โรคภูมิแพ้ในสัตว์เลี้ยง เมื่อเจ้าเหมียวหรือเจ้าตูบเกิดอาการแพ้ จะรักษาอย่างไร?


HDmall สรุปให้

ขยาย

ปิด

  • โรคภูมิแพ้ในสัตว์เลี้ยงเกิดจากปัจจัยสำคัญอยู่ 2 ส่วน คือ ปัจจัยด้านอาหาร และปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม
  • อาการเริ่มต้นของโรคภูมิแพ้ในสุนัขสามารถสังเกตได้จากอาการกัด แทะ หรือเลียอุ้งเท้าของตนเอง ส่วนแมวมักจะมีพฤติกรรมชอบเลียพุงจนขนบริเวณท้องอาจหายไปจนหมด ร่วมกับมีอาการผิวรอบดวงตาแดง
  • การวินิจฉัยหาสารก่อภูมิแพ้จากสิ่งแวดล้อมสามารถทำได้ 2 วิธี ได้แก่ วิธีสะกิดผิวและวิธีตรวจเลือด จากนั้นสัตวแพทย์จะนำรายการสารก่อภูมิแพ้ที่ตรวจเจอไปวางแผนการรักษาต่อไป
  • การรักษาโรคภูมิแพ้กับสัตวแพทย์จะมีทั้งการกินยา การรับวัคซีนที่จะออกแบบให้กับสัตว์เลี้ยงแต่ละตัวโดยเฉพาะ แต่ขณะเดียวกัน เจ้าของก็ต้องมีการปรับวิธีเลี้ยงไม่ให้สัตว์เลี้ยงรับสารก่อภูมิแพ้เข้าร่างกายเพิ่มอีกด้วย
  • โรคภูมิแพ้ในสัตว์เลี้ยงเป็นโรคที่รักษาให้หายขาดไม่ได้ แต่สามารถบรรเทาอาการของโรคให้เบาลงได้
  • บทความนี้ได้รับการสปอนเซอร์จาก คลินิกฮายคันสัตวแพทย์ แพทย์ผู้ให้ข้อมูลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโฆษณาหรือการซื้อขายแพ็กเกจใดๆ #HDinsight

เลือกหัวข้อที่สนใจได้ที่นี่


คุณรู้หรือไม่ว่า “โรคภูมิแพ้” นอกจากเป็นโรคน่ารำคาญใจที่เกิดกับมนุษย์แล้ว มันยังเกิดได้กับสัตว์เลี้ยงของเราด้วย โดยเฉพาะ “สุนัข” และ “แมว”

โรคภูมิแพ้ในสัตว์เลี้ยงเป็นข้อมูลใหม่ที่เหล่าทาสหมาและแมวหลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน ทำให้เมื่อสัตว์เลี้ยงเป็นโรคภูมิแพ้ก็ไม่สามารถรับมือได้ถูกหรือได้รับการฟื้นฟูรักษาอาการช้าเกินไป จนส่งผลให้ระบบในร่างกายอื่นๆ ทรุดโทรมลงด้วย

สัตวแพทย์หญิงศุภนุช เดชาวัฒนากุล จากฮายคันคลินิกสัตวแพทย์ ร่วมกับ HDmall.co.th จะมาไขข้อเท็จจริงและข้อมูลที่ควรรู้เกี่ยวกับต้นเหตุและแนวทางการรักษาโรคภูมิแพ้ในสัตว์เลี้ยง เพื่อให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงทุกท่านได้สามารถสังเกตเห็นสัญญาณของโรคภูมิแพ้ในสัตว์เลี้ยงได้ด้วยตนเอง และสามารถนำข้อมูลไปใช้ในการรักษาสุขภาพของเขาได้อย่างเหมาะสมทันเวลา

โรคภูมิแพ้ในสัตว์เลี้ยงเกิดจากอะไร?

โรคภูมิแพ้ในสัตว์เลี้ยงมีอยู่ 2 ส่วน ได้แก่

  • ปัจจัยจากอาหาร โดยประเภทอาหารที่ก่อโรคภูมิแพ้ในสัตว์เลี้ยงได้เป็นอันดับหนึ่ง ก็คือ โปรตีนจากไก่
  • ปัจจัยจากสิ่งแวดล้อม เช่น เกสรดอกไม้ ฝุ่นละออง ไรฝุ่น

โรคภูมิแพ้จะพบได้มากที่สุดในสุนัขและแมว โดยสัตว์เลี้ยงอาจเป็นโรคภูมิแพ้จากอาหารหรือจากสิ่งแวดล้อมอย่างใดอย่างหนึ่ง หรืออาจเป็นโรคภูมิแพ้จากปัจจัยทั้ง 2 อย่างเลยก็ได้

สัตวแพทย์หญิง ศุภนุช เดชาวัฒนากุล หรือหมอจ๋า จากคลินิกฮายคันสัตวแพทย์ ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สายพันธุ์ของสุนัขที่มักเผชิญกับโรคภูมิแพ้สามารถจำแนกได้ 5 สายพันธุ์ได้แก่

  • เฟรนช์ บูลด็อก (French Bulldog)
  • บีเกิล (Beagle)
  • ชิสุ (Shih Tzu)
  • พูเดิล (Poodle)
  • โกลเดน รีทรีฟเวอร์ (Golden Retriever)

ในส่วนของสายพันธุ์แมวที่เป็นโรคภูมิแพ้ได้บ่อยๆ จะไม่ได้เฉพาะเจาะจงเท่ากับสุนัข จึงสามารถพบได้กับแมวแทบทุกสายพันธุ์

โรคภูมิแพ้ในสัตว์สามารถติดต่อกับมนุษย์ได้หรือไม่?

โรคภูมิแพ้ในสัตว์เลี้ยงเป็นโรคที่ไม่สามารถติดต่อไปถึงสัตว์ตัวอื่นและไม่สามารถติดต่อเข้าร่างกายมนุษย์ได้

หากสัตว์เลี้ยงตัวใดเป็นโรคภูมิแพ้ อาการของโรคก็จะเกิดขึ้นกับสัตว์เลี้ยงตัวนั้นเพียงตัวเดียว ไม่มีการแพร่กระจายไปสู่สิ่งมีชีวิตตัวอื่น

วิธีสังเกตอาการเริ่มต้นของโรคภูมิแพ้ในสัตว์เลี้ยง

อาการเริ่มต้นของโรคภูมิแพ้ในสุนัขและแมวจะแตกต่างกัน โดยโรคภูมิแพ้ในสุนัขสามารถสังเกตได้จากการกัด แทะ หรือเลียอุ้งเท้าบ่อยๆ สุนัขที่เป็นโรคภูมิแพ้อาจมีพฤติกรรมชอบเกาหูและใบหน้า เนื่องจากอาการของจะทำให้คันบริเวณใบหน้าและใบหู ส่งผลให้สัตว์เลี้ยงรู้สึกระคายเคืองอยู่ตลอดเวลา

สำหรับอาการเริ่มต้นของโรคภูมิแพ้ในแมวจะสังเกตได้ผ่านพฤติกรรมหลายอย่างที่ผิดปกติไปจากเดิม เช่น

  1. พฤติกรรม “เลียพุง” หรือการใช้ลิ้นเลียขนบริเวณหน้าท้องซ้ำๆ บ่อยๆ เจ้าของแมวอาจมองว่า พฤติกรรมนี้เป็นพฤติกรรมเลียขนเพื่อแต่งตัวของแมวตามปกติ แต่ความจริงแล้ว การที่แมวเลียขนที่ท้องอยู่บ่อยๆ นั่นก็เพราะเขาคันผิวหนังจากโรคภูมิแพ้ต่างหาก แมวบางตัวอาจเลียขนที่ท้องบ่อยมากจนขนบริเวณดังกล่าวหลุดหายไปจนหมด
  2. พฤติกรรมชอบเกาที่ใบหน้า ใบหู และต้นคอ ซึ่งเป็นบริเวณที่สามารถเกิดอาการคันขึ้นจากโรคภูมิแพ้ได้ จนขนตามตำแหน่งเหล่านี้อาจร่วง หรือไม่มีเหลืออยู่เลยก็เป็นได้
  3. มีอาการผิวแดงขึ้นกว่าปกติ โดยเฉพาะผิวบริเวณรอบดวงตา

โรคภูมิแพ้ในสัตว์เลี้ยงรุนแรงแค่ไหน?

อาการของโรคภูมิแพ้ที่รุนแรงขึ้นในทั้งสุนัขและแมวสามารถสังเกตได้ชัดเจน โดยเริ่มจากอาการทางผิวหนัง ซึ่งสัตว์เลี้ยงอาจมีอาการผิวหนังอักเสบ มีน้ำเหลืองหรือน้ำหนองไหลออกมาจากผิว มีอาการผิวหนังติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อยีสต์

หากสัตว์เลี้ยงที่เป็นโรคภูมิแพ้จากอาหารแล้วไม่รีบพาไปรักษา อาการแพ้ที่เกิดขึ้นอาจส่งผลให้มีปัญหาระบบทางเดินอาหารตามมา เช่น ท้องเสียแบบเป็นๆ หายๆ เรื้อรัง ทำให้กิจวัตรการกินอาหาร รวมถึงการย่อยอาหาร และขับถ่ายของสัตว์เลี้ยงแย่ลงไปด้วย

ในส่วนของโรคภูมิแพ้จากสิ่งแวดล้อม อาการจากปัจจัยก่อโรคภูมิแพ้ประเภทนี้จะเกิดขึ้นได้บ่อยในช่วงฤดูฝน ซึ่งเป็นฤดูกาลที่ความชื้นและสารก่อภูมิแพ้ในอากาศเพิ่มสูงขึ้น

การวินิจฉัยเพื่อตรวจหาสารก่อโรคภูมิแพ้ในสัตว์เลี้ยง

การวินิจฉัย แพทย์จะเริ่มด้วยการซักประวัติของสัตว์เลี้ยงกับเจ้าของ ตรวจร่างกาย การทดสอบอาหาร และหากทดสอบอาหารแล้วพบว่ามีอาการแพ้จากสิ่งแวดล้อม จึงอาจพิจารณาตรวจหาชนิดสารก่อภูมิแพ้ในขั้นตอนต่อไป โดยทำได้ 2 วิธีคือ

  • การตรวจหาสารก่อภูมิแพ้ผ่านการสะกิดผิว (Intra-dermal testing)
  • การตรวจหาสารก่อภูมิแพ้ผ่านการเจาะเลือด (Serum IgE)

เมื่อตรวจพบสารก่อภูมิแพ้ที่เป็นต้นตอทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ในสัตว์เลี้ยงแล้ว สัตวแพทย์จะนำผลตรวจมาวิเคราะห์เพื่อหาแนวทางการรักษาโรคภูมิแพ้ในสัตว์เลี้ยงต่อไป

วิธีรักษาโรคภูมิแพ้ในสัตว์เลี้ยง

โรคภูมิแพ้ในสัตว์เลี้ยงเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถลดความรุนแรงของอาการได้ผ่านการหลีกเลี่ยงไม่ให้สัตว์เลี้ยงสัมผัสหรือรับสารก่อภูมิแพ้เข้าร่างกายอีก อย่างไรก็ตาม การรักษาโรคภูมิแพ้ในสัตว์เลี้ยงตามอาการ สามารถทำได้ 2 วิธีหลักๆ ดังนี้

1. การรักษาด้วยยา

สัตวแพทย์หญิงศุภนุช กล่าวว่า รูปแบบยารักษาโรคภูมิแพ้ในสัตว์เลี้ยง ณ ปัจจุบัน มีความหลากหลายและปลอดภัยต่อสุขภาพสัตว์เลี้ยงมากกว่าในอดีต ที่มักพึ่งยาเสตียรอยด์ในการลดอาการคันจากโรคภูมิแพ้ในสัตว์เลี้ยงเพียงอย่างเดียว

โดยยารักษาโรคภูมิแพ้ในปัจจุบันที่สัตวแพทย์จะสั่งจ่ายให้มีอยู่หลายแบบ เช่น ยากิน ยาหยอดบำรุงผิว ยาวิตามินเสริม แชมพูเสริมความแข็งแรงให้กับขนและผิวหนังของสัตว์เลี้ยง ซึ่งทั้งนี้ปริมาณยาและรูปแบบยาก็จะแตกต่างกันไปตามความรุนแรงและลักษณะอาการภูมิแพ้ที่เกิดขึ้นในสัตว์เลี้ยงแต่ละตัว

2. การรักษาด้วยวัคซีนภูมิแพ้

วัคซีนภูมิแพ้เป็นวัคซีนที่ใช้เพื่อลดระดับความรุนแรงของอาการโรคภูมิแพ้ในสัตว์เลี้ยง โดยสัตวแพทย์จะออกแบบวัคซีนภูมิแพ้ให้เหมาะกับสัตว์เลี้ยงแต่ละตัว ผ่านการเช็กดูผลตรวจวินิจฉัยหาสารก่อภูมิแพ้ก่อน แล้วจึงจะเข้าสู่กระบวนการผลิตวัคซีนให้กับสัตว์เลี้ยงตัวนั้นต่อไป

จำนวนเข็มและความถี่ในการฉีดวัคซีนรักษาโรคภูมิแพ้อาจกินเวลาไปตลอดอายุขัยของสัตว์เลี้ยงตัวนั้นๆ โดยหลังจากตรวจเจอสารก่อภูมิแพ้และออกแบบสูตรวัคซีนแล้ว ในช่วงแรกสัตวแพทย์อาจนัดให้เจ้าของพาสัตว์เลี้ยงมาฉีดวัคซีนค่อนข้างถี่ โดยอาจอยู่ที่ทุกๆ 3 วัน ทุกๆ 1 สัปดาห์ หรือ 2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการ

เมื่อฉีดวัคซีนครบ 12 เข็มแล้ว สัตวแพทย์จะค่อยๆ ลดความถี่ในการฉีดวัคซีนลงเป็น 4 สัปดาห์ต่อ 1 เข็มแทน แต่หากสัตว์เลี้ยงยังมีอาการภูมิแพ้รุนแรง อาจนัดเร็วขึ้นเป็นประมาณ 3 สัปดาห์ต่อ 1 เข็ม ขึ้นอยู่กับการประเมินจากสัตวแพทย์อีกครั้ง

วิธีป้องกันโรคภูมิแพ้ในสัตว์เลี้ยง

การป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงเกิดโรคภูมิแพ้นั้นทำได้ยาก เนื่องจากสัตว์เลี้ยงหลายสายพันธุ์มีพันธุกรรมพื้นฐานทางร่างกายที่เสี่ยงเป็นโรคภูมิแพ้ได้อยู่แล้ว ถึงแม้เจ้าของจะมีการระมัดระวังหรือดูแลความสะอาดภายในบ้านเป็นอย่างดี ความเสี่ยงของโรคนี้ก็ยังคงติดตัวสัตว์เลี้ยงอยู่จากโครงสร้างพื้นฐานด้านสุขภาพของเขา

ถึงแม้จะไม่สามารถป้องกันไม่ให้เกิดโรคนี้ขนได้ แต่เราสามารถป้องกันความรุนแรงของอาการโรคภูมิแพ้ในสัตว์เลี้ยงได้ ผ่านการสังเกตพฤติกรรมและสุขภาพของสัตว์เลี้ยง

เมื่อใดก็ตามที่เขามีสัญญาณคล้ายกับโรคภูมิแพ้เกิดขึ้น ก็ควรรีบพามาตรวจวินิจฉัยโรคกับสัตวแพทย์โดยทันที

วิธีเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยง เพื่อลดความรุนแรงของโรคภูมิแพ้

นอกจากการรักษากับสัตวแพทย์ ผู้เลี้ยงก็ต้องปรับวิธีการเลี้ยงดูให้สอดคล้องกับสารก่อภูมิแพ้ที่ตรวจเจอ เช่น

หากสัตว์เลี้ยงมีอาการแพ้อาหารบางชนิด ควรงดให้อาหารที่มีส่วนผสมของสารก่อภูมิแพ้นั้น และระมัดระวังการให้ขนม ผลไม้ หรืออาหารสำหรับคนที่มีส่วนผสมของสารก่อภูมิแพ้ชนิดนั้นๆ ด้วย

หากสัตว์เลี้ยงเป็นโรคภูมิแพ้จากสิ่งแวดล้อม เช่น จากไรฝุ่น จากฝุ่นละออง เจ้าของควรทำความสะอาดบ้านอย่างสม่ำเสมอ หรือนำเอาเฟอร์นิเจอร์ ผ้าม่าน พรม สิ่งทอที่เป็นผ้าภายในบ้านที่เป็นแหล่งชุกชุมของฝุ่นออกไปจากบริเวณที่สัตว์เลี้ยงอยู่

นอกจากนี้ สัตวแพทย์หญิงศุภนุช ได้กล่าวถึงอีกวิธีในการลดความรุนแรงของโรคภูมิแพ้ในสัตว์เลี้ยง นั่นก็คือ การอาบน้ำ

เพราะการอาบน้ำถือเป็นการกำจัดสารก่อภูมิแพ้ออกไปจากผิวหนังของสัตว์เลี้ยงและยังช่วยลดอาการคันระคายเคืองผิวไม่ว่าจะเป็นสุนัขหรือแมวได้เป็นอย่างดี โดยสามารถอาบได้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง

ทาสแมวหลายคนอาจเข้าใจผิดว่า การอาบน้ำแมวส่งผลเสียต่อสัตว์เลี้ยงซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด โดยเฉพาะในแมวที่เป็นโรคภูมิแพ้นั้นสามารถอาบน้ำได้สัปดาห์ละ 1 ครั้งอย่างสม่ำเสมอ แต่ต้องระมัดระวังสูตรแชมพูซึ่งควรเป็นสูตรบำรุงผิวหรือสูตรที่ทำจากโอ๊ตมีล โดยไม่จำเป็นต้องเป็นแชมพูสูตรฆ่าเชื้อราเสมอไป

เนื่องจากผู้เลี้ยงส่วนใหญ่ นิยมให้ใช้แชมพูสูตรฆ่าเชื้อราเป็นหลักไม่ว่าสัตว์เลี้ยงจะติดเชื้อราหรือไม่ก็ตาม เพราะคิดว่าเป็นแนวทางการป้องกันการติดเชื้อที่ผิวหนังได้ แต่ความจริงหากใช้แชมพูสูตรฆ่าเชื้อราอย่างต่อเนื่อง อาจส่งผลให้ผิวหนังของสัตว์เลี้ยงแห้งจนเกินไปได้

ตรวจและรักษาโรคภูมิแพ้ในสัตว์เลี้ยง ที่ คลินิกฮายคันสัตวแพทย์

คลินิกฮายคันสัตวแพทย์ เป็นคลินิกสัตวแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคภูมิแพ้ในสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ มีความรู้และมีประสบการณ์เฉพาะทางด้านการรักษาโรคภูมิแพ้ที่เกิดขึ้นกับสัตว์ โดยเปิดให้บริการทั้งการตรวจวินิจฉัยและดำเนินการรักษา

สัตวแพทย์ที่คลินิกฮายคันสัตวแพทย์มีประสบการณ์ในการดูแลและรับมือกับอาการของโรคภูมิแพ้ในสัตว์เลี้ยงทุกระดับ สามารถวินิจฉัยเพื่อออกแบบแนวทางการรักษาให้สัตว์เลี้ยงได้กลับไปใช้ชีวิตอยู่คู่กับเจ้าของได้อย่างมีความสุข

คลินิกฮายคันสัตวแพทย์ยังมีความเชี่ยวชาญในการรับมือกับสัตว์เลี้ยงที่อาจมีอาการตื่นกลัว หรือดุร้ายขึ้นในระหว่างที่เดินทางออกมานอกอาณาเขตบริเวณบ้าน เพื่อให้กระบวนการรักษาเมื่อเดินทางมาถึงคลินิกบรรลุเป้าหมายได้ตามที่แพทย์และเจ้าของต้องการ

หากคุณกำลังมองหาคลินิกสัตวแพทย์ที่มีชำนาญโดยเฉพาะด้านการรักษาโรคภูมิแพ้ในสัตว์เลี้ยง หรือไม่แน่ใจว่า คู่หูในบ้านของตนเองกำลังเผชิญกับโรคภูมิแพ้อยู่หรือไม่ HDmall.co.th ขอเชิญชวนให้คุณลองเขามาตรวจสุขภาพอย่างละเอียดที่คลินิกฮายคันสัตวแพทย์

เพราะการรักษาโรคภูมิแพ้ในสัตว์เลี้ยงที่ช้าเกินไปอาจทำให้สุขภาพด้านอื่นๆ ของสัตว์เลี้ยงในบ้านคุณทรุดโทรมลงไปด้วย ทำให้เขาไม่ร่าเริงแจ่มใสเหมือนเก่า จนสีสันความมีชีวิตชีวาภายในบ้านของคุณขาดหายไปได้

รับบริการตรวจสุขภาพสัตว์เลี้ยง ตรวจหาสารก่อภูมิแพ้ในสัตว์เลี้ยง หรือรักษาโรคภูมิแพ้ในสัตว์เลี้ยงกับสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่คลินิกฮายคันสัตวแพทย์ หรือซื้อแพ็กเกจเพื่อสุขภาพสำหรับกับสัตว์เลี้ยงได้ผ่านทางเว็บไซต์ HDmall.co.th


บทความที่ HDmall.co.th แนะนำ

@‌hdcoth line chat