แปลงเพศหญิงเป็นชายคืออะไร?

หลายคนเกิดมาด้วยความรู้สึกอึดอัดใจที่ไม่ได้ “เป็นผู้ชาย” อย่างที่ใจต้องการ ถึงแม้จะพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองให้คล้ายกับผู้ชายมากแค่ไหน ตัดผมสั้นก็แล้ว รัดหน้าอก แต่งตัวแมนๆ ก็ทำแล้ว แต่ก็รู้สึกยังไม่ใช่อยู่ดี

บางที “การแปลงเพศ หรือการผ่าตัดแปลงเพศหญิงเป็นชาย” คือ ทางออกของปัญหานี้ได้

HDmall.co.th จะพาไปดูว่า เพราะอะไรการแปลงเพศ หรือผ่าตัดแปลงเพศหญิงเป็นชาย จึงน่าจะเป็นทางออกของปัญหานี้

การแปลงเพศหญิงเป็นชาย คืออะไร?

การแปลงเพศหญิงเป็นชาย เป็นกระบวนการรักษาที่สำคัญสำหรับผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่า มีภาวะ “GD (Gender dysphoria)” หรือ เป็นผู้ทีไม่มีความสุขกับสรีระทางเพศแต่กำเนิดอย่างรุนแรง ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

  • ต้องการเป็นเพศตรงกันข้ามไปตลอดชีวิต
  • มีลักษณะภายนอกที่ตรงกันข้ามกับเพศทางพันธุกรรม
  • มีความรู้สึกเกลียดชังอวัยวะเพศ และรูปลักษณ์แสดงเพศของตัวเอง
  • ไม่มีความรู้สึกชอบเพศเดียวกัน

หากสงสัยว่า ตนเองอาจเข้าข่ายภาวะ GD แนะนำให้พบจิตแพทย์เพื่อรับการตรวจประเมินสภาพจิตใจ จิตแพทย์จะให้คำแนะนำในการรักษาภาวะนี้ตามระดับความรุนแรงของอาการ เริ่มตั้งแต่

วิธีที่ 1 การใช้ชีวิตแบบเพศตรงข้าม

การทดลองปรับเปลี่ยนการแต่งกาย บุคลิกลักษณะ การใช้ชีวิตตามเพศที่ต้องการ การพันรัดปกปิดหน้าอกให้มิดชิด แต่หากยังไม่พอใจต้องเข้าสู่ขั้นตอนต่อการแปลงเพศต่อไป

วิธีที่ 2 การแปลงเพศโดยใช้ฮอร์โมนเพศตรงข้าม

ต้องการเปลี่ยนสรีระให้คล้ายคลึง หรือเหมือนเพศตรงข้ามโดยไม่ต้องผ่าตัดแปลงเพศ จำเป็นต้องได้รับการตรวจยืนยันสภาพจิตใจจากจิตแพทย์อย่างน้อย 2 ท่านด้วยกัน หากผลประเมินตรงกัน แนะนำให้ปรึกษาสูตินรีแพทย์เพื่อรับฮอร์โมนเพศตรงข้าม

ผลลัพธ์จากการรักษาด้วยวิธีนี้ราว 6 เดือน จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของสรีระได้ เช่น มีขนเพิ่มขึ้น มีหนวด เครา กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น ผิวหนังหยาบขึ้น เสียงใหญ่ขึ้น สะโพกผายลดลง

แต่หากยังไม่พอใจแค่ขั้นตอนนี้ ต้องเข้าสู่ขั้นตอนต่อการผ่าตัดแปลงเพศต่อไป

วิธีที่ 3 การผ่าตัดแปลงเพศ

เริ่มต้องการกำจัดอวัยวะเกี่ยวกับเพศหญิงออก เช่น หน้าอก มดลูก รังไข่ และเริ่มการสร้างอวัยวะเพศชาย ในขั้นสุดท้าย แนะนำให้ปรึกษาศัลยแพทย์ถึงขั้นตอนแปลงเพศต่างๆ เพื่อสอบถามเทคนิค ผลลัพธ์ ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น

ไม่ว่าจะต้องรักษาด้วยการรับฮอร์โมนเพศตรงข้าม หรือการผ่าตัดแปลงเพศ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องกระทำในระบบ ไม่ควรตัดสินใจเองโดยเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัยและผลัพธ์ที่พึงพอใจสูงสุด

การผ่าตัดแปลงเพศหญิงเป็นชาย มีกี่ขั้นตอน อะไรบ้าง?

การผ่าตัดแปลงเพศหญิงเป็นชายนั้นมีรายละเอียดที่ซับซ้อนมากกว่าการผ่าตัดแปลงเพศชายเป็นหญิงมาก เนื่องจากต้องมีทั้ง “การผ่าตัดอวัยวะเดิมออก” และ “การสร้างอวัยวะขึ้นใหม่”

ทั้งนี้เพื่อให้เข้าได้ง่าย ในบทความนี้จะเรียงลำดับขั้นตอนการผ่าตัดแปลงเพศหญิงเป็นชายจากง่ายไปยากที่สุด ดังนี้

  • ขั้นที่ 1 การผ่าตัดตัดหน้าอกออก
  • ขั้นที่ 2 การผ่าตัดมดลูกและรังไข่ออก
  • ขั้นที่ 3 การเย็บปิดช่องคลอดและเตรียมยืดท่อปัสสาวะ
  • ขั้นที่ 4 การเตรียมสร้างท่อปัสสาวะบริเวณเนื้อเยื่อที่ต้องการ
  • ขั้นที่ 5 การย้ายเนื้อเยื่อเพื่อสร้างอวัยวะเพศชาย

การผ่าตัดตัดหน้าอกออก คืออะไร?

วิธีนี้เพื่อให้หน้าอกแบนราบเหมือนผู้ชาย บางรายอาจต้องการผ่าตัดหัวนมและปานนมให้มีรูปร่างคล้ายของผู้ชาย มีขนาดที่เหมาะสมรวมทั้งอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม

หากต้องการจบกระบวนการผ่าตัดแปลงเพศเพียงเท่านี้ก็สามารถทำได้ แต่หากต้องการ “ไปต่อ” ก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยจำเป็นต้องเข้ารับคำปรึกษา การตรวจร่างกายจากสูตินรีแพทย์ก่อน

การผ่าตัดมดลูกและรังไข่ออก คืออะไร?

วิธีนี้เพื่อยุติการทำงานของแหล่งผลิตฮอร์โมนเพศหญิง เนื่องจากการรับฮอร์โมนเพศตรงข้ามเป็นเวลานานจะทำให้รังไข่ทำงานน้อยลงๆ จนประจำเดือนขาดและหายไปในที่สุด ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาและไม่ต้องการมีลูก จึงควรผ่าตัดมดลูกและรังไข่ออก

หากต้องการจบกระบวนการผ่าตัดแปลงเพศเพียงเท่านี้ก็สามารถทำได้ แต่หากต้องการ “ไปต่อ” ก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยจำเป็นต้องเข้ารับคำปรึกษา การตรวจร่างกายจากสูตินรีแพทย์ก่อน

การเย็บปิดช่องคลอดและเตรียมยืดท่อปัสสาวะ คืออะไร?

วิธีนี้เพื่อยุติหน้าที่ของช่องคลอด และยืดท่อปัสสาวะออกมาให้ยาวขึ้น เพื่อเตรียมต่อกับอวัยวะเพศชายที่จะสร้างขึ้นในขั้นต่อไป

หากต้องการจบกระบวนการผ่าตัดแปลงเพศเพียงแค่เย็บปิดช่องคลอดก็สามารถทำได้ แต่หากต้องการ “ไปต่อ” ก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยจำเป็นต้องเข้ารับคำปรึกษาจากศัลยแพทย์ก่อน

การเตรียมสร้างท่อปัสสาวะบริเวณเนื้อเยื่อที่ต้องการ คืออะไร?

วิธีนี้จะเลือกเนื้อเยื่อส่วนที่ต้องการสำหรับสร้างอวัยวะเพศชาย เช่น เนื้อบริเวณน่อง เนื้อแผ่นหลัง เนื้อท่อนแขน

เมื่อเลือกเนื้อเยื่อส่วนที่ต้องการได้แล้ว ศัลยแพทย์จะต้องฝังท่อยางขนาดที่ต้องการลงไปในเนื้อเยื่อนั้น เพื่อเตรียมไว้รองรับท่อปัสสาวะจริงในขั้นตอนต่อไป

การย้ายเนื้อเยื่อ เพื่อสร้างอวัยวะเพศชาย คืออะไร?

สำคัญที่สุดปิดท้ายการผ่าตัดแปลงเพศผู้หญิงเป็นผู้ชาย โดยการผ่าตัดเนื้อเยื่อส่วนที่เตรียมท่อปัสสาวะไว้ นำมาเย็บขึ้นรูปเป็นอวัยวะเพศชาย และเชื่อมต่อกับท่อปัสสาวะจากร่างกาย

เมื่อขั้นตอนนี้แล้วเสร็จ แผลหายดี ผู้เข้ารับบริการจะสามารถยืนปัสสาวะได้แบบผู้ชาย เพราะปัสสาวะจะพุ่งเป็นลำได้ ไม่เลอะเทอะ

ส่วนการจะทำให้อวัยวะเพศชายมีลักษณะคล้ายคลึงธรรมชาติ มีเส้นประสาทรับรู้ความรู้สึกเมื่อได้รับการกระตุ้นทางเพศ รวมทั้งสามารถแข็งตัวใช้ในกิจกรรมทางเพศได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของศัลยแพทย์

ทั้งนี้การผ่าตัดแต่ละขั้นตอนต้องรอให้แผลหายดี ร่างกายฟื้นตัว สุขภาพแข็งแรง โดยทั่วไปจะเว้นระยะสำหรับขั้นตอนต่อไปประมาณ 3-6 เดือน

หากผู้เข้ารับบริการเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศตลอดทั้งกระบวนการ จะใช้ระยะเวลาประมาณ 1.5 ปี -2 ปี หากไม่มีภาวะแทรกซ้อน หรือความผิดปกติใดๆ เกิดขึ้นในแต่ละขั้นตอน

จะเห็นได้ว่า กระบวนการแปลงเพศหญิงเป็นชาย หรือการผ่าตัดแปลงเพศหญิงเป็นชาย มีหลายขั้นตอน และจะเพิ่มความซับซ้อนมากยิ่งขึ้นในขั้นตอนท้ายๆ ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจทำอะไรไปจึงควรศึกษาหาข้อมูลให้ดี

ทั้งศัลยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ ทีมบุคลากรที่มีประสบการณ์ และสถานพยาบาลที่มีเครื่องมือทันสมัย ก่อนตัดสินใจ หรือถ้าจะให้ดีที่่สุดควรเริ่มจากการปรึกษาจิตแพทย์ เพื่อขอประเมินสภาพจิตใจและรับแนวทางการรักษาที่ถูกต้อง

Scroll to Top