HDmall สรุปให้!
ปิด
ปิด
- ปีพ.ศ. 2561 มีผู้หญิงที่ได้รับการตรวจวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งในระยะที่ 3-4 รวมกว่า 45% ซึ่งเป็นระยะที่รักษาได้ยาก ดังนั้น ผู้หญิงจึงควรตรวจคัดกรองมะเร็งทุก 5 ปี ตั้งแต่อายุ 21 ปีขึ้นไป และหากอายุขึ้นเลข 4 ควรตรวจทุก 3 ปีเป็นอย่างน้อย
- มะเร็งที่พบบ่อยในผู้หญิงได้แก่ มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งลำไส้มะเร็งมดลูก และมะเร็งปอด ซึ่งแต่ละชนิดมีปัจจัยในการเกิดแตกต่างกัน
- รายการที่ตรวจมักเริ่มตั้งแต่ซักประวัติ ตรวจร่างกายทั่วไป (คลำหาก้อนเนื้อ ตรวจภายใน) และการตรวจด้วยอุปกรณ์เฉพาะ โดยแต่ละโปรแกรมตรวจก็จะมีรายการตรวจต่างกันออกไป
- เช็กรายการตรวจคัดกรองมะเร็งผู้หญิงได้ที่ HDmall.co.th หรือสอบถามแอดมินได้ที่ไลน์ @hdcoth
การตรวจคัดกรองมะเร็ง คือการตรวจสุขภาพเพื่อประเมินความเสี่ยงที่อวัยวะในร่างกายอาจพัฒนาไปเป็นมะเร็งได้ก่อนที่จะแสดงอาการ ทำให้อัตราการรอดชีวิตสูง โอกาสหายขาดมีมากขึ้น
ทำไมผู้หญิงถึงควรตรวจคัดกรองมะเร็ง?
สถาบันมะเร็งแห่งชาติระบุว่า โรคมะเร็ง เป็นโรคที่ทำให้คนไทยเสียชีวิตมากที่สุดเป็นอันดับ 1 มานานกว่า 20 ปี
นอกจากนี้ยังเผยอีกว่า ปีพ.ศ. 2561 มีผู้หญิงที่ได้รับการตรวจวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งในระยะที่ 3-4 รวมกว่า 45% ซึ่งเป็นระยะที่รักษาได้ค่อนข้างยาก แต่ผู้หญิงที่ตรวจพบตั้งแต่ในระยะที่ 1 มีเพียง 11.1% เท่านั้น
แม้ผู้หญิงจะมีแนวโน้มใช้ชีวิตรักสุขภาพมากกว่าผู้ชาย แต่ก็มีปัจจัยภายในที่ควบคุมได้ยาก เช่น ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงหลังหมดประจำเดือน ผู้ที่ไม่เคยมีบุตรทำให้รังไข่ตกไข่เกินไป การมีเพศสัมพันธ์ รวมถึงมลภาวะต่างๆ ทำให้เสี่ยงเป็นมะเร็งโดยไม่รู้ตัว
ดังนั้น ผู้หญิงจึงควรตรวจคัดกรองมะเร็งทุก 5 ปี ตั้งแต่อายุ 21 ปีขึ้นไป และหากอายุขึ้นเลข 4 ควรตรวจทุก 3 ปีเป็นอย่างน้อย
มะเร็งที่พบบ่อยในผู้หญิง
สถาบันมะเร็งแห่งชาติเผย 5 อันดับมะเร็งที่พบบ่อยที่สุดของผู้หญิงในปี พ.ศ. 2561 ดังนี้
1. มะเร็งเต้านม (Breast cancer)
เกิดจากเซลล์บริเวณเต้านมเติบโตขึ้นผิดปกติจนเป็นเนื้อร้าย อาจเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น สารปนเปื้อนจากอาหาร มลภาวะต่างๆ หรือคนในครอบครัวมีประวัติเป็นมาก่อน
2. มะเร็งปากมดลูก (Cervix cancer)
เป็นมะเร็งชนิดหนึ่งที่มักมาจากการติดเชื้อ HPV สายพันธุ์ 16 และ 18 บริเวณปากมดลูก ทำให้อาจมีเลือดออกเวลามีเพศสัมพันธ์ ตกขาวมีกลิ่นแปลก ปัสสาวะบ่อย และเจ็บเวลาปัสสาวะ
อ่านเพิ่มเติม: ช่วงอายุที่เหมาะสำหรับฉีดวัคซีน HPV มากที่สุด
3. มะเร็งลำไส้ (Colon and rectum cancer)
เกิดจากเซลล์ที่ผนังลำไส้เติบโตขึ้นผิดปกติ สามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว สาเหตุมะเร็งลำไส้ในผู้หญิงได้แก่ อายุที่มากขึ้น การใช้ชีวิต อาหารที่กิน รวมถึงสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
4. มะเร็งมดลูกหรือมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก (Corpus uteri)
เกิดจากเซลล์บริเวณเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญเติบโตผิดปกติ ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่มีปัจจัยหลายอย่างที่เกี่ยวข้อง เช่น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจน มักเกิดขึ้นในผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป
5. มะเร็งปอด (Lung cancer)
เกิดจากเซลล์เติบโตผิดปกติที่ปอด มีปัจจัยเสี่ยงจากการสูบบุหรี่ มลภาวะ และหากคในครอบครัวมีประวัติเป็นมะเร็งปอด ก็เพิ่มโอกาสเป็นได้เช่นกัน
ตรวจคัดกรองมะเร็งผู้หญิงมีขั้นตอนอย่างไร?
การตรวจคัดกรองมะเร็งในผู้หญิงแบ่งได้หลักๆ ประมาณ 3 ขั้นตอน แต่รายละเอียดในการตรวจอาจแตกต่างกันไปตามตำแหน่งต่างๆ ที่ตรวจ
1. ซักประวัติ
การซักประวัติ จะเป็นการสอบถามพูดคุยในภาพกว้างเพื่อให้แพทย์มีข้อมูลประกอบคำวินิจฉัย คำถามอาจประกอบไปด้วย
- อายุของผู้รับการตรวจ ด้วยอายุที่มากขึ้นมีโอกาสทำให้ความเสี่ยงของมะเร็งเพิ่มขึ้นไปด้วย
- อาชีพของผู้รับการตรวจ เนื่องจากบางอาชีพอาจต้องทำงานใกล้กับสารเคมีบางชนิดที่เป็นปัจจัยของมะเร็ง
- การใช้ชีวิตประจำวัน โรคประจำตัว อาหารที่กินเป็นประจำ ยา หรืออาหารเสริมที่ใช้
- ประวัติคนเป็นมะเร็งในครอบครัว ถ้าคนในครอบครัวมีประวัติเคยเป็นมะเร็งมาก่อน ก็อาจมีโอกาสเสี่ยงมากขึ้น
ดังนั้น ผู้รับการตรวจควรตอบคำถามความจริง เพราะหากปิดบัง อาจทำให้แพทย์วินิจฉัยผิดพลาดได้
อ่านเพิ่มเติม: 5 สิ่งที่ควรทำก่อนไปตรวจสุขภาพ
2. ตรวจคัดกรองทั่วไป
เมื่อซักประวัติแล้ว แพทย์จะใช้การตรวจที่ทำได้ง่ายก่อน เพื่อเป็นการหาสิ่งผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น เช่น ในการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม อาจมีการคลำต่อมน้ำเหลืองบริเวณรักแร้ คลำเต้านมเพื่อหาก้อนแข็งผิดปกติ
หรือในการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก อาจใช้วิธีแปปสเมียร์ (Pap smear) คือการเก็บตัวอย่างเยื่อบุผิวในช่องคลอดไปตรวจหาความผิดปกติในห้องปฎิบัติการ โดยการตรวจนี้ยังแยกย่อยไปได้อีก เช่น ตรวจแบบ ThinPrep จะเป็นการเก็บตัวอย่างเซลล์ในของเหลว จะช่วยให้เห็นเซลล์ที่ผิดปกติในระยะแรกเริ่มได้ดีกว่าการตรวจแปปสเมียร์ดั้งเดิมถึง 65%
3. ตรวจอย่างเฉพาะเจาะจง
หากการตรวจคัดกรองทั่วไปพบความผิดปกติ เช่น พบก้อนเนื้อ พบเซลล์ผิดปกติ อาจต้องอาศัยการตรวจที่เฉพาะเจาะจงขึ้น เพื่อให้ทราบว่าก้อนเนื้อที่พบ เป็นถุงน้ำ ซีสต์ หรือก้อนเนื้องอก
ตัวอย่างการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมอย่างเฉพาะเจาะจง เช่น การใช้อัลตราซาวด์เฉพาะจุด (Ultrasound) การใช้แมมโมแกรม (Mammogram) เพื่อให้อุปกรณ์ส่งคลื่นหรือรังสีสร้างภาพอวัยวะภายในขึ้นมา ช่วยให้เห็นความผิดปกติต่างๆ ได้ เช่น เนื้องอก ถุงน้ำ ซีสต์ หินปูน ฯลฯ
หรือในการตรวจมะเร็งปากมดลูก อาจใช้การส่องกล้อง (Colposcopy) ซึ่งเป็นกล้องที่มีกำลังขยายสูงดูความผิดปกติเพิ่มเติม
แต่ละวิธีตรวจมะเร็งจะมีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันไป ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจที่เหมาะกับคุณมากที่สุด
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าทุกความผิดปกติที่พบจะเป็นมะเร็งเสมอไป แต่เป็นการช่วยให้สามารถระมัดระวังและดูแลตัวเองได้ดียิ่งขึ้น ฉะนั้นจึงไม่ควรกลัวการตรวจคัดกรอมะเร็งมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้เครียดและวิตกกังวลได้
ดังนั้นจึงอยากให้ผู้หญิงทุกคนมองการตรวจคัดกรองมะเร็ง เป็นเหมือนเหมือนการตรวจสุขภาพประจำปี อย่าเพิ่งกังวลมากเกินไป เพราะมันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเลย
เดี๋ยวนี้การตรวจคัดกรองมะเร็งก็ราคาถูกลงมาก และมีโปรแกรมตรวจสำหรับหลากหลายชนิดมะเร็ง หลายเทคนิค ให้เลือก เช็กรายการตรวจคัดกรองมะเร็งผู้หญิงได้ที่ HDmall.co.th หรือสอบถามแอดมินได้ที่ไลน์ @hdcoth
บทความที่เกี่ยวข้อง
ที่มาของข้อมูล
ปิด
ปิด
- James Roland, What to Expect from Colon Cancer in Women, (https://www.healthline.com/health/colorectal-cancer/colon-cancer-in-women), 8 May 2019.
- Robert Goldstein, Breast Cancer Tests: What You Need to Know About Your Breast Health, (https://www.healthline.com/health/breast-cancer-tests), 31 October 2019.
- Stephanie Watson, Everything You Need to Know About Cervical Cancer, (https://www.healthline.com/health/cervical-cancer), 30 September 2019.
- สถาบันมะเร็งแห่งชาติ, ทะเบียนมะเร็งระดับโรงพยาบาล พ.ศ. 2561, (http://www.nci.go.th/th/File_download/Nci%20Cancer%20Registry/Hospital%20Based_2018.pdf), 2561.
- อ. พญ.สุวิชา จิตติถาวร, มะเร็งรังไข่, (https://med.mahidol.ac.th/cancer_center/th/protfolio/knowledge/gyne/ovary).
- รศ. นพ. อดุลย์ รัตนวิจิตราศิลป์, เมื่อไร! สงสัยว่าเป็นมะเร็งเต้านม, (https://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=771), 11 พฤศจิกายน 2553.