รู้หรือไม่? โรคมะเร็งทวารหนักเกิดได้จากหลายปัจจัย การมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักก็เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งทวารหนักได้เช่นกัน บทความนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับโรคมะเร็งทวารหนัก แนวทางการสังเกตอาการ แนะนำวิธีการตรวจคัดกรอง และแนวทางการรักษามะเร็งทวารหนัก รู้ก่อนรักษาก่อน ป้องกันโรคลุกลามในอนาคต
สารบัญ
โรคมะเร็งทวารหนักเกิดจากอะไร?
โรคมะเร็งทวารหนัก (Anal cancer) เป็นมะเร็งที่เกิดขึ้นในบริเวณทวารหนักหรือท่อที่เชื่อมระหว่างลำไส้ใหญ่และทวาร ซึ่งสาเหตุหลักๆ ของการเกิดมะเร็งทวารหนักมักจะเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อจากไวรัส HPV (Human Papillomavirus) โดยเฉพาะชนิดที่มีความเสี่ยงสูง เช่น HPV-16 และ HPV-18 ซึ่งอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเซลล์ในทวารหนักจนพัฒนาเป็นมะเร็งได้
อาการของโรคมะเร็งทวารหนัก
อาการของโรคมะเร็งทวารหนักอาจแตกต่างกันไปตามระยะของโรค แต่ในระยะเริ่มแรกอาจไม่มีอาการชัดเจน ทำให้ผู้ป่วยไม่รู้ตัวจนกว่าจะมีอาการรุนแรงขึ้น อาการที่พบได้บ่อย ๆ เช่น
- เลือดออกจากทวารหนัก
- เจ็บปวดหรือแสบร้อนบริเวณทวารหนัก
- มีการเปลี่ยนแปลงในลักษณะของการถ่ายอุจจาระ เช่น ท้องผูกหรือท้องเสียหรือรู้สึกไม่สบายท้อง
- มีก้อนที่ทวารหนักหรือใกล้ทวารหนัก
- มีอาการคันหรือระคายเคืองบริเวณทวารหนัก
- รู้สึกไม่สบายหรือหน่วงบริเวณทวารหนัก
- การถ่ายอุจจาระที่ผิดปกติ เช่น การถ่ายอุจจาระที่มีลักษณะต่างจากปกติ เช่น มีมูกหรืออุจจาระแปลกๆ
โรคมะเร็งทวารหนักมีกี่ระยะ?
ความรุนแรงของโรคสามารถแบ่งออกเป็น 4 ระยะ การรักษาจะขึ้นอยู่กับระยะความรุนแรงของโรค โดยส่วนใหญ่จะใช้วิธีผ่าตัดร่วมกับเคมีบำบัดและฉายแสง
- มะเร็งทวารหนักระยะที่ 1 เป็นระยะเริ่มต้นของโรค โดยก้อนมะเร็งจะมีขนาดเล็กไม่เกิน 2 เซนติเมตร
- มะเร็งทวารหนักระยะที่ 2 เป็นระยะที่ก้อนมะเร็งเริ่มโตขึ้นจากเดิม แต่ยังจำกัดอยู่ภายในผนังลำไส้
- มะเร็งทวารหนักระยะที่ 3 เป็นระยะที่ก้อนมะเร็งเริ่มลุกลามสู่เนื้อเยื่อและอวัยวะข้างเคียง โดยผู้ป่วยในระยะนี้มักมีอาการที่สังเกตเห็นได้ชัดและรุนแรงมากขึ้น
- มะเร็งทวารหนักระยะที่ 4 เป็นระยะที่อันตรายในระดับสูงสุด โดยเชื้อมะเร็งมีการลุกลามและแพร่กระจาย สู่อวัยวะที่อยู่ไกลออกไปผ่านกระแสเลือดหรือต่อมน้ำเหลือง
ใครมีความเสี่ยงเกิดโรคมะเร็งทวารหนักบ้าง?
- ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก
- ผู้ที่มีหลายคู่ทางเพศ
- ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
- ผู้ที่สูบบุหรี่
- การมีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งทวารหนัก
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง
- ผู้หญิงที่เคยมีการติดเชื้อ HPV หรือมะเร็งปากมดลูก
ทำไมการติดเชื้อไวรัส HIV/HPV ถึงเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งทวารหนัก?
เชื้อไวรัส HIV และ HPV เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการเกิดโรคมะเร็งทวารหนัก เนื่องจากลักษณะการทำงานของไวรัสทั้งสองชนิดนี้มีผลกระทบต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและการเจริญเติบโตของเซลล์ในร่างกาย ซึ่งสามารถกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาของมะเร็งได้
วิธีรักษาโรคมะเร็งทวารหนัก
การรักษาโรคมะเร็งทวารหนักขึ้นอยู่กับระยะของโรค, สุขภาพของผู้ป่วย, และการตอบสนองต่อการรักษา โดยมักจะใช้วิธีการรักษาหลักๆ ดังนี้
- การผ่าตัด: การผ่าตัดมะเร็งทวารหนักจะเป็นการรักษาโดยการตัดเนื้อเยื่อที่มีเซลล์มะเร็งออก รวมถึงเนื้อเยื่อรอบข้างเพื่อป้องกันการแพร่กระจาย มักใช้กับผู้ป่วยในระยะแรกของมะเร็ง
- การรักษาด้วยรังสี: การฉายรังสีเป็นการรักษามะเร็งทวารหนักในระยะ 2-3 โดยวิธีนี้จะทำการรักษาโดยใช้รังสีพลังงานสูงไปทำลายเซลล์มะเร็งและยับยั้งการเติบโต มักใช้ร่วมกับการรักษาวิธีอื่น เช่น เคมีบำบัด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาให้ดียิ่งขึ้น
- ทำเคมีบำบัด: การทำเคมีบำบัดเป็นการรักษาที่ใช้ยาเพื่อทำลายเซลล์มะเร็งโดยการรับประทานหรือฉีดยาเข้าเส้นเลือด ยาจะกระจายไปทั่วร่างกาย แต่ผู้ป่วยอาจได้รับผลข้างเคียงบางอย่าง เช่น อาเจียน, ผมร่วง, ภูมิคุ้มกันอ่อนแอหรือเลือดออกง่าย เนื่องจากยามีโอกาสทำลายเซลล์ปกติไปด้วย
ป้องกันโรคมะเร็งทวารหนักที่ติดทางเพศสัมพันธ์ได้อย่างไรบ้าง?
การป้องกันโรคมะเร็งทวารหนักที่ติดทางเพศสัมพันธ์สามารถทำได้หลายวิธีเลย เช่น
- การใช้ถุงยางอนามัย
- การฉีดวัคซีน HPV
- ไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย
- การตรวจสุขภาพประจำปีและการตรวจคัดกรอง
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
การป้องกันมะเร็งทวารหนักจากการติดเชื้อ HPV รู้ก่อนรักษาก่อน เลือกดูแพ็กเกจตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้และทวารหนักพร้อมรับส่วนลดราคาพิเศษ ที่ HDmall.co.th อย่ารอช้า ตรวจก่อนติด คลิกเลย!