โรคมือ เท้า ปากนี่เป็นโรคฮิตในเด็กเล็กที่พบได้บ่อยและติดต่อกันได้ง่าย คุณพ่อคุณแม่ก็อาจสงสัยว่าลูกเคยป่วยเป็นมือ เท้า ปากแล้วหายดีแล้ว ลูกจะกลับมาเป็นซ้ำได้อีกไหม? รอบหน้าจะหนักกว่าเดิมหรือเปล่า? บทความนี้สรุปคำตอบ พร้อมวิธีป้องกันลูกน้อยให้ห่างจากโรคมาให้แล้ว
สารบัญ
ลูกเคยเป็นโรคมือ เท้า ปากแล้ว จะกลับมาเป็นซ้ำได้ไหม?
“เป็นซ้ำได้” เพราะว่าโรคมือ เท้า ปากเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอนเทอไวรัส (Enterovirus) ได้หลากหลายสายพันธุ์ สายพันธุ์ที่เจอบ่อย ๆ คือ คอกซากีไวรัส เอ 6 (Coxsackievirus A6) และเอนเทอโรไวรัส 71 (Enterovirus 71 หรือ EV71)
หากเจ้าตัวเล็กเคยเป็นโรคมือ เท้า ปากด้วยสายพันธุ์ใดสายพันธุ์หนึ่งแล้ว ร่างกายจะมีภูมิคุ้มกันเฉพาะต่อเชื้อสายพันธุ์ที่เคยป่วยเท่านั้น เมื่อติดเชื้ออีกครั้งจากสายพันธุ์อื่น ๆ ก็สามารถป่วยเป็นโรคมือ เท้า ปากซ้ำได้อีก
ถ้าเป็นโรคมือ เท้า ปากซ้ำครั้งที่สอง อาการจะหนักขึ้นหรือเปล่า?
หากลูกป่วยเป็นโรคมือ เท้า ปากซ้ำ อาการอาจจะรุนแรงหรือไม่รุนแรงก็ได้ เพราะความรุนแรงของอาการแต่ละครั้งอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของไวรัสที่ได้รับ และภูมิคุ้มกันของเด็กแต่ละคน
อย่างไรก็ตาม หากเกิดการติดเชื้อสายพันธุ์เอนเทอโรไวรัส 71 หรือ EV71 ขึ้นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นครั้งแรกหรือติดเชื้อซ้ำ จะมีโอกาสเกิดอาการรุนแรง และภาวะแทรกซ้อนอันตรายได้
รู้ได้อย่างไรว่าเป็นโรคมือ เท้า ปาก จากสายพันธุ์ไหน?
โรคมือ เท้า ปากไม่ว่าจะเกิดจากเชื้อสายพันธุ์ไหนมักก่ออาการคล้ายกันในช่วงแรก คือ มีไข้ เจ็บปาก น้ำลายไหล เกิดแผลในช่องปาก กระพุ้งแก้ม และเพดานปาก มีผื่นเป็นจุดแดงหรือตุ่มน้ำใส ๆ ตามฝ่ามือ ฝ่าเท้า รอบก้นและอวัยวะเพศ แขนขา และลำตัว
เด็กที่ป่วยเป็นโรคมือ เท้า ปากมักมีอาการอยู่ 2–3 วัน แล้วจะค่อย ๆ ดีขึ้นจนหายใน 1 สัปดาห์ ส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรง บางคนอาจมีภาวะขาดน้ำจากการกินอาหารและดื่มน้ำได้น้อย หากอาการไม่ดีขึ้น หรือพบอาการรุนแรงอื่น ๆ ควรไปพบแพทย์
อย่างไรก็ตาม เด็กบางส่วนอาจเกิดอาการรุนแรงหรือภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง มักเกิดจากการติดเชื้อสายพันธุ์ EV71 โดยจะเกิดอาการไข้สูง ซึม อ่อนแรง มือสั่น เดินเซ อาเจียนมาก หายใจหอบ ชัก หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบพาลูกไปโรงพยาบาลทันที
ป้องกันลูกอย่างไร ไม่ให้เป็นโรคมือเท้าปากซ้ำ?
การป้องกันลูกกลับมาเป็นโรคมือ เท้า ปากซ้ำ หรือลดความเสี่ยงการติดเชื้อในเด็กที่ไม่เคยเป็นมาก่อนได้ตามคำแนะนำต่อไปนี้
- พาลูกไปฉีดวัคซีนมือ เท้า ปาก เพื่อป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์ EV71 ที่ก่อภาวะแทรกซ้อนรุนแรง
- หลีกเลี่ยงพาลูกไปในพื้นที่มีความแออัด เพื่อลดความเสี่ยงในการได้รับเชื้อโรค อย่างสนามเด็กเล่น หรือห้าง โดยเฉพาะช่วงที่มีโรคระบาด เมื่อออกจากบ้าน ควรสวมหน้ากากอนามัย
- สอนให้ลูกไม่ใช้สิ่งของร่วมกับเด็กคนอื่น โดยเฉพาะของใช้ส่วนตัว เพราะเชื้อโรคสามารถปนเปื้อนกับสิ่งของ เมื่อเด็กสัมผัสกับเชื้อและนำมาสัมผัสใบหน้า หรือหยิบอาหารเข้าปากอาจทำให้เชื้อเข้าสู่ร่างกายและติดเชื้อได้
- ฝึกให้ลูกล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาดบ่อย ๆ จนเป็นนิสัย
นอกจากนี้ คุณพ่อคุณแม่ควรดูแลสุขอนามัยของลูกในทุกด้านร่วมด้วย ทั้งการทำความสะอาดที่อยู่อาศัย หรือพื้นที่ส่วนรวมที่มีการสัมผัสอยู่บ่อยครั้ง