akram huseyn fKC9eWRnlGY unsplash 1 e1761016113972

ตรวจ Tumor Marker ตรวจเลือดเช็กความเสี่ยงโรคมะเร็ง ป้องกันไว้ ปลอดภัยกว่า

โรคมะเร็ง (Cancer) หนึ่งในโรคร้ายแรงที่พบได้ในคนทุกเพศ ทุกวัย และยังเป็นต้นเหตุของการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของคนทั่วโลกอีกด้วย

สิ่งที่น่ากังวลคือ มะเร็งเป็นโรคที่มักไม่แสดงอาการในระยะเริ่มต้น กว่าจะตรวจพบโรคก็ลุกลาม ทำให้การรักษาเป็นไปได้ยากขึ้น ซับซ้อนขึ้น ใช้ระยะเวลานานขึ้น รวมทั้งโอกาสหายขาดก็อาจลดลง

แต่ปัจจุบันมีการตรวจหาสารบ่งชี้มะเร็ง (Tumor Marker) ซึ่งเป็นการตรวจคัดกรองหาความเสี่ยงของโรคมะเร็งชนิดต่างๆ เพื่อช่วยให้แพทย์สามารถตรวจพบและวางแผนรักษาได้ตั้งแต่เนิ่นๆ

การตรวจ Tumor Marker คืออะไร สำคัญอย่างไร ตรวจโรคมะเร็งอะไรได้บ้าง แม่นยำมากน้อยแค่ไหน ใครควรตรวจ? บทความนี้เจาะลึกทุกรายละเอียดที่คุณควรรู้ เพื่อให้คุณอุ่นใจห่างไกลจากโรคมะเร็ง

การตรวจ Tumor Marker คืออะไร?

‘สารบ่งชี้มะเร็ง’ หรือหลายคนอาจคุ้นเคยในชื่อ ‘Tumor Marker’ คือสารที่ร่างกายหลั่งออกมาจากการตอบสนองต่อเซลล์มะเร็ง หรืออาจเกิดจากเซลล์มะเร็งหลั่งสารเหล่านี้ออกมาเอง พบได้ทั้งในเลือด ปัสสาวะ หรือสารคัดหลั่งต่างๆ ของร่างกาย โดยสารเหล่านี้จะแตกต่างกันไปตามชนิดของมะเร็งและระยะของโรค

การตรวจหาสารบ่งชี้มะเร็ง จึงเป็นการตรวจหาค่าความผิดปกติของสารเหล่านี้ในร่างกาย เพื่อใช้ในคัดกรองโรคมะเร็งชนิดต่างๆ ในเบื้องต้น และวางแผนการตรวจเพิ่มเติม หรือรักษาได้ทันท่วงที

การตรวจ Tumor Marker สำคัญอย่างไร จำเป็นต้องตรวจไหม?

เนื่องจากโรคมะเร็งหลายๆ ชนิด มักไม่มีอาการชัดเจนในระยะเริ่มต้น หรือบางครั้งอาจไม่แสดงอาการใดๆ เลย ผู้ป่วยโรคมะเร็งส่วนใหญ่จึงมาพบแพทย์ก็ต่อเมื่อโรคอยู่ในระยะท้ายๆ แล้ว ทำให้โอกาสรักษาให้หายขาดลดลง

การตรวจ Tumor Marker จะช่วยประเมินความเสี่ยงในเบื้องต้น ทำให้แพทย์สามารถประเมินความเสี่ยงวินิจฉัย คัดกรอง และพยากรณ์โรคมะเร็งได้เร็วขึ้น นอกจากนี้แพทย์ยังใช้ตรวจเพื่อติดตามผลการรักษา สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งที่กระบวนการรักษาเสร็จสิ้นแล้วด้วย

โรคมะเร็งยิ่งตรวจพบเร็วเท่าไหร่ โอกาสในการรักษาหายขาดก็สูงขึ้นเท่านั้น จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำคัญที่ช่วยลดอัตราการป่วย รวมทั้งเพิ่มอัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วยโรคมะเร็งได้

การตรวจ Tumor Marker เช็กความเสี่ยงโรคมะเร็งอะไรได้บ้าง ค่าปกติอยู่ที่เท่าไหร่?

การตรวจ Tumor Marker ไม่สามารถตรวจคัดกรองโรคมะเร็งได้ทุกชนิด แต่มะเร็งชนิดที่ตรวจคัดกรองได้ก็ถือเป็นชนิดที่พบได้บ่อย เช่น

โรคมะเร็ง สารบ่งชี้มะเร็ง ค่าปกติ ค่าผิดปกติ
โรคมะเร็งตับ AFP (Alpha-Fetoprotein) < 10 ng/ml > 200 ng/ml
โรคมะเร็งเต้านม CA 15-3 (Cancer Antigen 15-3) < 40 u/ml > 60 u/ml
โรคมะเร็งรังไข่/เยื่อบุโพรงมดลูก CA 125 (Cancer Antigen 125) < 35 u/ml > 50 u/ml
โรคมะเร็งลำไส้/ปอด CEA (Carcinoembryonic Antigen) < 5 ng/ml > 10 ng/ml
โรคมะเร็งตับอ่อน/ทางเดินน้ำดี  CA 19-9 (Cancer Antigen 19-9) < 35 u/ml > 100 u/ml
โรคมะเร็งกระเพาะอาหาร CA 72-4 (Cancer Antigen 72-4) < 6 u/ml > 30 u/ml
โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก PSA (Prostatic Specific Antigen) < 4 ng/ml > 10 ng/ml

 

นอกจากรายการที่ระบุไปข้างต้นแล้ว ยังมีสารบ่งชี้มะเร็งชนิดอื่นๆ ที่สามารถตรวจได้เช่นกัน เช่น 

  • โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวมายอีโลมา: B2M (Beta-2 Microglobulin)
  • โรคมะเร็งอัณฑะ: B-HCG (Human Chorionic Gonadotropin)
  • โรคมะเร็งปอด และมะเร็งของระบบประสาท: NSE (Neuron-specific enolase)

ใครควรตรวจ Tumor Marker บ้าง?

โดยทั่วไปแพทย์จะแนะนำให้ผู้ที่อยู่ในกลุ่มที่เริ่มมีความเสี่ยงตรวจ Tumor Marker เพื่อป้องกันความเสี่ยง ได้แก่

  • ผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป
  • ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็ง
  • ผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ พักผ่อนน้อย เครียดเรื้อรัง
  • ผู้ที่มีอาการป่วยด้วยโรคเรื้อรังเช่น โรคตับอักเสบ ตับแข็ง ไขมันพอกตับ มีเนื้องอกในมดลูกหรือรังไข่ ลำไส้อักเสบเรื้อรัง ฯลฯ
  • ผู้ที่ต้องการตรวจสุขภาพเชิงป้องกัน

วิธีการตรวจ Tumor Marker มีขั้นตอนอะไรบ้าง ต้องเตรียมตัวอย่างไร?

การตรวจ Tumor Marker ไม่ยุ่งยากซับซ้อน โดยจะใช้วิธีเก็บตัวอย่างด้วยการเจาะเลือด ส่งตัวอย่างเลือดเข้าห้องปฏิบัติการ รอผลประมาณ 1-5 วัน ขึ้นอยู่กับสถานพยาบาลนั้นๆ จากนั้นส่งให้แพทย์อ่านผลเพื่อประเมินความเสี่ยง

ด้านการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการตรวจนั้น ส่วนใหญ่ไม่ต้องเตรียมตัวด้านใดเป็นพิเศษ และไม่จำเป็นต้องงดน้ำและอาหาร (ยกเว้นบางรายการที่เจ้าหน้าที่ระบุไว้ว่าต้องงดล่วงหน้า)

การตรวจ Tumor Marker แม่นยำแค่ไหน?

การตรวจ Tumor Marker เป็นเพียง “เครื่องมือคัดกรอง” ไม่ใช่การวินิจฉัยโรค 100% ผลการตรวจอาจ “สูงโดยไม่เป็นมะเร็ง” หรือ “ปกติแต่ยังมีความเสี่ยง” ก็ได้ โดยแพทย์จะพิจารณาร่วมกับประวัติและการตรวจเพิ่มเติม เช่น CT, MRI, Ultrasound เป็นต้น

ข้อดีของการตรวจ Tumor Marker

  • ตรวจง่าย สะดวก เพียงแค่เจาะเลือดเท่านั้น
  • ช่วยให้ทราบความเสี่ยงก่อนเกิดโรค
  • เพิ่มโอกาสการรักษาหายขาด
  • ใช้ติดตามผลหลังการรักษามะเร็ง

ข้อจำกัดของการตรวจ Tumor Marker

  • ไม่สามารถยืนยันการเป็นมะเร็งได้ 100%
  • ต้องใช้การตรวจอื่นๆ ร่วมด้วยเพื่อยืนยันผล
  • ค่า Tumor Marker อาจสูงจากสาเหตุอื่นที่ไม่ใช่มะเร็งได้

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการตรวจ Tumor Marker

1. ควรตรวจ Tumor Marker บ่อยแค่ไหน?

ตอบ: สำหรับผู้ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี ไม่มีอาการเจ็บป่วยใดๆ และความเสี่ยงต่ำ จะแนะนำให้ตรวจปีละ 1 ครั้ง พร้อมกับการตรวจสุขภาพประจำปี แต่สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง อาจตรวจทุกๆ 6 เดือน

2. ตรวจ Tumor Marker ใช้สิทธิประกันได้ไหม?

ตอบ: ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกัน บางแผนคุ้มครองเฉพาะการตรวจพื้นฐาน แต่สามารถสอบถามเพิ่มเติมจากบริษัทประกันโดยตรง

3.ถ้าพบค่าผิดปกติต้องทำอย่างไร?

ตอบ: หากตรวจพบค่าที่ผิดปกติ ยังไม่ต้องตกใจ เพราะว่าค่าที่ผิดปกติไม่ได้บ่งชี้ว่าจะเป็นมะเร็งเสมอไป อาจเกิดจากปัจจัยอื่นๆ ได้ แนะนำให้พบแพทย์เฉพาะทางเพื่อประเมินผล รวมทั้งตรวจเพิ่มเติม เช่น Ultrasound, CT Scan หรือ ส่องกล้อง จากนั้นค่อยวางแผนติดตามผลหรือรักษาอย่างเหมาะสม

4. ตรวจ Tumor Marker ราคา เท่าไหร่?

ตอบ: โดยทั่วไปค่าตรวจ Tumor Marker จะอยู่ที่ประมาณ 1,490 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และค่าบริการของสถานพยาบาลนั้นๆ 

สอบถามแพ็กเกจตรวจ Tumor Marker ค้นหาสัญญาณเสี่ยงโรคมะเร็งยอดฮิต รู้ก่อนสาย ป้องกันได้ง่ายๆ แค่ตรวจเลือด! คลิก

5. ตรวจ Tumor Marker ที่ไหนดี?

ตอบ: การตรวจ Tumor Marker นั้น มีให้บริการทั้งในคลินิก ห้องแล็บ รวมทั้งโรงพยาบาลชั้นนำทั่วไป โดยควรเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน มีห้องแล็บที่ผ่านการรับรองอย่างถูกต้อง เพื่อผลที่แม่นยำ รวมทั้งยังสามารถนำผลไปใช้ประกอบการตรวจเพิ่มเติมได้ด้วย

การตรวจเลือดหาค่าบ่งชี้มะเร็ง หรือ Tumor Marker เป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้คุณรู้เท่าทันความเสี่ยงโรคมะเร็งตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ยิ่งรู้เร็ว ยิ่งมีโอกาสรักษาหายสูง เริ่มต้นดูแลสุขภาพของคุณวันนี้ เพราะการป้องกันดีกว่าการรักษาเสมอ

Scroll to Top