Default fallback image

ปวดหลังร้าวลงขา เสี่ยงหมอนรองกระดูกเสื่อม ทับเส้นประสาท

ปวดหลังเรื้อรัง เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อย และส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตเป็นอย่างมาก อาการปวดหลังที่เรื้อรังอาจเกิดจากหลายสาเหตุ ซึ่งหนึ่งในสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดคือ การเสื่อมสภาพของหมอนรองกระดูก ที่อาจเกิดการทับเส้นประสาท หรือเกิดการปลิ้น ทำให้เกิดอาการปวดหลังและร้าวลงขาได้

บทความนี้พามาทำความเข้าใจอาการปวดหลังเรื้อรัง ที่เสี่ยงโรคหมอนรองกระดูกเสื่อม ทับเส้นประสาท พร้อมสาเหตุ กลุ่มเสี่ยง วิธีรักษา และวิธีป้องกัน

อาการปวดหลังเรื้อรัง เกิดจากสาเหตุใด

อาการปวดหลังเรื้อรัง เกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้

  1. หมอนรองกระดูกเสื่อม เมื่ออายุมากขึ้น หมอนรองกระดูกจะเสื่อมสภาพลงและอาจเกิดการบีบรัดหรือทับเส้นประสาท ทำให้เกิดอาการปวดหลังและร้าวไปที่ขาได้ โดยเฉพาะในบริเวณสะโพกหรือขาท่อนล่าง
  2. การปลิ้นของหมอนรองกระดูก หมอนรองกระดูกอาจหลุดหรือปลิ้นออกจากที่เดิม ซึ่งไปกดทับเส้นประสาท ทำให้มีอาการปวดแปลบๆ หรือจี๊ดๆ
  3. การกดทับเส้นประสาท หมอนรองกระดูกที่เสื่อม สามารถกดทับเส้นประสาทบริเวณหลังหรือขา ทำให้เกิดอาการชา ปวดแสบปวดร้อน หรืออาจทำให้อ่อนแรง
  4. กระดูกสันหลังทรุด เมื่อกระดูกสันหลังยุบตัวจากการเสื่อมสภาพ อาจทำให้เกิดการบีบตัวของเส้นประสาทได้
  5. ปัจจัยเสี่ยงจากอุบัติเหตุ การบาดเจ็บที่หลังจากอุบัติเหตุ หรือการเล่นกีฬา อาจทำให้เกิดการปลิ้นหรือแตกหักของหมอนรองกระดูก ซึ่งทำให้เกิดอาการปวดหลังเรื้อรังได้
  6. ท่าทางที่ไม่ถูกต้อง การนั่งหรือยืนในท่าทางที่ไม่ถูกต้องเป็นระยะเวลานาน อาจทำให้เกิดการยืดหรือบิดผิดท่าของกระดูกสันหลัง ส่งผลให้เกิดอาการปวดหลังเรื้อรังได้

ปวดแบบไหน เสี่ยงโรคหมอนรองกระดูกเสื่อม ทับเส้นประสาท

โรคหมอนรองกระดูกเสื่อม (Degenerative Disc Disease) เป็นภาวะที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของหมอนรองกระดูกในกระดูกสันหลัง ซึ่งสามารถทำให้หมอนรองกระดูกหลุดหรือปลิ้นออกจากที่เดิม และไปกดทับเส้นประสาท โดยจะทำให้เกิดอาการปวดหลัง ปวดขา ชา หรืออ่อนแรงได้

อาการที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคหมอนรองกระดูกเสื่อมและทับเส้นประสาท มีดังนี้

  1. ปวดหลังเรื้อรัง อาการปวดหลังที่เกิดขึ้นติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ต้องยืนหรือเดินเป็นเวลานาน หรือเมื่อมีการยกของหนัก
  2. อาการปวดร้าวลงขา อาการปวดหรือแสบร้อนจากหลังร้าวลงขา เป็นสัญญาณของการทับเส้นประสาทในกระดูกสันหลัง
  3. ชา หรือรู้สึกเหมือนถูกไฟฟ้าช็อต เมื่อเส้นประสาทถูกกดทับ อาจทำให้มีอาการชา หรือรู้สึกเหมือนถูกไฟฟ้าช็อตบริเวณขาหรือเท้า
  4. อาการจี๊ดๆ หรือแปลบๆ การที่หมอนรองกระดูกปลิ้นหรือกดทับเส้นประสาท อาจทำให้เกิดอาการปวดแปลบๆ หรือปวดแบบจี๊ดๆ โดยเฉพาะบริเวณขาและสะโพก
  5. ปวดสะโพกและขาอ่อนแรง เมื่อหมอนรองกระดูกในกระดูกสันหลังส่วนล่างเสื่อมสภาพอาจทำให้มีอาการปวดสะโพกหรือขาอ่อนแรง ร่วมกับอาการปวดที่สะโพก

ใครเสี่ยงเป็นหมอนรองกระดูกเสื่อม ทับเส้นประสาท

  • ผู้สูงอายุ อาการหมอนรองกระดูกเสื่อมพบได้มากในผู้สูงอายุ เนื่องจากการเสื่อมสภาพของกระดูกสันหลังตามอายุที่เพิ่มขึ้น
  • ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน การมีน้ำหนักตัวมากเกินไปจะเพิ่มแรงกดที่กระดูกสันหลังและหมอนรองกระดูก ซึ่งอาจทำให้หมอนรองกระดูกเสื่อมเร็วกว่าปกติ
  • ผู้ที่ยกของหนักเป็นประจำ การยกของหนักหรือทำกิจกรรมที่ใช้แรงกดสูงๆ สามารถทำให้หมอนรองกระดูกเสียหายได้
  • ผู้ที่นั่งหรือยืนด้วยท่าทางที่ไม่ถูกต้อง การนั่งหรือยืนในท่าทางที่ไม่ถูกต้องเป็นเวลานานอาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคหมอนรองกระดูกเสื่อม
  • ผู้ที่มีกล้ามเนื้อหลังอ่อนแอ การขาดการออกกำลังกายและกล้ามเนื้อที่ไม่แข็งแรง จะทำให้กระดูกสันหลังได้รับแรงกดมากขึ้น และหมอนรองกระดูกเสื่อมเร็วขึ้น

หมอนรองกระดูกเสื่อม ทับเส้นประสาท รักษาอย่างไร

  • การใช้ยา ยาต้านการอักเสบ เช่น NSAIDs (ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์) สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดและการอักเสบที่เกิดจากการทับเส้นประสาท
  • การทำกายภาพบำบัด การทำกายภาพบำบัดสามารถช่วยให้กล้ามเนื้อหลังแข็งแรงขึ้น ลดแรงกดที่กระดูกสันหลัง และปรับท่าทางให้ถูกต้อง
  • การใช้อุปกรณ์ช่วย เช่น ใช้เข็มขัดซัพพอร์ตหลัง (Back Support Belt) เป็นเข็มขัดที่สวมรอบเอว เพื่อช่วยพยุงกระดูกสันหลังและลดแรงกดที่กระดูกสันหลังหรือหมอนรองกระดูก โดยเฉพาะเวลาที่ต้องยกของหนัก
  • การฉีดยา การฉีดยาสเตียรอยด์สามารถลดการอักเสบและบรรเทาอาการปวดได้
  • การผ่าตัด หากอาการรุนแรงและไม่สามารถบรรเทาได้ด้วยการรักษาอื่นๆ อาจจำเป็นต้องพิจารณาการผ่าตัด เพื่อแก้ไขการทับเส้นประสาท หรือเปลี่ยนหมอนรองกระดูกที่เสื่อมสภาพ

วิธีป้องกันโรคหมอนรองกระดูกเสื่อมและทับเส้นประสาท

  1. การออกกำลังกาย การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยเน้นในส่วนของแกนกลางลำตัว จะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหลัง และช่วยให้กระดูกสันหลังแข็งแรง
  2. การควบคุมน้ำหนัก การควบคุมน้ำหนักให้เหมาะสม ช่วยลดการกดทับที่กระดูกสันหลังและหมอนรองกระดูกได้
  3. การปรับท่าทาง ควรปรับท่าทางการนั่งและการยืนให้ถูกต้อง เพื่อไม่ให้กระดูกสันหลังรับภาระหนักเกินไป
  4. หลีกเลี่ยงการยกของหนัก หากต้องยกของหนัก ควรใช้ท่าทางที่ถูกต้อง เช่น การย่อตัวลงและใช้ขาในการยก
  5. การตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ การตรวจสุขภาพหลังและกระดูกสันหลังอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้พบความผิดปกติได้เร็วและรักษาได้ทันท่วงที

การดูแลสุขภาพหลังด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และใช้ท่าทางให้ถูกต้อง เป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันปัญหาหมอนรองกระดูกเสื่อมและทับเส้นประสาทได้ หากคุณมีอาการปวดหลังหรือร้าวลงขา อย่าปล่อยไว้…ควรรีบพบแพทย์ เพื่อรับการวินิจฉัย และรักษาอย่างเหมาะสม

ปวดหลังเรื้อรัง เสี่ยงหมอนรองกระดูกเสื่อมหรือเปล่า? อยากปรึกษาคุณหมอ ตรวจหาสาเหตุให้แน่ชัด ทักหาทีม HDcare ได้เลย เราพร้อมเป็นผู้ช่วยส่วนตัวดูแลสุขภาพคุณ สอบถามข้อมูลเบื้องต้นกับคุณหมอเฉพาะทาง ทำนัดปรึกษาคุณหมอได้รวดเร็ว จาก รพ. หรือคลินิกใกล้คุณได้ทันที คลิกที่นี่เลย

Scroll to Top