HDcare สรุปให้
ปิด
ปิด
- โรคนิ่วในถุงน้ำดี เกิดจากถุงน้ำดีมีการทำงานที่ผิดปกติจนทำให้น้ำดีตกตะกอนเป็นก้อนสีน้ำตาลอมเหลืองหรือที่เรียกว่า “ก้อนนิ่ว” และอุดตันอยู่ภายในถุงน้ำดี
- การผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี เป็นการผ่าตัดนำก้อนนิ่วทั้งหมดออกรวมถึงตัดถุงน้ำดีออกจากร่างกายผู้ป่วยด้วย เพราะมีโอกาสที่ผู้ป่วยจะเกิดก้อนนิ่วในถุงน้ำดีซ้ำได้
- การผ่าตัดแบบส่องกล้องเป็นที่นิยม เนื่องจากแผลผ่าตัดเล็กกว่า เจ็บแผลน้อยกว่า ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน นอนพักที่โรงพยาบาลประมาณ 1-2 วันก็สามารถกลับบ้านได้
- ผู้ที่เคยผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีจะต้องระมัดระวังในการกินอาหารประเภทที่มีไขมันสูง เพราะผู้ป่วยไม่มีถุงน้ำดีในการช่วยย่อยอาหารประเภทไขมัน หากกินมากเกินไปอาจทำให้ท้องอืดได้
- บทความนี้ได้รับการสปอนเซอร์จาก HDcare ศูนย์รวมการผ่าตัดโดยทีมแพทย์ที่มี่ประสบการณ์ จาก HDmall.co.th แพทย์ผู้ให้ข้อมูลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโฆษณา
- ดูรายละเอียด การผ่าตัดรักษานิ่วถุงน้ำดี กับ นพ. ธัญวัจน์ ได้ที่ HDcare
- สอบถามรายละเอียด ปรึกษาเรื่องการผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีที่ไลน์ @HDcare
อย่านิ่งนอนใจกับอาการปวดท้อง เพราะนั่นอาจไม่ใช่แค่เพราะคุณกินอาหารที่ไม่สะอาด เป็นโรคกรดไหลย้อน หรือกระเพาะอาหารมีความผิดปกติ แต่อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า “ถุงน้ำดี” ของคุณกำลังมีปัญหา หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ “โรคนิ่วในถุงน้ำดี”
หากคุณมีอาการของนิ่วในถุงน้ำดี แต่ยังไม่รู้ว่ารักษานิ่วยังไงดี แนะนำให้ทักเข้ามาปรึกษากับ HDcare ที่ไลน์ @HDcare เพื่อประสานนัดหมายทีมแพทย์ให้คำแนะนำแนวทางการรักษาที่เหมาะสมได้
แต่อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะวิธีรักษาโรคนิ่วในถุงน้ำดีในปัจจุบันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่หลายคนคิด และยังมีกระบวนการฟื้นตัวไม่นาน เพียงต้องตรวจพบโรคตั้งแต่ในระยะที่ยังไม่รุนแรง และรักษากับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเท่านั้น
หมอแมค หรือ นายแพทย์ธัญวัจน์ ศาสนเกียรติกุล แพทย์มีประสบการณ์ผ่าตัดมากว่า 10 ปี อ่านประวัติของหมอแมคได้ที่นี่ [อีกมุมของ “หมอแมค” กับการผ่าไทรอยด์ให้แม่และภรรยา]
เลือกหัวข้อที่สนใจได้ที่นี่
- ถุงน้ำดีคืออะไร ทำหน้าที่อะไร?
- โรคนิ่วในถุงน้ำดีเกิดจากอะไร?
- รักษาโรคนิ่วในถุงน้ำดีต้องใช้การผ่าตัดเท่านั้นหรือไม่?
- ทำไมผ่าตัดรักษาโรคนิ่วในถุงน้ำดีต้องตัดถุงน้ำดีออกไปด้วย?
- รักษานิ่วในถุงน้ำดีแบบไม่ผ่าตัดได้หรือไม่?
- การผ่าตัดรักษานิ่วในถุงน้ำดีมีกี่แบบ?
- การผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีแบบเปิด
- การผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีแบบส่องกล้อง
- ใครที่ไม่สามารถผ่าตัดรักษาโรคนิ่วในถุงน้ำดีได้บ้าง?
- การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดรักษาโรคนิ่วในถุงน้ำดี
- การดูแลตนเองหลังผ่าตัดรักษาโรคนิ่วในถุงน้ำดี
- ผลข้างเคียงและอาการแทรกซ้อนที่พบได้หลังการผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี
- การดูแลสุขภาพหลังผ่าตัดรักษานิ่วในถุงน้ำดี
- ผ่าตัดรักษานิ่วในถุงน้ำดีกับ นพ. ธัญวัจน์ ด้วยบริการ HDcare
- บทความที่แนะนำ
ถุงน้ำดีคืออะไร ทำหน้าที่อะไร?
ถุงน้ำดี (Gallbladder) เป็นหนึ่งในอวัยวะของระบบทางเดินอาหาร มีลักษณะเป็นถุงทรงวงรีขนาดประมาณ 4 นิ้ว อยู่ที่ตำแหน่งใต้ตับตรงชายโครงด้านขวา เชื่อมต่อการทำงานกับอวัยวะอื่นๆ โดยท่อถุงน้ำดี
ถุงน้ำดีมีหน้าที่หลักในการเป็นโกดังกักเก็บเอนไซม์ของเหลวซึ่งผลิตจากตับที่มีชื่อว่า “น้ำดี” โดยน้ำดีทำหน้าที่ในการย่อยละลายสารอาหารประเภทไขมันให้เกิดการแตกตัว ก่อนที่ร่างกายจะนำไปใช้เป็นพลังงาน
โรคนิ่วในถุงน้ำดีเกิดจากอะไร?
โรคนิ่วในถุงน้ำดี (Gall Stone) เป็นโรคที่เกิดจากถุงน้ำดีมีการทำงานที่ผิดปกติหรือเกิดการอักเสบ การติดเชื้อภายในจนทำให้น้ำดีตกตะกอนเป็นก้อนสีน้ำตาลอมเหลืองหรือที่เรียกว่า “ก้อนนิ่ว” และอุดตันอยู่ภายในถุงน้ำดี หรืออาจลุกลามไปอุดตันที่ท่อน้ำดีด้วย
ก้อนนิ่วที่เกิดขึ้นภายในถุงน้ำดีอาจมีอยู่ก้อนเดียวหรือหลายก้อนก็ได้ และสามารถมีขนาดเล็กแค่เท่ากับเกล็ดเม็ดทรายหรือขนาดใหญ่เท่ากับลูกกอล์ฟ โดยผู้ที่เป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดีมักจะมีอาการเจ็บป่วยดังต่อไปนี้
- ปวดท้อง หรือจุกเสียดท้อง
- ท้องอืด
- ปวดใต้ลิ้นปี่
- มีลมในท้องเยอะ
- คลื่นไส้อาเจียน
- รู้สึกหนาวสั่นหรือมีไข้
- ปวดร้าวบริเวณไหล่ หรือที่แผ่นหลังส่วนขวา
- ปัสสาวะสีเข้ม
รักษาโรคนิ่วในถุงน้ำดีต้องใช้การผ่าตัดเท่านั้นหรือไม่?
เมื่อพูดถึงการรักษาโรคนิ่วในถุงน้ำดี หลายคนก็มักเข้าใจว่าต้องใช้วิธีการผ่าตัดในการรักษาเท่านั้น แต่หากไม่มีอาการเจ็บป่วย หรือมีนิ่วขนาดเล็กกว่า 1 เซนติเมตร แพทย์ก็สามารถพิจารณาให้ใช้วิธีรักษาเป็นการคุมอาหารร่วมกับติดตามอาการของโรคด้วยการอัลตราซาวด์เป็นระยะๆ ไปก่อนได้
หากผู้ป่วยมีอาการแสดงของโรคอย่างหนักและส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน เช่น ปวดท้องข้างขวาอย่างหนัก ไม่สามารถกินอาหารได้ง่าย มีอาการจุกเสียดท้องอยู่ตลอด มักตื่นขึ้นมากลางดึกเนื่องจากมีอาการปวดท้อง แพทย์ก็มักแนะนำให้ใช้วิธีรักษาด้วยการผ่าตัด
ทำไมถึงควรเลือกปรึกษาหมอและผ่าตัดกับ HDcare:
ปิด
ปิด
- เลือกปรึกษาคุณหมอที่มีประสบการณ์ได้หลายคน หลายครั้ง ทั้งแบบออนไลน์และที่ รพ. จนคุณมั่นใจ
- เช็กความคุ้มครอง พร้อมให้คำแนะนำเรื่องประกันสุขภาพ หรือจะเลือกผ่อน 0% ก็ได้ ให้คุณได้รีบรักษาให้สบายใจ
- เลือกผ่าตัดได้ที่ รพ. หลายแห่งทั่วกรุงเทพ อุ่นใจมีพยาบาลผู้ช่วยจาก HDcare ดูแลคุณในวันผ่าตัดถึงที่ รพ.
- ดูรายการผ่าตัดทั้งหมดจาก HDcare ได้ที่นี่
โดยการผ่าตัดรักษาโรคนิ่วในถุงน้ำดี จะเป็นการผ่าตัดเพื่อให้แพทย์ได้เข้าไปนำก้อนนิ่วทั้งหมดออกมาจากตัวถุงน้ำดี และตัดถุงน้ำดีออกจากร่างกายผู้ป่วยด้วย
ทำไมผ่าตัดรักษาโรคนิ่วในถุงน้ำดีต้องตัดถุงน้ำดีออกไปด้วย?
สำหรับสาเหตุที่แพทย์จำเป็นจะต้องตัดถุงน้ำดีออกไปพร้อมกับก้อนนิ่ว นั่นก็เพราะหากเรายังเก็บถุงน้ำดีเอาไว้ในร่างกายผู้ป่วยที่เคยเป็นนิ่วมาก่อน ก็มีโอกาสที่ผู้ป่วยจะเกิดก้อนนิ่วซ้ำในถุงน้ำดีได้ หรือถุงน้ำดีอาจมีการอักเสบซ้ำในภายหลังจนทำให้ผู้ป่วยปวดท้องเรื้อรัง
ดังนั้นแพทย์จึงมักพิจารณาตัดถุงน้ำดีออกไปพร้อมกันในการผ่าตัดครั้งเดียวมากกว่าเก็บถุงน้ำดีเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยกลับมาเป็นโรคนี้ซ้ำอีก
รักษานิ่วในถุงน้ำดีแบบไม่ผ่าตัดได้หรือไม่?
นายแพทย์ธัญวัจน์กล่าวว่า ผู้ป่วยที่ไม่ยอมผ่าตัดนำนิ่วและถุงน้ำดีออกสามารถมีอาการแทรกซ้อนที่รุนแรงในอนาคตอย่างไม่อาจคาดเดาได้ เช่น ติดเชื้อในถุงน้ำดี มีหนองในถุงน้ำดี การติดเชื้อในถุงน้ำดีลุกลามเข้าสู่กระแสเลือด
อาการเหล่านี้ล้วนแต่ทำให้ผู้ป่วยมีอาการแสดงทรุดตัวลงได้อย่างรุนแรง และอาจต้องใช้วิธีการผ่าตัดฉุกเฉินในการรักษาแทน
นายแพทย์ธัญวัจน์กล่าวเสริมว่า การใช้วิธีการผ่าตัดฉุกเฉินอาจสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยโรคนิ่วในถุงน้ำดีได้ก็จริง แต่เมื่อเทียบกับการผ่าตัดที่มีการวางแผนกับแพทย์ล่วงหน้าก่อน การผ่าตัดแบบฉุกเฉินย่อมมีข้อเสียเปรียบอยู่หลายอย่าง เช่น
- ทำให้ผู้ป่วยเจ็บแผลผ่าตัดรุนแรงกว่า เนื่องจากอาจใช้วิธีผ่าตัดแบบส่องกล้องไม่ได้
- ต้องนอนโรงพยาบาลนานกว่า
- ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน
- ไม่สามารถกลับไปทำงานตามปกติได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว
- ยังต้องรับยารักษาหลังการผ่าตัดหลายอย่าง
ดังนั้นหากแพทย์แนะนำให้ใช้วิธีผ่าตัดเป็นการรักษาโรคนิ่วในถุงน้ำดีแล้ว ผู้ป่วยก็ควรพิจารณาและปฏิบัติตาม เพื่อป้องกันไม่ให้ความผิดปกติของโรคก่ออาการที่รุนแรงจนทำให้มีทางเลือกในการรักษาน้อยลงในภายหลัง
การผ่าตัดรักษานิ่วในถุงน้ำดีมีกี่แบบ?
ปัจจุบันการผ่าตัดเพื่อรักษาโรคนิ่วในถุงน้ำดีนั้นแบ่งออกได้ 2 แบบ ได้แก่
1. การผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีแบบเปิด
การผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีแบบเปิด เป็นการผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีแบบดั้งเดิมที่ยังคงใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยแพทย์จะกรีดเปิดแผลที่ท้องส่วนบนของผู้ป่วย แล้วนำก้อนนิ่วกับถุงน้ำดีออกมา
การผ่าตัดแบบเปิดมีจุดเด่นในการรักษาโรคนิ่วในถุงน้ำดีได้ทุกรูปแบบ และทุกระดับอาการ รวมถึงเหมาะกับผู้ป่วยที่ต้องผ่าตัดด่วนแบบฉุกเฉินด้วย
การผ่าตัดแบบเปิดก็มีจุดด้อย คือ ขนาดแผลผ่าตัดค่อนข้างใหญ่ ทำให้ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน ผู้ป่วยอาจต้องนอนโรงพยาบาลถึงหลักเดือนจึงจะกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้
2. การผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีแบบส่องกล้อง
การผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีแบบส่องกล้อง เป็นการผ่าตัดรูปแบบใหม่ที่แพทย์จะกรีดเปิดแผลขนาดประมาณ 0.5-3 เซนติเมตร ประมาณ 3-4 ตำแหน่ง
แพทย์จะใช้กล้องสำหรับการผ่าตัดส่องเข้าไปด้านในบริเวณถุงน้ำดีเพื่อให้ปรากฎภาพภายในถุงน้ำดีบนจอมอนิเตอร์สำหรับผ่าตัด แล้วสอดเครื่องมือผ่าตัดเข้าไปนำก้อนนิ่วออกมาพร้อมตัดถุงน้ำดีออกด้วยในเวลาเดียวกัน
การผ่าตัดแบบส่องกล้องจัดเป็นการผ่าตัดที่มีความปลอดภัยกว่ามาก นอกจากนี้ยังแผลผ่าตัดเล็กกว่า ทำให้เจ็บแผลน้อยกว่า ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน นอนพักที่โรงพยาบาลประมาณ 1-2 วันก็สามารถกลับบ้านได้ และยังใช้เวลาพักฟื้นต่อที่บ้านแค่ 3-4 วัน ผู้ป่วยก็สามารถเริ่มกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้แล้ว
ดังนั้นส่วนมากในปัจจุบัน หากผู้ป่วยไม่ได้มีอาการรุนแรงถึงขั้นต้องผ่าตัดฉุกเฉิน หรือมีอาการแทรกซ้อนรุนแรงจากโรคนิ่วในถุงน้ำดี แพทย์ก็มักแนะนำให้ใช้วิธีการผ่าตัดแบบส่องกล้องแทบทุกราย เนื่องจากมีข้อได้เปรียบในการรักษาอยู่หลายด้าน
ใครที่ไม่สามารถผ่าตัดรักษาโรคนิ่วในถุงน้ำดีได้บ้าง?
โดยทั่วไปผู้ป่วยโรคนิ่วในถุงน้ำดีแทบทุกรายจะสามารถใช้วิธีรักษาเป็นการผ่าตัดได้ ยกเว้นในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการเจ็บป่วยอื่นๆ หรือมีอาการแทรกซ้อนที่ทำให้ไม่สามารถดมยาสลบก่อนผ่าตัดได้ เช่น ติดเชื้อในกระแสเลือด ความดันโลหิตต่ำเกินไป
ในกรณีที่ไม่สามารถผ่าตัดรักษาโรคนิ่วในถุงน้ำดีได้ แพทย์อาจให้เลื่อนการผ่าตัดออกไปก่อนจนกว่าสุขภาพผู้ป่วยจะพร้อม
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดรักษาโรคนิ่วในถุงน้ำดี
ก่อนเข้ารับการผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี ผู้ป่วยจำเป็นต้องมีการเตรียมตัวล่วงหน้า ซึ่งมี 3 สิ่งสำคัญ ได้แก่
- ตรวจสุขภาพตามคำแนะนำของแพทย์ก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าร่างกายของผู้ป่วยพร้อมต่อการดมยาสลบ
- หากผู้ป่วยมียาประจำตัวที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น ยาละลายลิ่มเลือด ก็จำเป็นต้องแจ้งแพทย์ล่วงหน้า เพื่อให้แพทย์แนะนำช่วงเวลาในการหยุดยาก่อนผ่าตัด มิฉะนั้นก็อาจทำให้ส่งผลต่อการห้ามเลือดได้
- ต้องตรวจดูความเสียหายของรอยโรคนิ่วในถุงน้ำดีอย่างละเอียดก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าก้อนนิ่วที่เกิดขึ้นไปอุดตันอยู่แค่ที่ถุงน้ำดี หรือมีการกระจายออกไปอุดตันที่อวัยวะอื่นด้วย แพทย์จะได้นำออกให้หมดในการผ่าตัดครั้งเดียว
การดูแลตนเองหลังผ่าตัดรักษาโรคนิ่วในถุงน้ำดี
หลังจากผ่าตัดรักษาโรคนิ่วในถุงน้ำดีแล้ว ผู้ป่วยจะต้องดูแลแผลผ่าตัดไม่ให้อับชื้น เพราะอาจเสี่ยงทำให้ติดเชื้อที่แผลได้
แพทย์ยังมักแนะนำให้ผู้ป่วยมีการเดินเคลื่อนไหวร่างกายอยู่เรื่อยๆ เพื่อปรับให้ลำไส้กลับมาทำงานตามปกติ และเพื่อขับลมในท้องให้ระบายออก เนื่องจากแพทย์จะมีการใส่แก๊สเข้าไปในช่องท้องระหว่างการผ่าตัดด้วย
และผู้ป่วยจะต้องระมัดระวังในการกินอาหารประเภทที่มีไขมันสูง โดยยังสามารถกินได้ แต่ต้องควบคุมปริมาณไม่ให้มากเกินไป
เนื่องจากหลังผ่าตัด ผู้ป่วยจะไม่มีถุงน้ำดีในการช่วยย่อยอาหารประเภทไขมันแล้ว ซึ่งหากกินอาหารประเภทนี้มากเกินไปก็อาจทำให้ท้องอืดได้
ผลข้างเคียงและอาการแทรกซ้อนที่พบได้หลังการผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี
สำหรับผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปและไม่เป็นอันตรายหลังการผ่าตัดรักษานิ่วในถุงน้ำดี คือ อาการท้องอืดหรืออาการเจ็บแผลผ่าตัดเล็กน้อย ซึ่งหากรู้สึกไม่สบายใจกับอาการเหล่านี้ก็สามารถเรียกพยาบาลหรือสอบถามแพทย์ในระหว่างพักฟื้นหลังผ่าตัดได้
ส่วนอาการแทรกซ้อนที่เป็นอันตราย คือ อาการบาดเจ็บบริเวณท่อน้ำดีใหญ่ ซึ่งอาจเกิดจากความผิดพลาดระหว่างการผ่าตัด ในกรณีนี้แพทย์จำเป็นต้องให้ผู้ป่วยรับการผ่าตัดซ้ำเพื่อซ่อมแซมท่อน้ำดีใหญ่ที่เสียหาย
อย่างไรก็ตามหลังจากผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี แพทย์จะมีการนัดหมายเพื่อตรวจดูความเรียบร้อยของแผลหลังผ่าตัด รวมถึงเพื่อตัดไหมเย็บแผลผ่าตัด
นอกจากนี้จะมีการตรวจดูความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนผ่านการดูอาการข้างเคียงหลังผ่าตัดด้วย เช่น อาการปวดท้อง ตัวเหลือง ตาเหลือง
การดูแลสุขภาพหลังผ่าตัดรักษานิ่วในถุงน้ำดี
การดูแลตนเองที่สำคัญที่สุดหลังจากผ่าตัดรักษาโรคนิ่วในถุงน้ำดี คือ การกินอาหาร เพราะแพทย์จะตัดเอาถุงน้ำดีออกไปด้วย ทำให้ร่างกายไม่มีโกดังเก็บน้ำดีเอาไว้ย่อยสลายไขมันอีกต่อไป
ผู้ที่เคยผ่าตัดเอาถุงน้ำดีออกไปแล้วจึงต้องระมัดระวังเรื่องการกินอาหารที่มีไขมัน โดยควรลดปริมาณการกินให้น้อยลง เพื่อให้ร่างกายยังคงนำสารอาหารไขมันไปใช้ได้ในปริมาณที่พอดี แต่ไม่ได้กักเก็บเอาไว้มากเกินไปจนทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยทีหลังได้ เช่น ท้องอืด ปวดท้อง
ผ่าตัดรักษานิ่วในถุงน้ำดีกับ นพ. ธัญวัจน์ ด้วยบริการ HDcare
เปลี่ยนกระบวนการผ่าตัดตั้งแต่แรกเริ่มให้กลายเป็นเรื่องง่าย ด้วยบริการ HDcare ซึ่งเป็นบริการผ่าตัดรักษาโรคโดยมีผู้ช่วยส่วนตัวคอยดูแลคุณตั้งแต่ก่อนเริ่มการรักษา
ขั้นตอนการใช้บริการ HDcare สะดวกและง่ายมากๆ เพียงคุณเลือกดูบริการผ่าตัดจาก HDcare ที่เหมาะกับกลุ่มอาการเจ็บป่วยของตนเอง หรือติดต่อกับผู้ช่วยส่วนตัวเพื่อทำนัดปรึกษาแพทย์ได้โดยตรง
แพทย์จะตรวจวินิจฉัยอาการที่เกิดขึ้น และเพื่อยืนยันวิธีรักษาด้วยการผ่าตัด โดยในขั้นตอนนี้คุณจะยังไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ
โดยผู้ช่วยส่วนตัวคอยทำหน้าที่ติดต่อประสานงานกับแผนกต่างๆ ของโรงพยาบาลที่คุณเลือกไปผ่าตัด และจะคอยติดตามความคืบหน้าของขั้นตอนการผ่าตัดต่างๆ
นอกจากนี้ผู้ช่วยส่วนตัวยังคอยให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเตรียมตัวก่อนผ่าตัด การเลือกห้องพัก ไปจนถึงอยู่ส่งคุณถึงห้องผ่าตัด และจะคอยติดตามอาการในระหว่างที่คุณพักฟื้น
บริการจาก HDcare จึงสามารถตอบโจทย์ต่อกลุ่มคนที่ญาติหรือคนสนิทไม่สะดวกมาช่วยดูแลเป็นผู้ประสานงานก่อนผ่าตัดให้ หรือผู้ที่ญาติคนสนิทอยู่ห่างไกล จึงจำเป็นต้องเดินทางมารักษาโรคเพียงลำพัง รวมถึงผู้ที่ต้องการประหยัดเวลาในการติดต่อพูดคุยกับโรงพยาบาล
ทำไมถึงควรเลือกปรึกษาหมอและผ่าตัดกับ HDcare:
ปิด
ปิด
- เลือกปรึกษาคุณหมอที่มีประสบการณ์ได้หลายคน หลายครั้ง ทั้งแบบออนไลน์และที่ รพ. จนคุณมั่นใจ
- เช็กความคุ้มครอง พร้อมให้คำแนะนำเรื่องประกันสุขภาพ หรือจะเลือกผ่อน 0% ก็ได้ ให้คุณได้รีบรักษาให้สบายใจ
- เลือกผ่าตัดได้ที่ รพ. หลายแห่งทั่วกรุงเทพ อุ่นใจมีพยาบาลผู้ช่วยจาก HDcare ดูแลคุณในวันผ่าตัดถึงที่ รพ.
- ดูรายการผ่าตัดทั้งหมดจาก HDcare ได้ที่นี่
แพทย์ผู้ทำการผ่าตัดในบริการของ HDcare ล้วนเป็นแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์ผ่าตัดรักษาโรคมาอย่างยาวนานทุกท่าน โดยนายแพทย์ธัญวัจน์เป็นแพทย์เฉพาะทางผู้เชี่ยวชาญในการผ่าตัดที่มีประสบการณ์ในการผ่าตัดรักษาโรคมามากกว่า 10 ปี สามารถให้คำแนะนำและดูแลรักษาผู้ป่วยโรคนิ่วในถุงน้ำดีด้วยวิธีการผ่าตัดได้อย่างเชี่ยวชาญ
หากคุณคือกลุ่มคนที่ต้องการความฉับไวในการผ่าตัดรักษาโรค ต้องการมีผู้ช่วยส่วนตัวคอยดำเนินการทุกขั้นตอนในโรงพยาบาลอย่างใกล้ชิด สามารถเลือกใช้บริการ HDcare เพื่อตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ได้อย่างมั่นใจ