directory doctor yaarpa nasunee1

รู้จัก “ทีมหมอจาก Flow Clinic” กับประสบการณ์เสริมหน้าอกมากว่า 10,000 เคส

ทำความรู้จักทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านเสริมหน้าอกทั้ง 3 ท่าน หมอบุ้ง พญ. ญาอาภา น้าสุนีย์ หมอแบงค์ นพ. ยศวัฒน์ ปุญญาจินดาทรัพย์ และหมอนนท์ นพ. ชานนท์ โรหิตรัตนะ จาก Flow Clinic ที่จะมาให้ความรู้เรื่องเกี่ยวกับศัลยกรรมหน้าอก ผ่านบทสัมภาษณ์จาก HDcare

อยากทำนม อยากเสริมหน้าอก แต่ไม่รู้ว่าต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง? หมอบุ้ง ผู้บริหารและแพทย์ประจำ Flow Clinic จะมาแนะนำวิธีการเตรียมตัวสำหรับสาวๆ และชาว LGBTQ+ ที่อยากเสริมหน้าอกกัน

ทำไมหลายๆ คนถึงเลือกมาเสริมหน้าอกกับหมอบุ้ง?

ข้อแรกเลยนะคะเราทำด้านนี้มานานแล้ว จากประสบการณ์การศัลยกรรมหน้าอก เคสต่างๆ นั้นทำให้ทั้งผู้หญิง 30% และ LGBTQ+ 70% ค่ะ 

มีหลายเคสที่เพื่อนบอกต่อ กลายเป็น Word of Mouth ชวนเพื่อนมาทำกัน ส่วนข้อสองเพราะคลินิก Flow Clinic เปิดมานานแล้วด้วยทำให้คนเชื่อมั่นในคลินิกและแบรนด์ของเราค่ะ

เคสทำหน้าอกที่ประทับใจ คืออะไร เล่าเหตุการณ์นั้นให้ฟังหน่อย?

สำหรับเคสที่ประทับใจของหมอบุ้งเองนะคะ น่าจะเป็นเคสที่มาทำกันทั้งครอบครัว ชวนพี่ น้อง แม่ มาทำ ทำให้รู้สึกว่าเราได้ดูแลกันทั้งครอบครัว ซึ่งคนทำเป็นชาวอินโดนีเซีย และเป็นชาว LGBTQ+ ด้วย 

ที่อินโดนีเซียการเสริมหน้าอกราคาค่อนข้างสูง เปรียบเทียบกับที่ไทยแล้วราคาถูกกว่า และพวกเขาก็เชื่อมั่นในคลินิกเราด้วยค่ะ

เคสที่ยากที่สุดที่เคยเจอ คืออะไร แก้ไขปัญหานั้นยังไง 

ทุกๆ การผ่าตัดเราต้องเจอปัญหาอยู่แล้ว แต่ละปัญหาก็มีความยากง่ายแตกต่างกันออกไป ส่วนปัญหาอันดับต้นๆ นั้นไม่ได้เกิดจากการผ่าตัด แต่มักจะเกิดจากก่อนผ่าตัด เรื่องของการให้ข้อมูลของคนไข้ที่คลุมเครือ เช่น การทำเคสแก้ ที่คนไข้ฉีดซิลิโคนเหลวมาและไม่ได้แจ้งก่อนการผ่าตัด ทำให้การผ่าตัดค่อนข้างยากมากๆ ต้องแก้ไขกันหน้างาน ซึ่งต้องใช้ประสบการณ์และไหวพริบค่ะ

directory doctor yaarpa nasunee4

เสริมหน้าอกให้คนไข้ หมอบุ้งมีเรื่องอะไรที่ต้องทำหรือระวังเป็นพิเศษบ้าง?

หมอจะพิจารณาเรื่องการให้ความรู้กับคนไข้เป็นหลักค่ะ ว่ากระบวนการ การเตรียมตัวเป็นยังไง หากลูกค้ามีความคาดหวังสูง เราจะพูดคุยกันให้เคลียร์ว่าผ่าตัดเสร็จแล้วจะออกมาแบบไหนเพื่อเห็นภาพได้ตรงกัน

การผ่าตัดคือเรื่องศาสตร์และศิลป์ เราให้ความสำคัญกับทุกขั้นตอน เช่น ความปลอดภัย ความสะอาด และเราต้องคำนึงถึงรูปร่างและผลที่จะออกมาด้วยค่ะ

และหลังผ่าตัดเราจะให้ความรู้ และมีทีมงานติดตามงานตลอดตั้งแต่รายวัน ยันรายสัปดาห์

การเสริมหน้าอกให้ผู้ชาย (LGBTQ+) กับผู้หญิง ต่างกันยังไง?

การเสริมหน้าอกของ LGBTQ+ ต่างกันมาก ถ้า LGBTQ+ จะมีกล้ามเนื้อที่ใหญ่ซึ่งรูปทรงต่างกับผู้หญิงที่มีไขมันสะสมเยอะกว่า เราต้องให้ความรู้คนไข้ก่อนว่า ระยะการผ่าตัดเท่าไหร่ค่ะ

การเตรียมตัวก่อนเสริมหน้าอกสำคัญมากๆ หมอแบงค์ ศัลยแพทย์ชำนาญการด้านศัลยกรรมเสริมความงามมากกว่า 1,000 เคส ให้คำแนะนำว่า การตรวจสุขภาพเพื่อเช็กความพร้อมของสุขภาพร่างกายเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดระหว่างการผ่าตัด 

directory doctor yaarpa nasunee2

โดยการตรวจร่างกายก่อนเสริมหน้าอก จะต้องตรวจเลือดเพื่อดูความเข้มข้นและปริมาณของเกล็ดเลือด รวมถึงการตรวจร่างกายอย่างละเอียดและการตรวจวัดสัญญาณชีพ

ถ้าผลตรวจออกมาว่ามีภาวะซีด หรือความเข้มข้นของเลือดน้อยกว่า 30% ก็ถือว่ามีความเสี่ยง และอาจจะต้องตรวจสุขภาพร่างกายส่วนอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัย 

โรคประจำตัวอะไรที่เสริมหน้าอกไม่ได้?

คนที่สุขภาพไม่แข็งแรงยังไม่แนะนำให้เสริมหน้าอก เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน และโรคเกี่ยวกับเกล็ดเลือด ที่ทำให้เลือดหยุดยากขณะผ่าตัด โรค SLE หรือโรคจิตเวทที่ไม่แนะนำให้ผ่าตัดครับ

ก่อนเสริมหน้าอก ต้องดูอะไรบ้าง? 

สิ่งแรกที่ต้องดูคือ เพศของผู้ผ่าตัด ว่าเป็นผู้หญิงหรือ LGBTQ+ สรีระรูปทรงความต้องการต่างๆ เพื่อเลือกขนาดซิลิโคนที่เหมาะสม

สำหรับคนที่เสริมหน้าอกใหม่หมอจะดูตั้งแต่ฐานความกว้างของหน้าอก ความสูง ส่วนบริเวณหน้าอกว่ามีเนื้อเยอะไหม และเป็นกล้ามเนื้อหรือไขมัน สำหรับคนที่มีเนื้อน้อย จะดูก่อนว่าผิวหนังมีความยืดหยุ่นได้ดีแค่ไหน เพราะหลังผ่าตัด ผิวจะต้องรองรับกับซิลิโคนได้ดี

ส่วนคนที่อยากแก้หน้าอก จะต้องประเมินหลายอย่าง โดยจะต้องดูก่อนว่าอยากแก้หน้าอกเพราะปัญหาอะไร เช่น ซิลิโคนเก่ารั่วหรือแตก หรือว่าอยากเพิ่มขนาดหน้าอก ลดขนาดหน้าอก

ในกลุ่ม LGBTQ ที่อยากเสริมหน้าอก การประเมินก่อนผ่าตัดจะแตกต่างจากผู้หญิง เพราะคนกลุ่มนี้จะมีหน้าอกกว้างและกล้ามเนื้อใหญ่ ทำให้ต้องเช็กว่ากินฮอร์โมนมานานหรือยัง

ถ้ายังกินฮอร์โมนอยู่ แนะนำให้หยุดก่อนผ่าตัดประมาณ 2 สัปดาห์ ส่วนคนที่เนื้อเยอะก็ต้องดูก่อนว่าเนื้อนมที่เยอะคือเนื้อจากไขมันหรือกล้ามเนื้อ

วันเสริมหน้าอก ควรเตรียมตัวยังไง

ในวันก่อนผ่าตัดเสริมหน้าอกแนะนำให้พักผ่อนให้เพียงพอ งดอาหารและเครื่องดื่มอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง และสวมชุดสบายๆ มาผ่าตัด

และเพื่อให้การเสริมหน้าอกเป็นไปแผนที่วางไว้ แนะนำให้ไม่ต้องเครียด ไม่ต้องกังวลอะไร ส่วนเรื่องของขั้นตอนการผ่าตัดขอให้ไว้ใจหมอ หมอแบงค์พร้อมดูแลทุกคนครับ 

ทำหน้าอกทั้งที เลือกซิลิโคนแบบไหนดี หมอนนท์ นายแพทย์ชานนท์ โรหิตรัตนะ ที่มีประสบการณ์เสริมหน้าอกกว่า 5,000 เคส จะมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับซิลิโคนเสริมหน้าอกแบบเจาะลึกกัน

directory doctor yaarpa nasunee3

สำหรับการเสริมหน้าอก สิ่งที่หลายคนมักจะเลือกไม่ถูกคือ การเลือกซิลิโคน เพราะปัจจุบันซิลิโคนก็มีเยอะมากๆ แถมเรายังไปหาดูตามท้องตลาด ไปลองจับ ลองบีบก็ไม่ได้ หมอเลยจะมาจับมาบีบให้ดูว่าซิลิโคนแต่ละแบบ ต่างกันยังไงครับ

ซิลิโคน Silimed

ซิลิโคน Silimed ออกแบบมาสำหรับผู้หญิงรูปร่างสูง ฐานหน้าอกกว้าง ตัวซิลิโคนมีความยาว ช่วยให้ดูสมส่วน เนื้อสัมผัสจะเฟิร์มและแน่น และเป็นผิวทราย

ซิลิโคน Silimed เหมาะกับคนที่อยากได้หน้าอกเฟิร์ม และยังเหมาะกับ LGBTQ+ ที่เทคฮอร์โมนจนมีเนื้อหน้าอก

ซิลิโคน Silimed

ซิลิโคน GCA 

ซิลิโคน GCA เป็นซิลิโคนจากฝรั่งเศส มีผิวสัมผัสเรียบ นุ่ม ช่วยให้หน้าอกสวย ทรงพุ่ง ไม่ค่อยมีปัญหาแตกและรั่วซึม 

ซิลิโคน GCA เหมาะกับคนตัวเล็ก เนื้อฐานน้อย ฐานแคบก็เสริมได้ มีความเป็นธรรมชาติ กลับคืนทรงง่ายด้วย

ซิลิโคน GCA 

ซิลิโคน Mentor Extra Gel

ซิลิโคน Mentor Extra Gel เป็นซิลิโคนพัฒนาขึ้นมาใหม่ แต่กลับเป็นซิลิโคนยอดนิยมตัวฮิตติดตลาด ด้วยราคาที่น่ารัก เป็นทรงหยดน้ำ เนื้อแน่น ฐานแคบ เน้นทรงพุ่ง บีบไปแล้วคืนทรง ให้สัมผัสนิ่ม มีความเป็นธรรมชาติสูง 

ซิลิโคน Mentor Extra Gel เหมาะกับคนที่ตัวเล็กและอยากหน้าอกใหญ่

ซิลิโคน Mentor Extra Gel

ซิลิโคน Motiva Ergonomix 

ซิลิโคน Mentor Extra Gel จุดเด่นคือ มีชิปเก็บรักษาข้อมูลประวัติของซิลิโคน ยืดหยุ่นมาก เคลื่อนไหวตามร่างกายได้ดี ไม่ทำให้หน้าอกหย่อนคล้อย แถมยังให้ทรงหยดน้ำดูเป็นธรรมชาติ

ซิลิโคน Mentor Extra Gel เหมาะกับคนเอเชีย ที่ต้องการเนินชัด

ซิลิโคน Motiva Ergonomix 

Flow Clinic มีความชำนาญในเรื่องของการเสริมหน้าอกกับซิลิโคนทุกรูปแบบ ใครที่อยากเสริมหน้าอก แนะนำให้เข้ามาปรึกษามาประเมินกันก่อนค่อยตัดสินใจ หรือจะส่งรูปมาปรึกษาฟรีผ่าน  HDcare  ก็ได้นะครับ ทีมแพทย์จาก Flow Clinic เราพร้อมดูแลครับ

Scroll to Top