มีหลายคนที่ขาดการเตรียมตัวก่อนทำการเสริมหน้าอก จึงทำให้ต้องผลัดวัน ยกเลิกการเสริมหน้าอก ไปจนถึงการต้องผ่าตัดแก้ไข ปัญหาทั้งหมดนี้มีส่วนมาจากการวางแผนเตรียมตัวเสริมหน้าอกที่ไม่ดี จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมก่อนไปผ่าตัดเสริมหน้าอกถึงต้องศึกษาและเตรียมตัวเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด
การเตรียมตัวก่อนเสริมหน้าอก
การเสริมหน้าอกด้วยวิธีการใส่ซิลิโคน ถือเป็นการผ่าตัดใหญ่ที่ต้องใช้ยาสลบ ดังนั้นจึงต้องอาศัยการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเสริมด้วย โดยข้อควรปฎิบัติมีดังนี้
- ปรึกษากับศัลยแพทย์เพื่อแจ้งความต้องการและวางแผนการเสริมหน้าอก
- สิ่งที่จำเป็นต้องแจ้งกับศัลยแพทย์ คือ โรคประจำตัวที่เป็น ยาที่ใช้ อาหารเสริม (ทั้งสมุนไพรและสารสังเคราะห์ต่างๆ) และสำคัญที่สุดคือหากมีแผนกำลังจะมีบุตรให้แจ้งกับศัลยแพทย์ด้วย
- เมื่อแจ้งความต้องการกับศัลยแพทย์แล้ว ส่วนมากมักต้องมีการตรวจแมมโมแกรม (Mammogram) หรือเอ็กซเรย์ (X-ray) เพิ่มเติม เพื่อใช้ประกอบการวางแผนและคำแนะนำในการเลือกประเภทการเสริมหน้าอก
- เมื่อทราบวันนัดผ่าแล้ว ควรจัดการงานบ้านที่ต้องทำเอาไว้ล่วงหน้า เพื่อให้หลังจากวันผ่าจะได้พักฟื้นอย่างเต็มที่ เพราะไม่ว่าจะเสริมหน้าอกแบบใดก็ยังไม่สามารถกลับมาทำกิจวัตรประจำวันได้ทันทีแน่นอน
- ควรนัดแนะคนใกล้ตัวสำหรับขับรถพากลับหลังจากเสริมหน้าอก เพราะอาจยังไม่ฟื้นจากยาชาเต็มที่ ไม่สามารถขับรถได้
- ก่อนถึงวันนัดผ่า อาจต้องงดยาบางประเภท เช่น แอสไพริน (Aspirin) ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) วาร์ฟารีน (Warfarin) หรือยาอื่นๆ ที่อาจส่งผลให้เลือดแข็งตัวได้ยาก
- สิ่งสำคัญคือต้องงดบุหรี่ทั้งก่อนและหลังจากเสริมหน้าอกอย่างน้อย 4 สัปดาห์ เพราะอาจมีผลต่อการผ่าตัดจนกระทั่งพักฟื้น ผู้ใช้บริการหลายคนอาจต้องเลื่อนวันนัดเสริมหน้าอกเพราะเผลอสูบบุหรี่
- ศัลยแพทย์อาจห้ามกินอาหารในคืนก่อนที่จะถึงวันนัดเสริมหน้าอก ดื่มน้ำได้เพียงเล็กน้อย
- เมื่อถึงวันนัด ให้ใส่เสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย ใส่ง่ายๆ ไม่ต้องสวมจากด้านบน เช่น เสื้อที่ใช้กระดุมหรือซิป
บางกรณีแพทย์ผู้ดูแลการรักษาโรคประจำตัว หรือศัลยแพทย์อาจมียาเฉพาะให้กินก่อนการผ่าตัด เพื่อหลีกเลี่ยงตัวยาที่อาจมีผลต่อการผ่าตัด ดังนั้นนอกจากจะแจ้งกับศัลยแพทย์โดยละเอียดแล้ว ควรแจ้งกับแพทย์ผู้ดูแลโรคอื่นๆ ด้วย