ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction) เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้ชายทุกช่วงอายุ ปัจจุบันมีทางเลือกในการรักษาหลากหลาย ตั้งแต่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ไปจนถึงการผ่าตัด บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักวิธีรักษาแต่ละแบบ และค้นหาว่าวิธีใดเหมาะกับคุณที่สุด
สารบัญ
การรักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
วิธีการรักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศมีความหลากหลาย ตั้งแต่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงการใช้ยา การรักษาด้วยอุปกรณ์ หรือแม้กระทั่งการผ่าตัด โดยแพทย์จะพิจารณาแนวทางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย ขึ้นอยู่กับสาเหตุ ความรุนแรง และสุขภาพโดยรวม
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการดูแลตัวเอง
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นพื้นฐานสำคัญของการรักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ไม่ว่าสาเหตุหลักจะมาจากอะไรก็ตาม การดูแลสุขภาพโดยรวมจะช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพของการรักษาอื่นๆ และลดความเสี่ยงของโรคที่อาจเป็นต้นเหตุได้ โดยมีวิธีการดังต่อไปนี้
- การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ: การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เช่น เดินเร็ว วิ่ง ปั่นจักรยาน หรือว่ายน้ำ อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ ช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานดีขึ้น ลดความดันโลหิต ลดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการแข็งตัว
- ควบคุมอาหารและรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม: การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี ลดอาหารไขมันสูง น้ำตาลสูง และอาหารแปรรูป ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ นอกจากนี้ภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วนยังสัมพันธ์กับภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำด้วย
- งดสูบบุหรี่และลดการดื่มแอลกอฮอล์: การสูบบุหรี่เป็นตัวการทำลายหลอดเลือดทั่วร่างกาย รวมถึงหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงอวัยวะเพศ ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก ส่วนการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากส่งผลต่อระบบประสาทและการทำงานของอวัยวะเพศ
- จัดการความเครียดและอารมณ์: ความเครียด ความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า เป็นสาเหตุสำคัญทางจิตใจของภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ดังนั้น กิจกรรมที่ช่วยคลายเครียด เช่น การฝึกโยคะ การทำสมาธิ การหางานอดิเรกที่ผ่อนคลาย การพักผ่อนให้เพียงพอ หรือการปรึกษาผู้ชำนาญการด้านสุขภาพจิต จะช่วยบรรเทาปัญหาเหล่านี้ได้
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ: การนอนหลับไม่เพียงพอส่งผลกระทบต่อระดับฮอร์โมนและความสมดุลของร่างกาย ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้ ดังนั้น ควรนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน
- สื่อสารกับคู่รัก: การเปิดใจพูดคุยกับคู่รักเกี่ยวกับปัญหาที่เผชิญอยู่ จะช่วยลดความกังวล ความเครียด และความเข้าใจผิดในความสัมพันธ์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อการฟื้นฟูสุขภาพทางเพศและจิตใจได้
- ระมัดระวังการใช้สมุนไพรและอาหารเสริม: แม้จะมีสมุนไพรและอาหารเสริมหลายชนิดที่อ้างสรรพคุณในการเสริมสมรรถภาพทางเพศ แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้เสมอ เนื่องจากอาจมีผลข้างเคียงหรือปฏิกิริยากับยาที่คุณใช้อยู่
การรักษาทางการแพทย์
เมื่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่เพียงพอ หรือสาเหตุของภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศมาจากปัญหาสุขภาพที่ซับซ้อน แพทย์อาจพิจารณาแนวทางการรักษาทางการแพทย์ ซึ่งมีหลายวิธีดังนี้
- การใช้ยา: เป็นแนวทางการรักษาที่ใช้บ่อยที่สุดและมีประสิทธิภาพสูงสำหรับผู้ป่วยจำนวนมาก โดยยาที่ใช้ในการรักษา ได้แก่ ยาในกลุ่ม PDE5 Inhibitors เช่น Sildenafil (ไวอากร้า), Tadalafil, Vardenafil และ Avanafil ยาเหล่านี้จะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อเรียบในองคชาติ ทำให้เลือดไหลเข้าได้มากขึ้นเมื่อมีการกระตุ้นทางเพศ
ข้อควรระวัง: ยาเหล่านี้ควรใช้ภายใต้การดูแลและใบสั่งยาจากแพทย์เท่านั้น เนื่องจากอาจมีผลข้างเคียง เช่น ปวดศีรษะ หน้าแดง คลื่นไส้ และมีข้อห้ามใช้ในผู้ป่วยบางราย โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ยาไนเตรทสำหรับโรคหัวใจ
- ฮอร์โมนบำบัด (Testosterone Replacement Therapy: TRT): สำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่ำ แพทย์อาจพิจารณาให้ฮอร์โมนเสริม ซึ่งมีทั้งแบบยาฉีด ยาทา (เจลหรือครีม) แผ่นแปะผิวหนัง หรือยาฝังใต้ผิวหนัง การรักษานี้สามารถช่วยเพิ่มความต้องการทางเพศและปรับปรุงการแข็งตัวได้
ข้อควรระวัง: ใช้เฉพาะในกรณีที่ได้รับการตรวจยืนยันว่า มีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่ำจริง และอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจมีผลข้างเคียงและข้อห้ามใช้
- การฉีดยาเข้าองคชาติ (Intracavernosal Injection): เป็นการฉีดยาโดยตรงเข้าไปในเนื้อเยื่อขององคชาติ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการแข็งตัว โดยยาที่ใช้บ่อย คือ Alprostadil (Prostaglandin E1) ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ที่ช่วยขยายหลอดเลือด ยาจะทำให้หลอดเลือดในองคชาติขยายตัว เลือดไหลเข้าได้มากขึ้น ทำให้เกิดการแข็งตัวภายในไม่กี่นาที ข้อดีของการรักษาด้วยวิธีนี้คือ ยาสามารถออกฤทธิ์ได้รวดเร็วและมักได้ผลดีในผู้ที่ไม่ตอบสนองต่อยากิน
ข้อควรระวัง: ต้องเรียนรู้วิธีการฉีดอย่างถูกต้องจากแพทย์ อาจมีอาการปวด หรือการแข็งตัวที่นานเกินไป (Priapism) ซึ่งต้องรีบมาพบแพทย์
- การใช้เครื่องสุญญากาศ (Vacuum Erection Devices: VED): เป็นอุปกรณ์ภายนอกที่ช่วยให้องคชาติแข็งตัวได้โดยไม่ต้องใช้ยา โดยแพทย์จะใช้กระบอกพลาสติกครอบองคชาติ แล้วปั๊มอากาศออกเพื่อสร้างสุญญากาศ ทำให้เลือดไหลเข้าไปในองคชาติ เมื่อแข็งตัวแล้วจะใช้ห่วงยางรัดที่โคนองคชาติเพื่อคงการแข็งตัวไว้ การรักษาด้วยวิธีนี้มีข้อดีคือ ปลอดภัย ใช้งานง่าย และไม่เกี่ยวข้องกับยา
ข้อควรระวัง: อาจรู้สึกไม่สบาย เลือดคั่ง หรือชาที่องคชาติได้
- การใช้ยาเหน็บในท่อปัสสาวะ (Intraurethral Suppository) เป็นการสอดยาเม็ดเล็กๆ ที่มีส่วนผสมของ Alprostadil เข้าไปในท่อปัสสาวะ ยาจะถูกดูดซึมผ่านผนังท่อปัสสาวะเข้าสู่เนื้อเยื่อองคชาติ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการแข็งตัว การรักษาด้วยวิธีนี้มีข้อดีคือ ไม่ต้องฉีดยา
ข้อควรระวัง: อาจมีผลข้างเคียงเช่น ปวดองคชาติ ท่อปัสสาวะอักเสบ และประสิทธิภาพอาจไม่สูงเท่าการฉีด
- การรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่ต่ำ (Low-Intensity Extracorporeal Shockwave Therapy: LI-ESWT) เป็นวิธีการรักษาที่ค่อนข้างใหม่ โดยใช้คลื่นเสียงพลังงานต่ำไปกระตุ้นเนื้อเยื่อองคชาติ โดยเชื่อว่าคลื่นเสียงจะช่วยกระตุ้นการสร้างหลอดเลือดใหม่ (Neovascularization) ในองคชาติ ทำให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น ข้อดีของการรักษาด้วยวิธีนี้คือ ไม่เจ็บปวด ไม่ต้องใช้ยา และอาจให้ผลลัพธ์ในระยะยาว
ข้อควรระวัง: มักใช้ในผู้ป่วยที่มีปัญหาหลอดเลือด เป็นสาเหตุของภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศชาย
- การผ่าตัด เป็นทางเลือกสุดท้ายเมื่อวิธีการรักษาอื่นๆ ไม่ได้ผล หรือมีสาเหตุทางกายภาพที่แก้ไขได้ด้วยการผ่าตัด โดยมีหลากหลายเทคนิค ดังนี้
- การใส่แกนองคชาติเทียม (Penile Prosthesis Implantation): เป็นการผ่าตัดฝังอุปกรณ์เทียมเข้าไปในองคชาติ มีทั้งแบบที่สามารถเป่าลมให้แข็งตัวได้ (Inflatable) และแบบที่ดัดโค้งได้ (Malleable) ข้อดีของการรักษาด้วยวิธีนี้คือ ให้ผลลัพธ์ที่ถาวรและควบคุมการแข็งตัวได้ตามต้องการ เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่รักษาด้วยวิธีอื่นไม่ได้ผล หรือมีภาวะที่รุนแรง
- การผ่าตัดแก้ไขภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศจากปัญหาหลอดเลือด (Vascular Surgery): เป็นการผ่าตัดที่ซับซ้อน มักทำในผู้ป่วยอายุน้อยที่ได้รับบาดเจ็บหรือมีปัญหาหลอดเลือดเฉพาะจุด โดยมีจุดประสงค์เพื่อแก้ไขการไหลเวียนเลือดเข้าหรือออกจากองคชาติ อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ไม่ได้เป็นวิธีการที่ใช้บ่อยนัก และต้องประเมินอย่างละเอียด
- การผ่าตัดแก้ไของคชาติเอียง (Peyronie’s Disease Surgery): เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะองคชาติโค้งงอผิดปกติเมื่อแข็งตัว ซึ่งอาจทำให้เจ็บปวดและเป็นสาเหตุของภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ การผ่าตัดจะช่วยยืดองคชาติให้ตรงขึ้น
- การผ่าตัดแก้ไขอวัยวะเพศไม่แข็งตัวเต็มที่ ด้วยโปรแกรม Botox และ PRP: เป็นการรักษาที่ช่วยปรับปรุงการแข็งตัวของอวัยวะเพศ ผ่านการใช้สาร Botox และ Platelet-Rich Plasma (PRP) เพื่อกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อและเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในองคชาติ
- การผ่าตัดแก้ไของคชาติฝังใน (Repair Buried Penis): เป็นการผ่าตัดเพื่อแก้ไขภาวะที่องคชาติถูกดึงรั้งเข้าไปภายในร่างกาย ทำให้ดูเหมือนมีขนาดเล็กหรือไม่มีองคชาติภายนอก ซึ่งส่งผลต่อการมีเพศสัมพันธ์และสุขอนามัย
- การผ่าตัดเพิ่มขนาดและเสริมอวัยวะเพศชาย (Penile Augmentation/Enlargement):เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มขนาด หรือแก้ไขรูปทรงขององคชาติ ซึ่งอาจรวมถึงการผ่าตัดยืดเอ็นที่ยึดองคชาติ การใช้เนื้อเยื่อเสริม หรือการฉีดสารเติมเต็มต่างๆ
อยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหย่อนสมรรถภาพทุกวิธี หรือต้องการปรึกษากับคุณหมอเฉพาะทาง พร้อมทราบราคาในเบื้องต้น ทักหาแอดมิน HDcare ได้เลย เราพร้อมตอบคำถามที่คุณสงสัย ให้คุณสบายใจที่สุดเมื่อเข้ารับเข้าปรึกษา คลิกที่นี่ได้เลย
ข้อควรรู้สำหรับการรักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
- ปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง: สิ่งสำคัญที่สุดคือ การปรึกษาแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะ (Urologist) หรือแพทย์ผู้ชำนาญการด้านสุขภาพเพศชาย (Andrologist) เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริงและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
- หลีกเลี่ยงการรักษาด้วยตัวเอง: โดยเฉพาะการซื้อยาเสริมสมรรถภาพทางเพศจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ เพราะอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
- อดทนและให้เวลากับการรักษา: การรักษาบางวิธีอาจต้องใช้เวลาและผู้ป่วยต้องมีความสม่ำเสมอในการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ นอกจากนี้ควรเปิดใจพูดคุยกับคู่รัก เพราะจะช่วยลดความเครียดและความกังวล ซึ่งส่งผลดีต่อผลลัพธ์การรักษา
แม้ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศจะดูน่ากังวล แต่หากได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ร่วมกับการปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการ ก็สามารถฟื้นฟูสุขภาพทางเพศและคุณภาพชีวิตได้อีกครั้ง
เริ่มรู้สึกว่าความต้องการทางเพศไม่เหมือนเดิม ต้องรักษาด้วยวิธีไหนดี? วิธีไหนเสี่ยงน้อย แต่ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด? นัดคุยกับคุณหมอเฉพาะทาง ผ่านทีม HDcare สะดวกรวดเร็ว ทันใจ หรือค้นหาแพ็กเกจรักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศชาย จาก รพ. หรือคลินิกใกล้คุณได้ทันที คลิกที่นี่เลย