Bromhexine (บรอมเฮกซีน) และ Codeine (โคดิอีน)

ยาบรอมเฮกซีน-โคดิอีน (bromhexine-codeine) ยาที่มีตัวยาสำคัญ 2 ชนิดนี้ เป็นยารูปแบบยาผสม บรอมเฮกซีน-โคดิอีนเป็นตำรับยาแก้ไอ ขับเสมหะ โดยประกอบด้วยตัวยาสำคัญ 2 ตัวยา คือ บรอมเฮกซีน ซึ่งมีฤทธิ์ขับเสมหะ และโคดิอีน ซึ่งมีฤทธิ์กดอาการไอ

บรอมเฮกซีน เป็นยาในกลุ่มยาละลายเสมหะ ใช้ในการรักษาโรคระบบทางเดินหายใจที่เกี่ยวข้องกับการมีเมือกในระบบทางเดินหายใจมากเกินไป นอกจากนี้แล้วบรอมเฮกซีนยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระด้วย

ยาโคดิอีน เป็นยาในกลุ่มโอพิออยด์ (opioid) มีฤทธิ์ยับยั้งการปวดระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง มีฤทธิ์ยับยั้งการไอ มีการใช้ในตำรับยาแก้ไอ แต่นับไม่มีหลักฐานการศึกษารองรับการใช้โอพิออยด์เพื่อใช้กดอาการไอเฉียบพลันในเด็ก โดยในยุโรปไม่แนะนำให้ใช้ยาโคดิอีนในเด็กที่อายุต่ำกว่า 12 ปี

สรรพคุณของบรอมเฮกซีน-โคดิอีน

  • Bromhexine เป็นยาละลายเสมหะ ที่ช่วยลดความเหนียวของเสมหะ ทำให้เสมหะไหลออกง่ายขึ้น และช่วยในการขับเสมหะออกจากทางเดินหายใจ ใช้ในการรักษาอาการไอที่มีเสมหะ เช่น อาการไอจากโรคหลอดลมอักเสบ หรือโรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรัง
  • Codeine เป็นยาต้านไอ และยาแก้ปวดที่ช่วยระงับอาการไอและบรรเทาอาการปวดเล็กน้อยถึงปานกลาง โดยทำงานที่สมองเพื่อลดการตอบสนองต่ออาการไอ ใช้ในการระงับอาการไอแห้งที่ไม่มีเสมหะ และบรรเทาอาการปวดเล็กน้อยถึงปานกลาง

ยา Bromhexine ที่ใช้ในไทยส่วนใหญ่เป็นยาเม็ดขนาด  8mg นอกจากนี้มีขนาด 16 mg ใช้ในบางประเทศ และมียาแบบน้ำเชื่อมและแบบแบบหยอดให้เลือกใช้

กลไกการออกฤทธิ์ของบรอมเฮกซีน-โคดิอีน

บรอมเฮกซีนออกฤทธิ์กับเสมหะที่ขั้นการสร้างเสมหะที่เกิดขึ้นในเซลล์ที่เกิดการหลั่งเมือก โดยบรอมเฮกซีนเข้าทำลายโครงสร้างของกรดมิวโคโพลิแซกคาไรด์ (mucopolysaccharide) ทำให้เสมหะมีความเหนียวลดลง การขับเสมหะออกทำได้ง่ายขึ้น บรอมเฮกซีนมีความเป็นพิษต่ำ

โคดิอีนเลียนแบบการออกฤทธิ์ของโอพิออยด์ที่หลั่งขึ้นภานในร่างกายโดยเข้าจับที่ตัวรับโอพิออยด์ ในระบบประสาทส่วนกลาง การกระตุ้นตัวรับมิว (mu receptor) ทำให้เกิดการลดลงของการหลั่งสารสื่อประสาทโนซิเซปทีฟ ได้แก่ substance P, GABA, dopamine, acetylcholine, และ noradrenaline กลไกการยับยั้งการไอนั้นยังไม่มีการศึกษากลไกชัดเจน แต่เชื่อว่าเกิดจากความสามารถในการกดการตอบสนองต่อการไอที่ศูนย์การไอในสมองส่วนเมดัลลา

ข้อบ่งใช้สำหรับบรอมเฮกซีน-โคดิอีน

พิจารณาจากปริมาณตัวยาสำคัญของยาในสูตรผสม โดย

  • ยาโคดิอีน ข้อบ่งใช้สำหรับกดอาการไอ ยาในรูปแบบยารับประทาน ขนาดการใช้ยาในผู้ใหญ่ ขนาด 15-30 มิลลิกรัม วันละ 3-4 ครั้ง จำเป็นต้องมีการปรับขนาดการใช้ยาในผู้ป่วยสูงอายุ
  • ยาบรอมเฮกซีน ข้อบ่งใช้สำหรับละลายเสมหะ ยาในรูปแบบยาเม็ดหรือยาน้ำสำหรับรับประทาน ขนาดการใช้ยาในผู้ใหญ่ ขนาด 8-16 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง

ไม่แนะนำให้ใช้ยาสูตรผสมที่มีส่วนประกอบของโคเดอีนในเด็ก

ข้อปฏิบัติเมื่อลืมรับประทานยาบรอมเฮกซีน-โคดิอีน

หากลืมรับประทานยาตามเวลาปกติที่รับประทาน ถ้าปกติรับประทาน 1 เม็ด ให้รับประทานยาทันทีที่นึกได้จำนวน 1 เม็ดโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เม็ดแทนเม็ดที่ลืมรับประทาน ในกรณีลืมรับประทานยาใกล้กับเวลารับประทานถัดไป ให้รับประทานยาในมื้อถัดไปในขนาด 1 เม็ด โดยข้ามยาในมื้อที่ลืมไปและไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เม็ด

ข้อควรระวังของการใช้ยาบรอมเฮกซีน-โคดิอีน

ข้อควรระวังของการใช้ยาบรอมเฮกซีน มีดังนี้

  • ระวังการใช้ยานี้ผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นแผลในกระเพาะอาหาร (peptic ulcer)
  • ระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยโรคหืด (asthma)
  • ระวังการใช้ยานี้ ในผู้ป่วยโรคตับ และไตรุนแรง

ข้อควรระวังของการใช้ยาโคเดอีน มีดังนี้

  • ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วย acute respiratory depression
  • ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยตับวาย
  • ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยหืดเฉียบพลัน หรือรุนแรง
  • ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่มีการอุดกั้นของระบบทางเดินอาหาร
  • ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่ติดแอลกอฮอล์
  • ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่มีอุบัติเหตุบริเวณศีรษะ
  • ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่มีความดันในกระโหลดสูง
  • ห้ามใช้ยานี้ในเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี
  • ห้ามใช้ยานี้ในสตรีให้นมบุตร
  • ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่ได้รับยากลุ่ม monoamine oxidase inhibitor ในช่วง 14 วันก่อนได้รับยานี้
  • ระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยความดันโลหิตต่ำ
  • ระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยต่อมไทรอยด์ทำงานน้อยกว่าปกติ
  • ระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยเด็ก ผู้สูงอายุ และสตรีมีครรภ์

ผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาบรอมเฮกซีน-โคดิอีน

  • ยาบรอมเฮกซีน นี้อาจก่อให้เกิดอาการอันไม่พึงประสงค์ ได้แก่ อาจก่อให้เกิด คลื่นไส้ อาเจียน angioedema อาการบวม ผื่นแดง หลอดลมหดตัว มึนงง เหงื่อออกมาก ปวดศีรษะ ปวดท้องส่วนบน ท้องเสีย เพิ่มค่าผลปฏิบัติการ serum amino transferase
  • ยาโคเดอีน อาจก่อให้เกิดอาการรุนแรง ได้แก่ กดระบบประสาทส่วนกลาง ความดันโลหิตต่ำ ท้องผูก หัวใจเต้นเร็ว หัวใจเต้นช้า ใจสั่น น้ำตาลในเลือดสูง อาการที่อาจก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิต ได้แก่ กดระบบทางเดินหายใจ อาการอื่นๆ ได้แก่ ไข้ ปวดกล้ามเนื้อ เหนื่อยหอบ มึนงง ปวดศีรษะ สับสน ส่งผลต่ออารมณ์ เห็นภาพหลอน ฝันร้าย ผื่น เหงื่ออกมาก

ข้อมูลการใช้ยาบรอมเฮกซีน ในสตรีมีครรภ์และสตรีให้นมบุตร

  • ตัวยาบรอมเฮกซีนจัดอยู่ในกลุ่ม category A คือ ยามีความปลอดภัยในการใช้ยาในสตรีมีครรภ์
  • ตัวยาโคเดอีนจัดอยู่ในกลุ่ม category C คือ ควรระมัดระวังการใช้ยาในสตรีมีครรภ์ สำหรับสตรีให้นมบุตร ควรระวังการใช้ยา

ประเภทของยาตามองค์การอาหารและยา ประเทศไทย

  • ยังไม่มียาสูตรผสมนี้ในประเทศไทย โดยยาบรมเฮกซีน จัดอยู่ในกลุ่มยาทั่วไป (NDD) และยาโคเดอีน จัดอยู่ในกลุ่มยาเสพติดประเภทที่ 2 ไม่มีวางจำหน่ายในร้านขายยาทั่วไป
  • การใช้ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์และใช้เฉพาะกรณีที่จำเป็นเท่านั้น

สิ่งที่ควรแจ้งแพทย์ เภสัชกร และพยาบาลในการสั่งใช้ยา

แพทย์และเภสัชกรสามารถให้ข้อมูลการใช้ยาอย่างปลอดภัย ผู้ป่วยควรแจ้งข้อมูลเหล่านี้แก่แพทย์หรือเภสัชกรเพื่อประโยชน์ต่อผู้ป่วยและลดความเสี่ยงในการเกิดอันตรายจากการใช้ยา

  • แจ้งข้อมูลการใช้ยารักษาโรคประจำตัว ยาที่เพิ่งรับประทานก่อนหน้านี้ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่รับประทาน (รวมถึงวิตามิน และสมุนไพร) ในกรณีมียาประจำตัวจำนวนมาก ให้พกยาเพื่อให้แพทย์หรือเภสัชกรช่วยตรวจสอบก่อนสั่งจ่ายยาใหม่ ไม่ให้เกิดอันตรกิริยาระหว่างยาที่จะได้รับใหม่และยาที่เดิมที่ผู้ป่วยใช้อยู่
  • แจ้งประวัติการแพ้ยา หรืออาการแพ้ที่เกิดขึ้นเมื่อใช้ยา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือแพ้อาหารชนิดใดอยู่ (เนื่องจากยาบางชนิดมีส่วนประกอบของไข่ขาว นม ยีสต์) อาการที่เกิดขึ้น เช่น อาการบวม เกิดผื่น หายใจลำบาก หรือให้นำบัตรแพ้ยา พกติดตัวและแสดงบัตรนี้แก่แพทย์และเภสัชกรก่อนเข้าใช้บริการสุขภาพทุกครั้ง
  • แจ้งข้อมูลในกรณีที่มีการตั้งครรภ์ หรือมีแผนที่จะตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร เนื่องจากยาบางชนิดส่งผลอันตรายต่อเด็กในครรภ์ หรือสามารถขับออกทางน้ำนมได้
  • แจ้งข้อมูลที่จะส่งผลต่อการรับประทานยา เช่น มีปัญหาการกลืนลำบาก มีปัญหาด้านการมองเห็นหรืออ่านฉลากยา วิธีการรับประทานยา เพื่อแพทย์หรือเภสัชกรจะได้ช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง

Scroll to Top