ความเครียด

ความเครียด อีกสาเหตุของโรคภูมิแพ้ที่หลายคนไม่ทราบ

เมื่อพูดถึงโรคภูมิแพ้ สาเหตุที่หลายคนนึกถึงก็คงไม่พ้นฝุ่น ละอองสารเคมีขนาดจิ๋วที่ตาเรามองไม่เห็น นม อาหารทะเล ถั่วเหลือง เกสรดอกไม้ ฯลฯ แต่คุณรู้หรือไม่ว่า ความเครียดก็เป็นอีกสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้เช่นกัน

พฤติกรรมจากความเครียดที่นำไปสู่การเกิดโรคภูมิแพ้

ด้วยยุคสมัยที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบ การแข่งขัน การแสวงหาความสำเร็จ และความสะดวกสบายให้กับชีวิต ทำให้หลายๆ คนมีวิถีการดำเนินชีวิตในแบบที่ผิดๆ และสร้างความเสี่ยงต่อการเกิดโรคภูมิแพ้ได้ เช่น

  • ดื่มสุรา และบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดอื่นๆ อยู่เป็นประจำ
  • สูบบุหรี่ หรือใช้สารเสพติดที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย
  • ทำงานดึกดื่น หรือโต้รุ่ง จนพักผ่อนไม่เพียงพอ
  • อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่สะอาด หรือเต็มไปด้วยสารก่อภูมิแพ้ เช่น ในชุมชนแออัด ไซต์งานก่อสร้าง โดยสารรถเมล์หรือพาหนะที่ต้องเบียดเสียดกับผู้คนจนเสี่ยงติดเชื้อโรค
  • ไม่ดูแลความสะอาดของร่างกายให้ดีพอรวมทั้งข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว
  • ไม่มีเวลาทำความสะอาดที่พักอาศัย สถานที่ศึกษา สถานที่ทำงาน
  • วิตกกังวลกับงานมากเกินไป ไม่ยอมปล่อยวางความเครียด
  • ไม่แบ่งเวลาคลายเครียด หรือเวลาพักผ่อนให้กับตนเองบ้าง
  • ปลีกตัว ไม่เข้าสังคม และไม่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นจนอาจเกิดภาวะซึมเศร้า
  • ไม่ออกกำลังกาย
  • รับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ อาหารฟาสต์ฟู๊ด หรือรับประทานอาหารเมนูเดิมซ้ำๆ
  • ติดรสหวาน ชอบรับประทานอาหาร เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมากๆ

กลไกจากความเครียดที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้

คุณอาจยังสงสัยว่า แล้วความเครียดส่งผลทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้อย่างไร เพราะจากพฤติกรรมด้านบน ผลกระทบที่ตามมาควรจะเป็นการเกิดโรคภัยไข้เจ็บอื่นๆมากกว่า เช่น โรคกระเพาะ โรคกรดไหลย้อน โรคไข้หวัด โรคมะเร็งตับ โรคซึมเศร้า

แต่ความจริงแล้ว ภายในร่างกายของเรา มีสารและฮอร์โมนบางอย่างซึ่งเกี่ยวข้องกันกับความเครียด และนำไปสู่การเกิดโรคภูมิแพ้ได้

เมื่อคนเราเกิดอาการเครียดขึ้น ร่างกายจะหลั่งสารฮิสตามีน (Histamine) ซึ่งเป็นสารตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดอาการของโรคภูมิแพ้เพิ่มมากขึ้น โดยสารดังกล่าวจะมีปริมาณมากขึ้นอยู่ในกระแสเลือดของเราและทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ขึ้นนั่นเอง

นอกจากนี้หากคุณมีความเครียดสะสมมากกว่าหลายสัปดาห์ หรือหลายเดือน ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียดหลักของร่างกายเพิ่มมากขึ้น ผ่านทางระบบประสาทอัตโนมัติและแกนของระบบสมองไฮโปธาลามิก-ต่อมใต้สมอง-ต่อมหมวกไต

ฮอร์โมนคอร์ติซอลจะส่งผลกระทบต่อเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดT-helper2 ซึ่งทำหน้าที่ดูแลระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ทำงานไม่สมบูรณ์

หลังจากนั้น เมื่อระบบภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอลง เชื้อไวรัส และเชื้อแบคทีเรียที่เข้ามาในร่างกายก็จะไม่ได้ถูกกำจัดออกอย่างที่ควรจะเป็น และเริ่มแพร่กระจายไปสู่เซลล์อื่นๆ ในร่างกาย จนทำให้เกิดอาการเจ็บป่วย รวมถึงทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้

วิธีรักษา และป้องกันโรคภูมิแพ้ที่มีสาเหตุมาจากความเครียด

ถึงแม้โรคภูมิแพ้จะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่หากสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้นั้นมาจากความเครียด การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตและความคิดบางอย่าง จะสามารถบรรเทาอาการของโรคให้ดีขึ้นได้ เช่น

1. หาต้นตอสาเหตุของความเครียดให้เจอ 

ลองมองย้อนกลับไปว่า “อะไรคือ สาเหตุที่ทำให้คุณเกิดความเครียดมากที่สุด” คุณอาจต้องเขียนทุกอย่างที่นึกออกใส่กระดาษเพื่อไล่ลำดับสาเหตุที่เกิดขึ้น หากความเครียดมาจากเรื่องงาน ให้ลองลำดับความสำคัญของงานที่ทำและแบ่งเวลาทำอย่างเหมาะสม

2. พักผ่อนให้เพียงพอ 

วิธีนี้ถือเป็นทางรักษาที่สำคัญที่สุด เพราะหากพักผ่อนเพียงพอ ร่างกายก็จะสามารถปรับสมดุลต่างๆ ให้กลับมาปกติ ฟื้นฟู ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้ และระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายก็จะแข็งแรงยิ่งขึ้น

3. แบ่งเวลาอย่างเหมาะสม 

ลองหากิจกรรมที่จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายได้โดยอาจเป็นกิจกรรมที่ชื่นชอบ หรือสามารถทำร่วมกับเพื่อนๆ คนรัก คนในครอบครัวของคุณได้

คุณอาจแบ่งเงินเก็บไว้ส่วนหนึ่งสำหรับซื้อที่ต้องเพื่อเป็นรางวัลให้ตนเองด้วย จิตใจที่ผ่อนคลาย มีความสุข และไม่ตึงเครียดจนเกินไปคือ อีกวิธีสำคัญที่จะช่วยป้องกันคุณจากโรคภูมิแพ้ได้

4. หาเวลาออกกำลังกาย 

หลายคนเมื่อเผชิญกับความเครียดแล้วก็ไม่อยากจะทำกิจกรรมอย่างอื่น แต่คุณควรลองแบ่งเวลาออกกำลังกายสั้นๆ ดูบ้างบางครั้งในช่วงเวลานั้นๆ คุณอาจได้มีเวลาลืมเลือนสิ่งที่ทำให้เครียดได้ชั่วขณะหนึ่ง

นอกจากนี้การออกกำลังกายยังช่วยให้ร่างกายหลั่งสารสื่อประสาทอีพิเนฟริน (Epinephrine) หรือสารอะดรีนาลีน (Adrenaline) เพิ่มมากขึ้นด้วย

สารสื่อประสาทตัวนี้จะทำให้หายใจสะดวกดียิ่งขึ้น หัวใจเต้นแข็งแรงขึ้น ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคภูมิแพ้ในระบบทางเดินหายใจได้

5. นั่งสมาธิ

ลองใช้เวลาประมาณ 10-20 นาทีในการนั่งสมาธิ คุณอาจลองเริ่มจากสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งก่อน การได้อยู่กับสมาธิ และความสงบจะทำให้ผ่อนคลายจากความเครียดได้

6. ไปพบแพทย์ หรือจิตแพทย์

นอกจากความเครียดจะทำให้เกิดโรคภูมิแพ้แล้ว ยังอาจนำพาให้คุณป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและโรควิตกกังวลตามมาได้ ซึ่งโรคทั้ง 2 ชนิดนี้จะทำให้มีสภาวะจิตใจที่ย่ำแย่มากกว่าเดิมอีก

นอกจากนี้การไปพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาและวินิจฉัยอาการภูมิแพ้ที่เกิดขึ้น จะช่วยให้ทราบวิธีดูแลตนเองอย่างถูกต้อง และได้รับการจ่ายยารักษาที่เหมาะสมด้วย เช่น ยาต้านฮิสตามีน (Antihistamines)

จะเห็นได้ว่า สภาวะจิตใจที่ย่ำแย่นั้นส่งผลกระทบต่อร่างกายได้มากกว่าที่คิด ดังนั้นการดูแลตนเองที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญแต่ไม่ใช่เพียงดูแลร่างกายให้แข็งแรงเท่านั้น ยังต้องใส่ใจสุขภาพจิตของตนเองด้วย

หากคุณมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีสุขภาพจิตที่ดี แล้ว ไม่ว่าโรค หรือภาวะความผิดใดๆ ก็ยากที่จะเข้ามารบกวน หรือทำร้ายร่างกายให้อ่อนแอลงได้


ตรวจสอบความถูกต้องโดย นพ. ธนู โกมลไสย


ที่มาของข้อมูล

  • Brunilda Nazario, Stress Relief Strategies to Ease Allergy Symptoms (https://www.webmd.com/allergies/features/stress-and-allergies#2), 22 January 2020.
  • รศ. นพ.ปารยะ อาศนะเสน, โรคภูมิแพ้ และยาต้านฮิสทามีน (https://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=1175), 22 January 2020.
  • Wheatley LM, Togias A (January 2015). “Clinical practice. Allergic rhinitis”. The New England Journal of Medicine. 372 (5): 456–63. doi:10.1056/NEJMcp1412282. PMC 4324099. PMID 25629743.
Scroll to Top