เสียงปอด คืออะไร ?

เสียงของปอดเป็นเสียงที่มาจากปอดในเวลาที่หายใจเข้าและออก เราสามารถได้ยินเสียงเหล่านี้ผ่านหูฟังของแพทย์ หรือเวลาที่หายใจ อย่างไรก็ตาม เสียงของปอดสามารถบ่งบอกภาวะสุขภาพบางอย่างในขณะนั้น หรือใช้ประกอบการวินิจฉัยโรคได้

เสียงปอดที่ผิดปกติบอกอะไรได้บ้าง

เสียงปอดที่ผิดปกตินั้นมักจะแสดงถึงปัญหาที่ปอดเช่น

  • มีการอุดตันภายในปอด
  • มีการอักเสบภายในปอด
  • มีการติดเชื้อภายในปอด
  • มีน้ำคั่งภายในปอด
  • มีอาการหอบหืด

ชนิดของเสียงปอด

เสียงปอดที่ปกติจะมีลักษณะเหมือนกับเสียงของอากาศ ส่วนเสียงปอดที่ผิดปกติอาจประกอบด้วยโทนเสียงเหล่านี้

  • Rhonchi เสียงโทนต่ำ
  • Crackles เสียงโทนสูง
  • Wheezing เสียงโทนสูงเหมือนกับเสียงวี๊ดเกิดจากการที่หลอดลมตีบ
  • Stridor เสียงหยาบสั่นที่เกิดจากการตีบของทางเดินหายใจส่วนบน

แพทย์สามารถใช้หูฟังในการฟังเสียงปอดได้ โดยการวางหูฟังที่บริเวณหน้าอก หลังส่วนบน หรือบริเวณซี่โครง หรือบริเวณใต้ต่อกระดูกไหปลาร้า

สาเหตุเสียงของปอดผิดปกติที่พบบ่อย

เสียงปอดที่ผิดปกตินั้นมักจะแสดงว่า เกิดปัญหาภายในปอด หรือทางเดินหายใจ สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดมีดังนี้

  • โรคปอดอักเสบ
  • หัวใจวาย
  • โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง เช่น ถุงลมโป่งพอง
  • หอบหืด
  • หลอดลมอักเสบ
  • มีวัตถุแปลกปลอมอยู่ภายในปอด หรือทางเดินหายใจ

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้เกิดเสียงผิดปกติดังกล่าว

  • Rhonchi เกิดจากการที่อากาศพยายามจะผ่านหลอดลมที่มีสารน้ำ หรือมูก
  • Crackle เกิดเวลาที่ถุงลมขนาดเล็กในปอดเต็มไปด้วยสารน้ำและมีการเคลื่อนไหวของอากาศอยู่ภายในถุงน้ำดังกล่าว สำหรับถุงลมที่เต็มไปด้วยน้ำจะพบในผู้ที่มีภาวะปอดอักเสบ หรือหัวใจวาย
  • Wheezing เกิดเมื่อท่อหลอดลมมีการอักเสบและตีบ
  • Stridor เกิดเวลาที่ทางเดินหายใจส่วนบนนั้นตีบ

เมื่อไหร่ถึงเป็นภาวะฉุกเฉิน

หากมีอาการหายใจลำบากอย่างฉับพลัน รุนแรง หรือหยุดหายใจให้รีบไปพบแพทย์ทันที อาจมีอาการตัวเขียว ผิวหนัง และเยื่อบุต่างๆ คล้ำจากการขาดออกซิเจนร่วมกับการที่ได้ยินเสียงปอดผิดปกติ ซึ่งจัดเป็นภาวะฉุกเฉินเช่นกัน

แพทย์จะทำการตรวจอาการเหล่านี้ที่แสดงว่า เป็นภาวะฉุกเฉิน

  • รูจมูกบานออกเวลาที่หายใจซึ่งมักจะพบในทารกและเด็กเล็ก
  • หายใจโดยใช้กล้ามเนื้อท้อง
  • มีการใช้กล้ามเนื้ออื่นๆ ช่วยในการหายใจเช่นที่ผนังหน้าอกและกล้ามเนื้อคอ
  • Stridor แสดงว่า มีการอุดตันที่ทางเดินหายใจส่วนบน

การวินิจฉัย

แพทย์จะดูประวัติการรักษาในอดีตเพื่อระบุสาเหตุที่ทำให้เกิดเสียงปอดที่ผิดปกติรวมถึงประวัติการรักษาในปัจจุบันและยาที่ใช้

ควรแจ้งแพทย์ว่า สังเกตเห็นเสียงปอดที่ผิดปกติตั้งแต่เมื่อไหร่และกำลังทำอะไรอยู่ อย่าลืมแจ้งอาการอื่นๆ ที่อาจเกิดร่วมด้วย

แพทย์อาจจะทำการส่งตรวจเพิ่มเติมต่อไปนี้ เพื่อหาสาเหตุของเสียงปอดที่ผิดปกติ เช่น

  • การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์
  • การตรวจเอกซเรย์ช่องอก
  • การตรวจเลือด
  • การตรวจวัดการทำงานของปอด
  • การเก็บเสมหะไปเพาะเชื้อ

การตรวจวัดการทำงานของปอดนั้นจะวัด

  • ปริมาณอากาศที่หายใจเข้าและออก
  • ประสิทธิภาพของการหายใจเข้าและออก
  • การเก็บเสมหะส่งตรวจเป็นการหาเชื้อก่อโรคที่มาจากมูกในปอดเช่นแบคทีเรีย หรือเชื้อรา

การรักษา

การรักษาจะขึ้นกับการวินิจฉัย แพทย์จะดูจากสาเหตุและความรุนแรงของอาการก่อนที่จะเลือกวิธีในการรักษา

มักจะมีการใช้ยาเพื่อช่วยกำจัดเชื้อ หรือเปิดทางเดินหายใจ ในรายที่มีอาการรุนแรง เช่น มีสารน้ำในปอด หรือมีทางเดินหายใจอุดตัน อาจจะต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล

หากคุณเป็นโรคหอบหืด ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หรือหลอดลมอักเสบ แพทย์มักจะให้การรักษาเพื่อช่วยในการหายใจและเปิดทางเดินหายใจก่อน แม้ว่าผู้ที่เป็นโรคหอบหืดมักจะมียาพ่น หรือยาที่ต้องรับประทานทุกวัน เพื่อช่วยป้องกันการเกิดอาการและลดการอักเสบในทางเดินหายใจก็ตาม

โดยสรุป ควรไปพบแพทย์ทันทีหากคุณ หรือคนที่รู้จัก มีอาการต่อไปนี้

  • มีปัญหาในการหายใจฉับพลัน
  • มีอาการหายใจลำบากอย่างรุนแรง
  • ตัวเขียว ริมฝีปากคล้ำ หรือหยุดหายใจ

หากคิดว่า มีอาการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการหายใจที่ผิดปกติควรไปพบแพทย์ ซึ่งนั่นอาจทำให้ตรวจพบความผิดปกติตั้งแต่ในระยะแรกๆ ทำให้ง่ายต่อการวางแผนรักษา และได้ผลในการรักษาที่ดี ควบคุมโรคได้ หรือสามารถรักษาให้หายได้


เปรียบเทียบราคาแพ็กเกจตรวจสุขภาพปอด

Scroll to Top