การเอกซเรย์ฟัน กระบวนการสำคัญเพื่อให้คุณหมอมองเห็นโครงสร้างฟันทั้งหมด

การตรวจฟันผ่านการดูด้วยตาเปล่าอาจไม่เพียงพอที่จะเห็นความผิดปกติของฟันทุกซี่ได้ หลายครั้งที่ลองส่องกระจกดูแล้วไม่พบว่ามีสิ่งผิดปกติใดๆ แต่แท้จริงแล้วเมื่อทันตแพทย์เอกซเรย์ฟันออกมา กลับเห็นตำแหน่งที่ฟันผุซ่อนอยู่

ในหลายๆ ครั้งที่ไปทำทันตกรรม ทันตแพทย์จะขอให้ผู้เข้ารับบริการเข้าเอกซเรย์เพื่อให้เห็นภาพโครงสร้างฟันทั้งหมดทั้งที่เห็นจากภายนอกและที่อยู่ภายใต้เหงือกอย่างชัดเจน

เอกซเรย์ฟันคืออะไร?

การเอกซเรย์ฟัน (Dental X-ray) คือ อีกหนึ่งกระบวนการตรวจดูสุขภาพฟันและหาความผิดปกติของฟันทุกซี่อย่างละเอียด ผ่านการถ่ายภาพรังสีเพื่อให้แพทย์ได้เห็นภาพโครงสร้างของฟันตั้งแต่ส่วนที่พ้นจากเหงือกและอยู่ใต้เหงือก รวมถึงไว้สำหรับเก็บเป็นข้อมูลประวัติสุขภาพฟันของผู้เข้ารับบริการ

เอกซเรย์ฟันช่วยอะไรได้

การเอกซเรย์ฟันจะช่วยให้ทันตแพทย์ได้มีข้อมูลในการตรวจวินิจฉัยหรือวิเคราะห์แนวทางการรักษาความผิดปกติของฟันได้อย่างละเอียด เพราะการตรวจดูฟันด้วยตาเปล่านั้นยังไม่เพียงพอต่อการออกแบบแผนการรักษาโรคหรือภาวะเกี่ยวกับฟันได้

โดยตัวอย่างการทำทันตกรรมที่สามารถใช้ฟิล์มเอกซเรย์ฟันเข้ามาเป็นตัวช่วยในการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาฟันได้ ได้แก่

  • การผ่าหรือถอนฟันคุด
  • การรักษาฟันผุแบบด้านประชิด
  • การทำรากฟันเทียม
  • การรักษาคลองรากฟัน
  • การรักษาโรคปริทันต์อักเสบ
  • บริการจัดฟันทุกรูปแบบ

เอกซเรย์ฟันมีกี่ประเภท?

บริการเอกซเรย์ฟันในแต่ละคลินิกหรือศูนย์ทันตกรรมจะแตกต่างกันไปตามเครื่องมือที่มีหรือการพิจารณาประเภทของการเอกซเรย์ที่ต้องการใช้จากทันตแพทย์ แต่โดยทั่วไปการเอกซเรย์ฟันจะแบ่งออกได้ 5 ประเภท ได้แก่

1. X-ray Panoramic

X-ray Panoramic เป็นการเอกซเรย์ที่จะให้ภาพถ่ายเหมือนกับการคลี่แนวฟันในช่องปากที่โค้งเป็นตัว U ให้กลายเป็นภาพแถวฟันแบบแนวนอน ทันตแพทย์จะสามารถเห็นฟันได้ทุกซี่ตั้งแต่ส่วนที่พ้นเหงือก ที่อยู่ใต้เหงือก ไปจนถึงกระดูกขากรรไกรทั้งบนและล่าง รากฟัน ความยาวของฟันทั้งหมด วัสดุที่ใช้อุดหรือรักษาฟันในอดีต ส่วนมากหลายคนมักคุ้นเคยในฐานะฟิล์มที่ใช้พิจารณาการถอนหรือผ่าฟันคุด

2. X-ray Cephalometric

X-ray Cephalometric เป็นการเอกซเรย์แบบ 2 มิติที่จะให้ภาพกระโหลกศีรษะด้านหน้าและด้านข้าง เพื่อให้ทันตแพทย์เห็นลักษณะการสบของฟันบนและล่าง ลักษณะกระดูกขากรรไกรที่เห็นได้จากด้านข้าง มักใช้เพื่อพิจารณาแผนการจัดฟัน

3. X-ray Bitewing

X-ray Bitewing เป็นการเอกซเรย์ที่เห็นภาพฟันตั้งแต่ส่วนที่โผล่พ้นเหงือกไปจนถึงรากเช่นกัน แต่จะอยู่ในระยะใกล้ขึ้น ทำให้สามารถเห็นมิติของโครงสร้างภายในของฟันได้ชัดเจนกว่าเดิม มักใช้เป็นข้อมูลในการรักษาโรคฟันผุ หรือเพื่อตรวจดูวัสดุอุดฟัน วัสดุบูรณะฟัน หรือวัสดุปิดโพรงฟันชิ้นเดิม

4. X-ray Occlusal

X-ray Occlusal เป็นการเอกซเรย์ที่จะให้ภาพแถวฟันพร้อมเพดานปากแบบตัว U เหมือนกับการถ่ายภาพฟันจากด้านบนหรือด้านล่าง ไม่ใช่ด้านหน้าเหมือนฟิล์มเอกซเรย์ฟันแบบอื่น มักใช้เพื่อวินิจฉัยและรักษาปัญหาฟันคุด ฟันฝัง หรือตรวจหาความผิดปกติตรงฟันหน้า กระดูกขากรรไกรหน้าของขากรรไกรบน

5. X-ray Periapical

X-ray Periapical เป็นการเอกซเรย์ที่ให้ภาพเน้นหนักไปที่ตัวฟันจนถึงปลายรากฟัน จึงมักใช้เพื่อตรวจวินิจฉัยความผิดปกติที่รากฟันและโครงสร้างของกระดูกโดยรอบทั้งหมด

เอกซเรย์ฟันนานไหม?

โดยทั่วไปการเอกซเรย์ฟันจะใช้เวลาไม่เกิน 5-10 นาทีก็เสร็จ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนฟิล์มเอกซเรย์ และแนวทางการเอกซเรย์ที่แพทย์พิจารณาให้ถ่ายด้วย

เอกซเรย์ฟันเจ็บไหม?

การเอกซเรย์ฟันไม่ได้ได้สร้างความรู้สึกเจ็บแต่อย่างใด แต่อาจมีความรู้สึกตื่นเต้นหรือไม่คุ้นชินกับอุปกรณ์ที่ต้องกัดหรือใส่ไว้ในช่องปากระหว่างการเอกซเรย์บ้าง

ควรเอกซเรย์ฟันบ่อยแค่ไหน?

หากผู้เข้ารับบริการไม่ได้มีความผิดปกติใดๆ เกี่ยวกับฟัน การเอกซเรย์ฟันทุกๆ 6-18 เดือน ก็เพียงพอต่อการตรวจดูความคืบหน้าของสุขภาพฟันแล้ว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการให้คำแนะนำของทันตแพทย์

แต่หากผู้เข้ารับบริการอยู่ในช่วงเวลาของการรักษาหรือการวินิจฉัยความผิดปกติเกี่ยวกับฟัน ทันตแพทย์ก็อาจพิจารณาให้เอกซเรย์ฟันตามโอกาสที่เห็นสมควร ซึ่งก็อาจถี่กว่าการตรวจเอกซเรย์ฟันทั่วไปได้

รังสีที่เอกซเรย์ฟันอันตรายไหม?

การเอกซเรย์ฟันย่อมทำให้เกิดรังสีที่ปนเปื้อนร่างกายได้ แต่โดยทั่วไปปริมาณรังสีที่ใช้ในการเอกซเรย์ฟันจะอยู่ในระดับที่ต่ำมาก และปลอดภัยต่อสุขภาพของทั้งเด็กและผู้ใหญ่

นอกจากนี้ในทุกครั้งที่เอกซเรย์ฟัน ทางสถานพยาบาลจะมีการจัดเตรียมชุดป้องกันรังสีให้ผู้เข้ารับบริการใส่ทุกครั้งก่อนเอกซเรย์อยู่แล้ว ดังนั้นการเอกซเรย์ฟันจึงมีความปลอดภัยและไม่ได้ทำอันตรายใดๆ ต่อร่างกายผู้เข้ารับบริการ

อย่างไรก็ตาม หากผู้เข้ารับบริการมีโรคประจำตัวหรือกำลังตั้งครรภ์ จะต้องแจ้งประวัติสุขภาพกับทางคลินิกหรือศูนย์ทันตกรรมก่อนรับบริการเอกซเรย์ เพื่อให้ทันตแพทย์ช่วยพิจารณาความเหมาะสมและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้จากการเอกซเรย์ฟัน

การเตรียมตัวก่อนเอกซเรย์ฟัน

โดยทั่วไปก่อนเริ่มเอกซเรย์ฟัน ผู้เข้ารับบริการไม่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ เพียงแปรงฟันก่อนเดินทางมารับบริการ แจ้งประวัติด้านสุขภาพกับทางเจ้าหน้าที่หรือทันตแพทย์เสียก่อน และจะต้องถอดเครื่องประดับทุกชิ้นที่เป็นโลหะ รวมถึงอุปกรณ์คงสภาพฟันในช่องปากที่ถอดได้ออกก่อนเอกซเรย์

ขั้นตอนการเอกซเรย์ฟัน

ขั้นตอนการเอกซเรย์ฟันจะแตกต่างกันไปตามลักษณะตัวเครื่องที่ใช้ในการเอกซเรย์ แต่โดยหลักๆ สิ่งที่จะเกิดขึ้นในห้องเอกซเรย์ อาจมีดังนี้

  1. เริ่มต้นจากทางเจ้าหน้าที่ใส่ชุดป้องกันรังสีให้กับผู้เข้ารับบริการ จากนั้นพาผู้เข้ารับบริการไปยืนหรือนั่งที่ตำแหน่งของเครื่องเอกซเรย์อย่างเหมาะสม
  2. ผู้เข้ารับบริการอาจต้องกัดหรืออมอุปกรณ์ประกอบการถ่ายภาพฟิล์มเอกซเรย์เอาไว้ในช่องปากด้วย ส่วนมากจะเป็นแผ่นคล้ายกับพลาสติกบางๆ หรือเป็นแท่นขนาดเล็กที่จะเชื่อมติดอยู่กับเครื่องเอกซเรย์
  3. จากนั้นให้ยืนหรือนั่งนิ่งๆ ให้เครื่องเอกซเรย์ถ่ายภาพฟัน เจ้าหน้าที่จะยืนควบคุมเครื่องอยู่จากด้านนอกห้องเอกซเรย์
  4. เมื่อเอกซเรย์เสร็จ เจ้าหน้าที่ก็จะกลับเข้ามาถอดเสื้อกันรังสีให้ เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการเอกซเรย์ฟัน

การเอกซเรย์ฟันเป็นกระบวนการง่ายๆ ที่สามารถช่วยให้ทันตแพทย์ได้ตรวจดูสุขภาพช่องปากของเราได้อย่างละเอียด และยังช่วยวางแผนการดูแลรักษาฟันของเราได้อย่างรอบคอบรัดกุมมากขึ้น


เช็กราคาแพ็กเกจตรวจเอกซเรย์ฟัน

Scroll to Top