อาการเล็บม่วง เป็นหนึ่งในอาการที่อยู่ในกลุ่มอาการตัวเขียว (Cyanosis) ซึ่งมักเกิดจากระดับเซลล์เม็ดเลือดแดงที่น้อยลง หรือมีระดับออกซิเจนต่ำ จนทำให้ผิวหนัง หรือชั้นเยื่อบุใต้ผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีม่วง-น้ำเงิน ซึ่งสามารถบ่งชี้ได้ถึงการที่มีฮีโมโกลบินที่ผิดปกติในเลือดสูง
นอกจากนี้ อุณหภูมิหนาวเย็นยังสามารถทำให้นิ้วมือเปลี่ยนเป็นสีม่วงได้เช่นกัน เนื่องจากอากาศเย็นจะทำให้หลอดเลือดหดตัวจนไปจำกัดการไหลเวียนของเลือดลง ทำให้เลือดที่อุดมไปด้วยออกซิเจนไหลไปเลี้ยงเล็บน้อยกว่าเดิม แต่หากคุณลองนวด ปรับเครื่องปรับอากาศ หรืออบอุ่นร่างกายให้อุ่นขึ้นแล้ว แต่เล็บมือก็ยังคงเป็นสีม่วงอยู่ อาจเกิดจากโรค หรือความผิดปกติทางโครงสร้างอื่นๆ ที่รบกวนการขนส่งออกซิเจนของร่างกาย
สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเล็บม่วง
การที่เล็บเปลี่ยนเป็นสีม่วง หรือสีเขียว อาจเกิดจากความผิดของปอด หัวใจ เซลล์เม็ดเลือด หรือหลอดเลือด โดยมีรายละเอียดดังนี้
- โรคที่เกิดกับปอด
- โรคถุงลมโป่งพอง (Emphysema) หรือโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง (Chronic Bronchitis)
- โรคหอบหืด (Asthma)
- กลุ่มอาการหายใจลำบากในทารกแรกเกิดแบบเฉียบพลัน (Respiratory Distress Syndrome)
- โรคปอดบวม (Pneumonia)
- โรคลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด (Pulmonary Embolism)
- โรคที่เกิดกับหัวใจ
- โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด (Congenital Heart Disease)
- กลุ่มอาการไอเซนเมนเกอร์ (Eisenmenger’s syndrome) ภาวะแทรกซ้อนระยะหลังจากโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด
- ภาวะแน่นหน้าอก หรือภาวะหัวใจล้มเหลว (Congestive Heart Failure)
- โรคที่เกิดกับเซลล์เม็ดเลือด
- ภาวะเมทฮีโมโกลบินในเลือด (Methemoglobinemia)
- การได้รับพิษคาร์บอนมอนออกไซด์ (Carbon Monoxide Poisoning)
- โรคเลือดข้น (Polycythemia Vera) เกิดจากการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงมากเกินไป
- โรคที่เกิดกับหลอดเลือด
- ปรากฏการณ์เรย์เนาด์ (Raynaud’s Phenomenon) เกิดจากหลอดเลือดที่มือและเท้าบีบรัดตัวอย่างไม่ถูกต้อง
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มอาการอื่นๆ ที่สามารถทำให้เกิดอาการเล็บม่วงได้อีก เช่น
- อาการจากโรคภูมิแพ้ โดยเฉพาะอาการภูมิแพ้เฉียบพลันรุนแรง
- อาการติดเชื้อไวรัส เช่น เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่
- อาการฝากล่องเสียงอักเสบ (Epiglottitis)
- การอยู่บนเครื่องบินซึ่งมีระดับออกซิเจนต่ำ
- ภาวะเลือดข้น (polycythaemia)
- ภาวะโลหิตจางกลุ่มที่มีฮีโมโกลบินผิดปกติ (Abnormal. hemoglobin anemia)
- เกิดอาการชัก (seizure) นานผิดปกติ
การวินิจฉัย และการรักษาอาการเล็บม่วง
หากพบอาการเล็บม่วง ร่วมกับภาวะหายใจลำบาก เจ็บหน้าอก เหงื่อท่วม เวียนหัว หรือหมดสติ ให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน
แพทย์อาจวินิจฉัยภาวะเล็บม่วงด้วยการใช้วิธี “วัดความอิ่มตัวออกซิเจนในชีพจร (Pulse Oximeter)” ซึ่งเป็นวิธีการวัดระดับออกซิเจนในเลือดที่ง่ายที่สุด โดยจะมีวิธี Arterial Blood Gases (ABGs) วัดปริมาณออกซิเจนเพื่อชี้ชัดว่า ปัจจัยใดที่ส่งผลให้เกิดอาการเล็บม่วงขึ้น
ส่วนการรักษาที่มีจะขึ้นอยู่กับการตรวจหาสาเหตุต้นตอ เพื่อให้เกิดแก้ไขให้เลือดมีออกซิเจนกลับมาตามที่ควรเป็นที่เหมาะสมที่สุด