้อราจนไม่สามารถนำมาทำวิกให้กับผู้ป่วยได้
- การทำวิกผมหนึ่งชิ้นมีค่าใช้จ่ายประมาณ 2,500 บาทขึ้นไป นอกจากการบริจาคเส้นผมแล้ว ก็สามารถบริจาคค่าทำวิกผมได้เช่นกัน
หมวกจำเป็นสำหรับผู้เข้ารับการเคมีบำบัดอย่างไร
ในวันที่การใส่วิกผมนั้นร้อนเกินไป หรือไม่มีเวลานานในการจัดแต่งทรงผม การหันมาสวมหมวกก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี เพราะหมวกนั้นสามารถสร้างป้องกันแสงแดดได้ หรือป้องกันความเย็นในขณะที่นอนหลับ หรือป้องกันการกระแทกสิ่งของต่างๆ เป็นต้น
สาเหตุที่หมวกจำเป็นสำหรับผู้ที่ทำเคมีบำบัด เพราะผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการแพ้แสงแดดจากการทำเคมีบำบัดได้ (Photosensitive from chemotherapy) โดยทรงที่แนะนำคือ หมวกปีกกว้าง เพราะสามารถป้องกันแสงแดดได้ดี
หมวกไหมพรมสำหรับผู้ที่ทำเคมีบำบัด
ถึงแม้ว่าหมวกไหมพรมจะปกป้องแสงแดดได้ไม่ดีเท่าหมวกปีกกว้าง แต่ก็มีข้อดีคือไม่หลุดง่าย ทำให้สามารถใส่ได้แม้จะอยู่ในสถานที่ที่มีลมแรงก็ตาม นอกจากนี้หมวกไหมพรมที่นิ่มและมีขนาดพอดีกับศีรษะก็ยังช่วยปกป้องผู้ที่ทำเคมีบำบัดจากความหนาวเย็น และทำให้นอนหลับสบายได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
หมวกไหมพรมยังมีข้อดี คือ ราคาไม่แพง และสามารถประดิษฐ์ได้เองที่บ้าน โดยการไปซื้อไหมพรมมาถักในรูปแบบต่างๆ ตามความชื่นชอบ แต่ถ้าคุณไม่อยากถักไหมพรมก็สามารถหันไปใช้ผ้าพันคอแทนได้ โดยใช้ผ้าที่มีอยู่แล้วมาตัดเป็นผ้าพันคอ หรือผ้าโพกหัวก็ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ไม่แพ้กัน
บทความแนะนำ
- ทำไม ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ จึงไม่สามารถนอนหลับได้ตามปกติ
- ผู้ป่วยที่เป็นโรคหอบหืด สามารถออกกำลังกายได้ไหม
- ความแตกต่างระหว่างหัวใจวาย และเส้นเลือดในสมองอุดตัน
- หลังภาวะแท้งบุตร ทำไมฉันยังมีอาการเหมือนคนท้อง?
- ความสัมพันธ์ระหว่างสีตาและสุขภาพ
ที่มาของข้อมูล
ปิด
ปิด
- cancer.org, Life After Cancer (https://www.cancer.org/treatment/survivorship-during-and-after-treatment/be-healthy-after-treatment/life-after-cancer.html)
- mayoclinic, Cancer survivors: Care for your body after treatment (https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/cancer/in-depth/cancer-survivor/art-20044015)