HIFU กับ Botox เลือกทำอะไรดี ถึงจะคุ้มกว่ากัน แบบไหนปลอดภัย

ปัญหาผิวหน้าไม่กระชับ มีริ้วรอยเหี่ยวย่น หรือใบหน้าไม่ได้รูป ล้วนเป็นอุปสรรคสำหรับทุกคนที่รักสวยรักงามหรือค่อนข้างพิถีพิถันดูแลตัวเอง แต่ในความเป็นจริงคือคนเราไม่สามารถเลี่ยงปัญหาเหล่านี้ได้ เพราะมีปัจจัยมากมายที่รอทำร้ายผิวพรรณของเรา รวมทั้ง “เวลา” ที่ดำเนินไปพร้อมกับพรากความสดใสของเราด้วยเช่นกัน

มีคำถามเกี่ยวกับ HIFU? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

โชคดีที่ปัจจุบันมีอุปกรณ์เครื่องมือมากมายสามารถช่วยย้อนวัย ทำให้ผิวพรรณกลับมาเต่งตึงเหมือนสาวแรกรุ่นได้อีกครั้ง อย่างเช่น HIFU กับ Botox ต่างก็ช่วยกระชับผิวได้เช่นกัน แต่ถ้าหากต้องเลือกว่าทำอะไรดีนั้น เราจะมาเปรียบเทียบกันให้ชัดเจนยิ่งขึ้นดังนี้

HIFU คืออะไร

HIFU คือการใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ส่งเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อในชั้นผิวหนังระดับลึก เพื่อทำให้ผิวหนังชั้นในเกิดแผลที่เป็นจุดเล็กๆ แต่สามารถควบคุมความถี่และระดับความลึกของชั้นผิวหนังได้ การสร้างแผลนั้นมีจุดประสงค์ให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่เข้ามาทำการสมานแผล ซึ่งผลที่ได้คือใบหน้ามีความกระชับมากขึ้น ช่วยลดปัญหาความหย่อนคล้อย ร่องแก้ม และริ้วรอยต่างๆ ให้ดูกระชับ ผิวดูสดใสเปล่งปลั่งยิ่งขึ้น

Botox คืออะไร

Botox คือการฉีดสาร “โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ” เข้าสู่ร่างกาย โดยมีหลักการทำงานคือสารดังกล่าวจะสามารถช่วยคลายกล้ามเนื้อบริเวณที่หดตัวอยู่ให้เกิดการคลายตัว ยกตัวอย่างเช่นกล้ามเนื้อกรามที่เกิดจากการพูดหรือเคี้ยวอาหาร เมื่อเวลาผ่านไปจะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นถูกใช้จนแข็งแรงและใหญ่ขึ้น แต่การฉีด Botox จะเข้าไปทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นคลายตัว จึงช่วยให้หน้าเราแลดูเด็กลง รวมถึงสามารถลดริ้วรอยเหี่ยวย่นที่หน้าผาก หางตา และบริเวณอื่นๆ ส่งผลให้ผิวหนังมีความเรียบตึงขึ้น

จุดเด่นของ HIFU

HIFU เป็นการใช้เครื่องมือยิงผ่านผิวหนังชั้นนอกของเรา คลื่นอัลตร้าซาวด์จะถูกส่งผ่านไปยังชั้นผิวหนังข้างใน เพื่อให้เกิดแผลจากภายในโดยไม่มีร่องรอยใดๆ ให้เห็นจากภายนอก ไม่เป็นแผล ไม่มีเลือดออก ไม่ต้องใช้เข็ม และไม่มีรอยเย็บแต่อย่างใด แต่อาจจะมีเพียงรอยแดงที่สามารถหายได้เองภายในไม่กี่ชั่วโมง

มีคำถามเกี่ยวกับ HIFU? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

หลังทำ HIFU จะสังเกตเห็นผลที่เปลี่ยนแปลงไปทันทีราว 10 – 30% จากนั้นร่างกายจะค่อยๆ สร้างคอลลาเจนมารักษาแผลภายใน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 – 2 เดือน นั่นหมายถึงจะเห็นผลเต็มที่ในช่วงหลังจาก 1 – 2 เดือน และอยู่ได้นานราวๆ 1 ปีเลยทีเดียว ยกเว้นผู้ที่มีปัญหาผิวรุนแรงมากอาจจะต้องทำการยิงซ้ำ

จุดเด่นของ Botox

Botox สามารถแก้ไขปัญหาผิวได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการลดขนาดกรามเพื่อทำให้หน้าเรียว ลดริ้วรอยตีนกา เส้นที่หน้าผาก เส้นรอยยิ้ม ร่องแก้ม หรือริ้วรอยตรงหว่างคิ้ว สามารถฉีดเพื่อคลายกล้ามเนื้อให้ริ้วรอยหาย ผิวจึงดูอ่อนวัยกว่าเดิมและปรับรูปหน้าให้ดูเรียวแบบ V-Shape ได้

ถึง Botox จะเป็นสารที่ฉีดเข้าไปในร่างกาย แต่ข้อดีของสารชนิดนี้คือสามารถสลายได้เองภายในระยะเวลา 6 – 12 เดือน จึงไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

ข้อจำกัดของ HIFU

HIFU เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยไม่มากนัก อย่างเช่นกลุ่มคนที่มีอายุ 25 – 35 ปี เพิ่งเริ่มจะมีปัญหาริ้วรอยหรือผิวหนังหย่อนคล้อย จะเหมาะสำหรับการทำ HIFU มากกว่าทำ Botox

ข้อจำกัดของ Botox

การฉีด Botox มีหลักการทำงานคือ ทำให้เซลล์ประสาทไม่สามารถหลั่งสารสื่อประสาทได้ หรือเกิดอัมพาตของกล้ามเนื้อชั่วขณะนั่นเอง ถึงแม้ว่าสารเหล่านี้จะสามารถสลายหายไปได้เอง แต่ถ้าไม่ควบคุมปริมาณการใช้สารให้ดี อาจก่อให้เกิดปัญหากับบริเวณที่ฉีดได้ อย่างเช่นหนังตาตกหรือมุมปากตก เป็นต้น

ฉะนั้น คำถามที่ว่าควรจะเลือกทำอะไรดีนั้นก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ได้แก่ ความสามารถในการรับความเจ็บ การหวังผล ความชอบ รวมทั้งงบประมาณอีกด้วย นอกจากจะพิจารณาถึงประโยชน์และราคาของการเสริมความงามทั้ง 2 ประเภทแล้ว อีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญอย่างยิ่งคือต้องเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือหรือวัสดุอุปกรณ์ โดยเฉพาะประสบการณ์ของแพทย์ เพื่อความมั่นใจในผลลัพธ์และความปลอดภัยของตัวเราเอง

มีคำถามเกี่ยวกับ HIFU? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

หากคุณติดตั้ง LINE บนคอมพิวเตอร์ของคุณแล้ว ระบบจะเปิดบัญชีทางการ LINE ของ Jib AI ผู้ช่วยสุขภาพ โดยอัตโนมัติ

หากคุณยังไม่ได้ติดตั้ง LINE บนเดสก์ท็อป โปรดสแกน QR โค้ดด้วย LINE บนโทรศัพท์มือถือของคุณเพื่อเริ่มแชทกับ Jib AI ผู้ช่วยสุขภาพ