คีลอยด์ (Keloid) แผลเป็นนูนรักษาให้หายได้ ด้วยการตัดออกหรือฉีดเพื่อให้ยุบลง โดยแผลเป็นคีลอยด์อาจส่งผลต่อความมั่นใจ เพราะแผลคีลอยด์ส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่ใบหู ทำให้เป็นจุดเพ่งเล็งของสายตา และอาจรู้สึกไม่สะดวกสบายเวลาจับหูหรือสัมผัสร่างกายแล้วเกิดเป็นตุ่มนูนขึ้นมา
โดย HDmall.co.th ร่วมกับ คุณหมอบอม นพ. ภรัณเมศร์ สุวรังษีโรจน์ แพทย์ประจำ W+ Medic Clinic พร้อมไขข้อสงสัย ทำความรู้จักแผลคีลอยด์ เปรียบเทียบการรักษาคีลอยด์ด้วยการฉีดและการผ่าตัดคีลอยด์ และปิดท้ายด้วยการประเมินแผลพร้อมแนะนำวิธีการรักษาคีลอยด์
สารบัญ
- คีลอยด์คืออะไร?
- คีลอยด์ต่างจากแผลเป็นทั่วไปอย่างไร?
- แผลเป็นแบบไหนมีโอกาสเป็นคีลอยด์?
- คีลอยด์เกิดขึ้นแค่กับแผลเจาะหูเท่านั้นใช่ไหม?
- คีลอยด์มักจะเกิดขึ้นกับใคร?
- ถ้ามีแผลหนึ่งของร่างกายเป็นคีลอยด์ แผลอื่นจะเป็นด้วยไหม?
- แผลแบบไหนที่กำลังจะเป็นคีลอยด์?
- แผลเป็นคีลอยด์หายเองได้ไหม?
- แผลเป็นคีลอยด์รักษาให้หายขาดได้ไหม?
- แผ่นแปะซิลิโคน รักษาแผลเป็นคีลอยด์ได้จริงไหม?
- ทายารักษาแผลเป็นไปเรื่อยๆ รักษาคีลอยด์ได้จริงไหม?
- การรักษาแผลเป็นคีลอยด์มีกี่แบบ?
- รักษาแผลเป็นคีลอยด์แบบฉีดกับผ่าตัดออกต่างกันยังไง?
- รักษาคีลอยด์ทั้งแบบฉีดและผ่าตัดด้วยกันได้ไหม?
- คีลอยด์ที่หู ควรตัดหรือฉีดรักษา?
- วิธีป้องกันไม่ให้เกิดแผลคีลอยด์
- แผลแบบนี้ คุณหมอแนะนำให้รักษาคีลอยด์ยังไงดี?
- รักษาแผลเป็นคีลอยด์ที่ไหนดี?
คีลอยด์คืออะไร?
คีลอยด์ (Keloid) หรือแผลเป็นคีลอยด์ คือ ก้อนเนื้อเยื่อที่เกิดจากการรักษาตัวของแผล เกิดจากการที่ร่างกายใช้ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) เข้ามาสมานแผล แต่เกิดการสมานมากเกินไปจนทำให้เนื้อเยื่อเจริญเติบโตผิดรูป
ด้านในของคีลอยด์เป็นเนื้อเยื่อที่เรียกว่า พังผืด (Fibrous Tissue) เกิดจากการที่เนื้อเยื่อหนาตัวมากกว่าปกติ โดยหลายคนอาจเข้าใจว่า คีลอยด์คือถุงน้ำ ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด
คีลอยด์ต่างจากแผลเป็นทั่วไปอย่างไร?
คีลอยด์เป็นแผลเป็นที่เกิดจากการโตมากผิดปกติเหนือชั้นผิวหนังขึ้นมา โดยคีลอยด์จะเป็นแผลเป็นนูนเท่านั้น ถ้าหากแผลเป็นไม่นูนแต่เกิดการกว้างออกหรือหนาตัวจะเรียกว่า แผลเป็นแบบไฮเปอร์โทรฟิก (Hypertrophic Scars)
แผลเป็นแบบไหนมีโอกาสเป็นคีลอยด์?
สาเหตุที่ในร่างกายบางจุดเกิดเป็นแผลคีลอยด์ เกิดจากการที่ร่างกายสร้างเนื้อเยื่อมากเกินผิดปกติ ส่วนจุดที่มีโอกาสเป็นคีลอยด์มากกว่าปกติคือบริเวณที่มีกระดูกอ่อน เช่น ใบหู มักจะเกิดแผลคีลอยด์มากที่สุด
คีลอยด์เกิดขึ้นแค่กับแผลเจาะหูเท่านั้นใช่ไหม?
คีลอยด์ไม่ได้เกิดขึ้นแค่กับแผลเจาะหู เพราะแผลคีลอยด์เกิดจากการสมานแผลที่เกิดจากบาดแผล บางคนอาจจะเกิดจากแผลกรีดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเจาะหู
คีลอยด์มักจะเกิดขึ้นกับใคร?
คีลอยด์สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยเฉพาะคนที่มีประวัติครอบครัวเป็นคีลอยด์อยู่แล้ว เพราะมียีนบางตัวที่เข้าไปกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อให้มากเกินปกติได้
ถ้ามีแผลหนึ่งของร่างกายเป็นคีลอยด์ แผลอื่นจะเป็นด้วยไหม?
ไม่จำเป็นที่ทุกแผลจะต้องเป็นคีลอยด์ โดยแต่ละคนจะเกิดแผลคีลอยด์ตามจุดต่างๆ ที่แตกต่างกัน แต่จุดที่เกิดการกระตุ้นให้เป็นคีลอยด์ได้ง่ายคือบริเวณที่เป็นกระดูกอ่อน
แผลแบบไหนที่กำลังจะเป็นคีลอยด์?
แผลที่มีโอกาสเป็นแผลคีลอยด์จะเริ่มนูนแข็งเหมือนเป็นสิว จากนั้นจะเริ่มคันที่แผล และเมื่อคันมากๆ ร่างกายจะตอบสนองด้วยการเกา จากนั้นร่างกายจะสร้างพังผืด (Fibrous Tissue) ขึ้นมา และนูนใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
แผลเป็นคีลอยด์หายเองได้ไหม?
แผลเป็นคีลอยด์จะไม่สามารถหายเองได้ เพราะร่างกายจะเกิดกระบวนการหายของแผล (Wound Healing) และสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมามากจนเกินไป ทำให้ร่างกายไม่สามารถไปกัดกินแผลเดิมได้และกลายเป็นแผลเป็นถาวร
แผลเป็นคีลอยด์รักษาให้หายขาดได้ไหม?
หมอบอมให้ความเห็นว่า การหายของแผลเป็นคีลอยด์หลังการรักษาอาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล บางคนฉีดรักษาคีลอยด์นิดเดียวก็ยุบได้และไม่เป็นอีกเลย แต่กับบางคนก็มีโอกาสที่ฉีดรักษาคีลอยด์หลายครั้งแล้วยุบ หรือบางคนผ่าตัดคีลอยด์แล้วหายเลย แต่บางคนหลังผ่าตัดคีลอยด์ก็อาจจะกลับมาเป็นคีลอยด์ใหม่ได้
แผ่นแปะซิลิโคน รักษาแผลเป็นคีลอยด์ได้จริงไหม?
แผ่นแปะซิลิโคนสามารถรักษาแผลเป็นคีลอยด์ได้จริง เพราะถ้าร่างกายได้รับส่วนผสมของซิลิโคนก็มีโอกาสที่ร่างกายจะซ่อมแซมแผลได้เร็วขึ้น ทำให้พังผืด (Fibrous Tissue) หรือว่าเนื้อเยื่อที่เจริญเติบโตผิดปกติเกิดขึ้นได้ยาก
ทายารักษาแผลเป็นไปเรื่อยๆ รักษาคีลอยด์ได้จริงไหม?
ทายารักษาแผลเป็นเรื่อยๆ ช่วยรักษาคีลอยด์ได้ แต่โอกาสในการรักษาน้อยมาก เพราะคีลอยด์ของแต่ละคนมีความหนาและความแข็งตัวที่แตกต่างกัน
การรักษาแผลเป็นคีลอยด์มีกี่แบบ?
การรักษาแผลเป็นคีลอยด์มี 2 แบบหลักๆ ดังนี้
- ฉีดรักษาแผลคีลอยด์ โดยแพทย์จะใช้ตัวยาฉีดเพื่อทำให้คีลอยด์ยุบตัว
- ผ่าตัดคีลอยด์ออก โดยแพทย์จะตัดติ่งเนื้อออกแล้วเย็บปิดแผล
รักษาแผลเป็นคีลอยด์แบบฉีดกับผ่าตัดออกต่างกันยังไง?
หมอบอมให้คำแนะนำว่า การรักษาแผลเป็นคีลอยด์ก้อนเล็กๆ แนะนำให้รักษาด้วยการฉีด เพราะคีลอยด์ก้อนเล็กมีแนวโน้มจะยุบตัวได้ ส่วนการผ่าตัดคีลอยด์แนะนำให้เป็นขั้นตอนสุดท้ายที่แผลคีลอยด์สร้างความรำคาญจนทำให้อยากเอาออกไปทันที
สำหรับจำนวนการรักษาแผลคีลอยด์ด้วยการฉีดอาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล ขึ้นกับความแข็งของแผล ขนาดของแผล และการตอบสนองต่อยาในคนไข้แต่ละคนที่ไม่เท่ากัน บางคนอาจจะฉีดคีลอยด์ครั้งเดียวแล้วหายเลย ในขณะที่บางคนอาจจะต้องฉีดคีลอยด์ถึง 3 ครั้ง
ส่วนการผ่าตัดแผลคีลอยด์สามารถตัดออกได้ในทุกระดับไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็ก ขึ้นกับความต้องการและความกังวลของคนไข้ แต่การผ่าตัดคีลอยด์จะเจ็บกว่าการฉีดรักษาคีลอยด์ เพราะต้องมีการตัดเย็บ โดยจะใช้เวลาประมาณ 7-14 วันเพื่อฟื้นฟูแผลจากการตัดคีลอยด์
สำหรับโอกาสหายขาดก็อาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล เพราะการผ่าตัดคีลอยด์เป็นการทำให้เกิดแผลใหม่จึงมีโอกาสที่จะเกิดพังผืด (Fibrous Tissue) มากเกินไปจนทำให้เกิดคีลอยด์ซ้ำอีกครั้งได้
แต่การผ่าตัดแผลคีลอยด์โดยหมอบอม ที่ W+ Medic Clinic คุณหมอจะตัดเลาะโครงสร้างทั้งหมดที่เกิดความผิดปกติออกไป ช่วยลดโอกาสการเกิดแผลคีลอยด์ซ้ำอีกครั้งได้ดี
รักษาคีลอยด์ทั้งแบบฉีดและผ่าตัดด้วยกันได้ไหม?
ในบางกรณี คุณหมออาจใช้การผ่าตัดร่วมกับการฉีดรักษาคีลอยด์ โดยหลังจากแผลผ่าตัดเริ่มแห้งก็จะนัดให้กลับมาฉีดคีลอยด์ซ้ำ เพื่อป้องกันการเกิดแผลคีลอยด์
คีลอยด์ที่หู ควรตัดหรือฉีดรักษา?
จากประสบการณ์ของหมอบอม แนะนำว่าก้อนคีลอยด์ที่หูควรผ่าตัด โดยเฉพาะก้อนคีลอยด์ที่มีขนาดใหญ่ เนื่องจากอาจสร้างความไม่มั่นใจให้กับคนไข้ได้ การตัดคีลอยด์ที่หูจึงเป็นการรักษาที่ดีที่สุด
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดแผลคีลอยด์
หมอบอมแนะนำให้ซื้อยาทาที่มีส่วนผสมของซิลิโคนมาทาที่แผลจากการเจาะหู หรือแผลจากการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ จากนั้นเมื่อแผลเริ่มแห้งแนะนำให้ใช้แผ่นแปะซิลิโคนลดรอยแผลเป็นหรือแผ่นแปะแผลคีลอยด์
แผลแบบนี้ คุณหมอแนะนำให้รักษาคีลอยด์ยังไงดี?
ในปัญหาแผลแบบนี้ที่เกิดจากการเจาะหู 6 รู โดยแบ่งเป็นข้างซ้าย 3 รู และข้างขวา 3 รู ซึ่งแผลแบบนี้มีโอกาสที่จะเกิดแผลเป็นคีลอยด์สูงมากทั้ง 6 รูเลย
หมอบอมแนะนำให้สังเกตว่า ถ้าแผลที่เห็นเริ่มเป็นไตแข็งๆ สีขาวนูนๆ ขึ้นมา แนะนำให้รีบรักษาทันที เพราะถ้าปล่อยแผลนี้ทิ้งไว้จะมีขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งมีโอกาสเป็นคีลอยด์ก้อนใหญ่ที่ติ่งหูสูงมากๆ
สำหรับแผลเป็นแบบนี้คุณหมอแนะนำให้รักษาด้วยการฉีดก่อน เพราะการฉีดจะทำให้แผลยุบตัวได้ดีมาก แต่ในกรณีนี้คุณหมอจะไม่แนะนำให้เจาะหูเพิ่มแล้ว เพราะถ้าหากยังเจาะหูอีกก็มีโอกาสที่จะเป็นคีลอยด์ซ้ำ เพราะเป็นแผลที่ติดกระดูกอ่อนเลย
ในปัญหาแผลนี้ที่เกิดจากแก้วบาดเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว และแผลเริ่มนูนมากขึ้น คุณหมอบอมอธิบายว่า การที่แผลนูนขึ้นอาจทำให้คนเข้าใจผิดระหว่างแผลคีลอยด์กับแผลเป็นแบบไฮเปอร์โทรฟิก (Hypertrophic Scars)
โดยแผลจากการถูกแก้วบาดจะเป็นแผลขนาดเล็กๆ เท่านั้น แต่พอเริ่มแห้งและกลายเป็นแผลเป็นก็อาจจะขยายตัวกว้างขึ้น ซึ่งการรักษาแผลเป็นในปัญหานี้จะไม่ต่างกับการรักษาแผลคีลอยด์ คุณหมอแนะนำให้รักษาด้วยการฉีด ซึ่งจะทำให้แผลตอบสนองได้เป็นอย่างดี
รักษาแผลเป็นคีลอยด์ที่ไหนดี?
ใครที่เป็นแผลเป็นคีลอยด์ อยากรักษาคีลอยด์ ไม่รู้จะรักษาคีลอยด์ที่ไหนดี อยากรู้ว่ารักษาคีลอยด์ราคาเท่าไหร่ แนะนำเลือกดูคลินิกรักษาคีลอยด์ใกล้บ้าน และโปรโมชั่นรักษาคีลอยด์ราคาสุดคุ้มบน HDmall.co.th
ถ้ายังไม่แน่ใจว่าแผลคีลอยด์แบบนี้รักษายังไงดี ส่งรูปปรึกษาก่อนได้ที่ไลน์ @HDcoth