อาการปวดหัวทั่วไป หรือปวดหัวไมเกรน มีความแตกต่างจากอาการปวดหัวที่เกิดจากโรคเนื้องอกในสมอง…แล้วอาการปวดหัวแบบไหน ที่บ่งบอกว่าเป็นโรคเนื้องอกในสมอง บทความนี้จะพามาทำความเข้าใจอาการต่างๆ ที่ควรระวัง เพื่อให้คุณสามารถสังเกตอาการเบื้องต้น และเข้ารับการรักษาได้อย่างทันท่วงที
สารบัญ
สังเกตอาการเบื้องต้น โรคเนื้องอกในสมอง รู้เร็วรักษาได้
อาการของโรคเนื้องอกสมองแตกต่างกันไปตามตำแหน่งและขนาดของเนื้องอก โดยทั่วไปจะมีอาการดังต่อไปนี้
1. อาการปวดหัว
อาการปวดหัวที่ผิดปกติถือเป็นหนึ่งในสัญญาณที่สำคัญของโรคเนื้องอกในสมอง โดยเฉพาะเมื่อมีอาการต่อเนื่องหรือมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
อาการปวดหัวที่เกิดจากเนื้องอกมักมีลักษณะที่แตกต่างจากอาการปวดหัวทั่วไป เช่น อาจมีความรู้สึกปวดที่เฉพาะเจาะจงในบริเวณศีรษะ และสามารถเกิดขึ้นได้บ่อยในตอนเช้า เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของความดันในสมองในขณะนอนหลับ
นอกจากนี้ อาการปวดหัวจากเนื้องอกมักไม่ตอบสนองต่อยาที่ใช้รักษาอาการปวดทั่วไป เช่น พาราเซตามอล หรือไอบูโปรเฟน ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกหงุดหงิดและวิตกกังวลมากขึ้น
การปวดหัวอาจมีอาการร่วม เช่น คลื่นไส้อาเจียน โดยเฉพาะเมื่ออาการปวดหัวเกิดขึ้นอย่างรุนแรง ซึ่งอาจบ่งบอกถึงความดันในสมองที่เพิ่มขึ้น
การที่ความดันในสมองเพิ่มขึ้นอาจเกิดจากการที่เนื้องอกขยายตัวหรือมีเลือดออกในสมอง ซึ่งสามารถนำไปสู่อาการอื่นๆ เช่น การมองเห็นที่บกพร่องหรืออาการชาที่ร่างกาย ดังนั้น หากพบว่ามีอาการปวดหัวที่ไม่ปกติร่วมกับอาการดังกล่าว ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด
2. อาการเวียนหัวและเดินเซ
อาการเวียนหัวและการเดินเซสามารถเกิดขึ้นได้เมื่อมีเนื้องอกกดทับส่วนต่างๆ ของสมองที่ทำหน้าที่ควบคุมการทรงตัวและการประสานงานของร่างกาย
อาการเวียนหัวอาจมีลักษณะเหมือนบ้านหมุนหรือรู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังเคลื่อนที่ แม้ในขณะที่อยู่นิ่ง ซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยรู้สึกไม่สบายและมีอาการคลื่นไส้ได้
อาการเดินเซเกิดจากความผิดปกติในระบบประสาทที่ควบคุมการเคลื่อนไหวและการรับรู้ตำแหน่งของร่างกาย ซึ่งเนื้องอกสามารถกดทับหรือทำลายเนื้อสมองที่มีหน้าที่เหล่านี้ได้
3. การมองเห็นและการได้ยินผิดปกติ
การมองเห็นและการได้ยินที่ผิดปกติเป็นอาการที่สามารถบ่งบอกถึงปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสมอง โดยเฉพาะเมื่อมีเนื้องอกกดทับส่วนต่างๆ ของสมองที่ควบคุมการมองเห็นและการได้ยิน
ในกรณีของการมองเห็น อาการที่พบได้บ่อย ได้แก่ ภาพซ้อน (Diplopia) ซึ่งหมายถึงการเห็นภาพซ้อนกันหลายภาพ หรือการเห็นแสงวูบวาบ (Photopsia) ที่อาจเกิดจากการกดทับที่ส่งผลกระทบต่อเส้นประสาทที่เกี่ยวข้องกับการมองเห็น เช่น เส้นประสาทออพติค
นอกจากนี้ ผู้ป่วยบางรายอาจมองเห็นสีที่ผิดเพี้ยน หรือสูญเสียการมองเห็นในบางส่วน หากเกิดอาการเหล่านี้ร่วมกับอาการอื่นๆ เช่น เวียนหัวหรือการเดินเซ ควรพบแพทย์โดยเร็วเพื่อทำการตรวจวินิจฉัย
ในส่วนของการได้ยิน อาการผิดปกติอาจแสดงออกมาในรูปแบบของเสียงที่ผิดปกติ (Tinnitus) หรือการได้ยินเสียงที่รบกวน ซึ่งอาจเกิดจากการกดทับของเนื้องอกที่ส่งผลกระทบต่อเส้นประสาทการได้ยิน (Auditory Nerve) หรือส่วนอื่น ๆ ของระบบประสาทที่เกี่ยวข้องกับการรับเสียง เสียงที่รบกวนอาจเป็นเสียงที่มีความถี่สูงหรือเสียงที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน
4. อาการชาและอ่อนแรง
อาการชาและอ่อนแรงเกิดจากการที่เนื้องอกกดทับเส้นประสาทที่สำคัญ ซึ่งอาจเกิดขึ้นในบริเวณต่างๆ ของร่างกาย เช่น ใบหน้า แขน ขา หรือส่วนอื่นๆ
อาการชามักจะมีลักษณะเฉพาะ เช่น การรู้สึกเสียวซ่า หรือการมีอาการเจ็บปวดเล็กน้อยร่วมด้วย ซึ่งผู้ป่วยอาจรู้สึกว่าบริเวณที่ชาไม่มีความรู้สึกเหมือนปกติ
ในกรณีที่เนื้องอกมีขนาดใหญ่หรืออยู่ในตำแหน่งที่สำคัญ อาจทำให้เกิดอาการอ่อนแรงร่วมด้วย โดยอาการอ่อนแรงนี้อาจแสดงออกมาในรูปแบบของการเคลื่อนไหวที่ลำบาก เช่น ไม่สามารถยกแขนหรือขาได้ตามปกติ หรือความอ่อนแรงที่เกิดขึ้นเฉพาะข้างเดียวของร่างกาย
หากมีอาการอ่อนแรงที่มาพร้อมกับอาการชา อาจเป็นสัญญาณของความผิดปกติที่รุนแรง และต้องพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอย่างเร่งด่วน
5. การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์และพฤติกรรม
การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์และพฤติกรรมเป็นอาการที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยที่มีเนื้องอกในสมอง ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเนื้องอกส่งผลกระทบต่อส่วนของสมองที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมอารมณ์และพฤติกรรม เช่น สมองส่วนหน้า (Frontal Lobe) ที่มีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจและการควบคุมอารมณ์
ผู้ป่วยอาจมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคตหรือปัญหาสุขภาพมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะเครียดหรือวิตกกังวลเรื้อรัง นอกจากนี้อาจมีอาการซึมเศร้า เช่น ความรู้สึกหมดกำลังใจ ความสนใจในกิจกรรมที่เคยชอบลดลง หรือแม้กระทั่งความรู้สึกสิ้นหวังในชีวิต สิ่งเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตโดยรวม
ความหงุดหงิดหรือความโมโหก็เป็นอีกอาการที่อาจพบได้ในผู้ป่วย โดยบางครั้งอาจเกิดจากการที่ผู้ป่วยรู้สึกว่าควบคุมสถานการณ์รอบตัวไม่ได้ การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์และพฤติกรรมเหล่านี้ไม่เพียงแต่มีผลต่อผู้ป่วยเอง แต่ยังมีผลกระทบต่อครอบครัวและคนรอบข้างด้วย
การสังเกตอาการเบื้องต้นของโรคเนื้องอกในสมองเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที ดังนั้น หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีอาการผิดปกติ ไม่ควรชะล่าใจ ควรรีบปรึกษาแพทย์โดยเร็วที่สุด
สัญญาณมาครบ อยากตรวจให้แน่ชัด ปรึกษาทีม HDcare ได้เลย เราพร้อมเป็นผู้ช่วยส่วนตัวดูแลสุขภาพคุณ สอบถามข้อมูลเบื้องต้นกับคุณหมอเฉพาะทาง ทำนัดปรึกษาคุณหมอได้รวดเร็ว หรือค้นหาแพ็กเกจตรวจและรักษาโรคเนื้องอกในสมอง จาก รพ. หรือคลินิกใกล้คุณได้ทันที คลิกที่นี่เลย