คนส่วนมากมักมีอาการไวต่อการถูกยุงกัด เช่น เกิดผื่นแดง คัน มีตุ่มใส แต่ก็มีผู้ที่มีอาการแพ้ยุงรุนแรงที่อาจมีอาการมากกว่าอาการทั่วไป และอาจทำให้เป็นอันตรายได้ การเรียนรู้อาการแพ้ยุงที่เป็นอันตรายและวิธีดูแลตัวเองเมื่อเกิดอาการแพ้จึงเป็นสิ่งสำคัญ
สารบัญ
ทำไมถูกยุงกัดแล้วเกิดอาการแพ้
ช่วงเวลาที่ถูกยุงกัดมักเกิดในช่วงใกล้ค่ำ หรือย่ำรุ่ง เป็นช่วงเวลาที่ยุงตื่นตัวมากที่สุด โดยยุงตัวผู้ไม่เป็นอันตรายเพราะจะกินเฉพาะน้ำค้าง หรือน้ำเท่านั้น ในขณะที่ยุงตัวเมียจะกินเลือดเป็นอาหาร
ยุงตัวเมียจะหาเหยื่อด้วยการดมกลิ่น สัมผัสกับแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ที่หายใจออกมาและสารเคมีที่อยู่ในเหงื่อ เมื่อยุงตัวเมียพบเหยื่อแล้วก็จะไปเกาะที่ผิวหนังนอกร่มผ้าและดูดเลือด ทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นเกิดอาการนูน แดง และคันตามมา
อาการแพ้ยุงนั้นไม่ได้เกิดจากการถูกยุงตัวเมียกัดโดยตรง แต่เกิดจากปฏิกิริยาของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อโปรตีนที่อยู่ในน้ำลายยุง ในกรณีที่ปฏิกิริยาแพ้รุนแรง อาจแบ่งอาการแพ้ออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
- สกีตเตอร์ซินโดรม (Skeeter syndrome) ผู้ที่แพ้จะมีอากานทางผิวหนังรุนแรงร่วมกับมีไข้
- การแพ้ทั้งระบบ (systemic reaction) ผู้ที่แพ้จะมีอาการไข้สูง ต่อมน้ำเหลืองโต ปวดท้อง และ/หรือ ร่วมกับอาการท้องเสีย ในกรณีที่อาการรุนแรงมากอาจเกิดภาวะแพ้รุนแรงแบบ anaphylaxis ซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตได้
- การแพ้ที่เกิดขึ้นร่วมกับปัจจัยอื่น เช่น โรค Epstein-Barr virus-associated lymphoproliferative disease, Epstein-Barr virus-negative lymphoid malignancy, Eosinophilic cellulitis หรือ chronic lymphocytic leukemia
ลักษณะของอาการแพ้ยุง
ยิ่งถูกกัดบ่อยเท่าไหร ร่างกายของคนคนนั้นก็จะไวต่อยุงน้อยลงเรื่อยๆ นั่นหมายความว่า ผู้ใหญ่มักจะมีปฏิกิริยาต่อการถูกยุงกัดที่รุนแรงน้อยกว่าในเด็ก
อาการแพ้ยุงที่พบบ่อย ได้แก่ ตุ่มนูนที่ผิวหนังซึ่งอาจจะเป็นสีแดง และคัน โดยอาจเกิดได้ภายใน 48 ชั่วโมงหลังจากถูกกัด และต้องสัมผัสกับยุงนานกว่า 6 วินาที
อาการแพ้ยุงปานกลางถึงรุนแรง
- คันเป็นบริเวณกว้าง
- มีแผล
- มีรอยช้ำใกล้กับบริเวณที่ถูกกัด
- น้ำเหลืองอักเสบ
- ผื่นลมพิษ
หากมีอาการเหล่านี้ร่วมกับอาการบวมที่ปาก หรือลำคอ และหายใจมีเสียงวี๊ด นั่นคืออาการแพ้รุงแรง (Anaphylaxis) ที่ต้องได้รับการรักษาทันที เพราะอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
ผู้ป่วยที่มีอาการแพ้รุนแรงจะต้องได้รับการฉีดยาอีพิเนฟริน (Epinephrine) ทันที และให้รีบส่งตัวผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาล
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้คุณจะมีอาการแพ้รุนแรงอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ผื่นลมพิษ หรือคันเป็นบริเวณกว้าง ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจภูมิแพ้ การรู้ถึงระดับความรุนแรงของอาการแพ้ จะช่วยป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้
การถูกยุงกัดนั้นไม่ได้ทำให้เกิดอาการแพ้เพียงอย่างเดียว แต่ยุงยังเป็นพาหะนำโรครุนแรงหลายโรค เช่น
- มาลาเรีย
- ไข้เลือดออก
- ไข้สมองอักเสบ
- ไข้เหลือง (Yellow fever)
- ไข้เวสต์ไนล์ (West Nile Virus)
- เยื่อบุสมองอักเสบ
อาการที่บ่งบอกว่า คุณอาจจะเป็นโรคเหล่านี้ประกอบด้วย
- มีไข้
- ปวดหัวรุนแรง
- คลื่นไส้ หรืออาเจียน
- มีผื่น
- อ่อนเพลีย
- ไวต่อแสง
- สับสน
- มีความเปลี่ยนแปลงทางระบบประสาท เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรงด้านใดด้านหนึ่งของร่างกาย
หากคุณมีอาการเหล่านี้ควรไปพบแพทย์ทันที
ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการถูกยุงกัด
- ผู้ชาย
- สตรีมีครรภ์
- คนที่เป็นโรคอ้วน
- ผู้ที่มีเลือดกรุ๊ปโอ
- คนที่เพิ่งออกกำลังกาย
- ผู้ที่เพิ่งดื่มแอลกอฮอล์
วิธีการป้องกันการเกิดอาการแพ้ยุง
วิธีการป้องกันการเกิดอาการแพ้ยุงก็คล้ายกับโรคภูมิแพ้จากสาเหตุอื่นคือ หลีกเลี่ยงการสัมผัสสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการแพ้
แนะนำวิธีป้องกันการถูกยุงกัด
- ใส่เสื้อผ้าที่มีสีอ่อน เช่น เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ถุงเท้า อาจสวมหมวกปีกกว้าง
- กำจัดแหล่งน้ำขัง หรือน้ำนิ่งรอบๆ บ้าน
- ซ่อมแซมรูตามผนัง หรือหน้าต่าง
- จุดเทียนไล่ยุงเวลาอยู่กลางแจ้ง หรือไปตั้งแคมป์
- หากอยู่ในที่ที่เสี่ยงต่อการถูกยุงกัด ควรทายากันยุงด้วย อย่างไรก็ตาม ยากันยุงอาจทำให้เกิดอาการแพ้ที่ผิวหนังได้เช่นกัน จึงควรอ่านรายละเอียดก่อนใช้งาน
- หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้กับสถานที่ที่ยุงวางไข่ เช่น ริมแม่น้ำ หรือที่มืด โดยเฉพาะในช่วงเวลาพลบค่ำ และใกล้รุ่ง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ยุงตื่นตัวที่สุด
การรักษาอาการแพ้ยุง
หากมีแผลยุงกัดธรรมดา การใช้คาลาไมน์โลชั่น (Calamine lotion) หรือยาทาสเตียรอยด์ (เช่น Hydrocortisone cream) เพื่อบรรเทาอาการคันก็เพียงพอแล้ว นอกจากนี้คุณอาจประคบเย็น หรืออาบน้ำเย็น โดยไม่ใช้สบู่ร่วมด้วยก็ได้
แต่ถ้าหากมีอาการแพ้รุนแรง จะต้องใช้ยาฉีดอีพิเนฟรินแบบพกพาทันที ซึ่งผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่า มีอาการแพ้รุนแรง แพทย์จะสั่งยาฉีดอีพิเนฟรินให้พกติดตัวอยู่แล้ว
การแพ้ยุงรุนแรงพบได้ค่อนข้างน้อย แต่ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นนั้นอาจจะเป็นอันตรายถึงขั้นที่ต้องรับการรักษาในทันที หากคุณมีอาการแพ้รุนแรงอาจจะลองปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิแพ้โดยเฉพาะ
อาการแพ้ยุงทั่วไปนั้นไม่ได้ทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายระยะยาว การหลีกเลี่ยงสถานที่ที่ยุงชุกชุม จัดการที่อยู่อาศัยให้เหมาะสม และกำจัดแหล่งเพาะยุงภายในบ้าน ก็ไม่เป็นอันตรายแล้ว
ตรวจสอบความถูกต้องโดย นพ. ธนู โกมลไสย