เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ร่างกายจะสูญเสียปริมาณคอลลาเจน ไขมัน และไฮยาลูรอนิกแอซิดใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวหนังที่เคยเต่งตึงเริ่มหย่อนคล้อย และมีริ้วรอยตามวัย
เช่นเดียวกับส่วนอื่นๆ ของร่างกาย อวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกของเพศหญิงอย่างหัวหน่าว (Mons pubis) และแคมใหญ่ (Labia majora) ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน
ผู้หญิงหลายคนประสบปัญหาหัวหน่าวไม่เต่งตึง ห้อยย้อย มีริ้วรอย หรือรอยย่นผิดปกติ หรือแคมนอกมีขนาดไม่เท่ากัน เรียบแบน หรือเหี่ยวแฟบ แม้จะไม่มีอันตราย แต่ก็ส่งผลต่อความสวยงามและความมั่นใจได้
ในปัจจุบันมีวิธีรักษาทางการแพทย์หลายวิธีที่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ เช่น การฉีดไขมันตนเอง (Fat transfer) การฉีดสารเติมเต็ม (Dermal filler) และการเสริมเนื้อที่อวัยวะเพศหญิง
การเสริมเนื้ออวัยวะเพศหญิง คืออะไร?
การเสริมเนื้ออวัยวะเพศหญิง หรือการปลูกถ่ายเนื้อเยื่อที่อวัยวะเพศหญิง เป็นวิธีเพิ่มขนาดของแคมใหญ่ หรือที่เรียกว่า “แคมนอก” โดยใช้หนังแท้ติดไขมัน (Dermal fat graft) สอดแทรกเข้าไปในแคมใหญ่ ช่วยเพิ่มเนื้อของแคมใหญ่ให้หนาขึ้น และทำให้อวบอูมขึ้นได้
หนังแท้ติดไขมันนั้น ได้จากผิวหนังที่มีสุขภาพดี อาจได้จากผิวหนังบริเวณต้นขาด้านใน ผิวหนังบริเวณหน้าท้อง หรือใช้ผิวหนังส่วนเกินของแคมเล็กที่ยื่นออกมาก็ได้
การเสริมเนื้ออวัยวะเพศหญิง สามารถทำร่วมกับการผ่าตัดลดขนาดแคมเล็ก หรือการฉีดสารเติมเต็มเพื่อเพิ่มขนาดของอวัยวะเพศหญิงได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ผู้ทำการรักษาด้วย
ข้อดี-ข้อเสียของการเสริมเนื้ออวัยวะเพศหญิง คืออะไร?
ข้อดี
- อยู่ได้นานกว่าการฉีดไขมันตนเอง และการฉีดสารเติมเต็ม เนื่องจากเมื่อระยะเวลาผ่านไปจะเกิดพังผืดเข้ามาแทรกโพรงของเนื้อเยื่อที่เสริมเข้าไป
- สามารถใช้รักษาในผู้ที่เข้ารับการผ่าตัดขูดซิลิโคนเหลวที่แคมใหญ่ได้
ข้อเสีย
- เป็นการผ่าตัดใหญ่และมีขั้นตอนการรักษาที่ซับซ้อน จำเป็นต้องทำกับแพทย์ผู้มีความชำนาญการด้านการปลูกถ่ายผิวหนังโดยเฉพาะ
- เนื้อเยื่อที่ใช้ปลูกถ่ายมีโอกาสฝ่อ หรือกลายเป็นเนื้อร้ายได้
- มีโอกาสเกิดผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปในการผ่าตัด เช่น การติดเชื้อ เลือดออก หรือบวม ทำให้ต้องพักฟื้นนานกว่าการเพิ่มขนาดอวัยวะด้วยวิธีอื่นๆ
การเพิ่มขนาดอวัยวะเพศหญิงนั้น มีหลายวิธี แต่ละวิธีจะมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป เพื่อความปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ของการรักษาที่มีประสิทธิภาพ ควรเลือกทำกับแพทย์ผู้ชำนาญการ และโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน น่าเชื่อถือ