Default fallback image

ปวดหลังแบบไหนอันตราย บอกโรคอะไรได้บ้าง?

อาการปวดหลังเป็นหนึ่งในอาการที่หลายคนเคยเจอ ในบางกรณีอาจเกิดขึ้นชั่วคราวจากการใช้งานหนัก หรือท่าทางที่ไม่เหมาะสม แต่ในบางกรณี อาจเป็นสัญญาณของโรคที่มีความรุนแรง ดังนั้น การรู้จักอาการปวดหลังแบบต่างๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้เข้ารับการรักษาที่ถูกต้องและทันท่วงที

ปวดหลังแบบไหนอันตราย บอกโรคอะไรได้บ้าง?

1. ปวดสะบัก

อาการปวดที่บริเวณสะบัก หรือหลังบริเวณกระดูกสันหลังส่วนบน อาจเป็นสัญญาณของโรคที่เกี่ยวข้องกับกล้ามเนื้อและกระดูก เช่น การเคลื่อนไหวหรือยืดกล้ามเนื้อที่ไม่ถูกต้อง หรืออาจเกิดจากการบาดเจ็บที่คอหรือกระดูกสันหลังส่วนบน โรคที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น การบาดเจ็บจากหมอนรองกระดูก

  • อาการ ปวดแสบๆ ตึงๆ บริเวณสะบัก อาจมีอาการปวดลามไปยังบริเวณคอหรือไหล่ บางครั้งอาจทำให้การเคลื่อนไหวของคอและหลังทำได้ไม่เต็มที่
  • กลุ่มเสี่ยง ผู้ที่นั่งทำงานนานๆ พนักงานออฟฟิศ หรือนั่งในท่าทางที่ไม่เหมาะสม ผู้ที่มีอาการเครียดหรืออาการทางจิตใจที่กระทบกับกล้ามเนื้อ ผู้ที่มีอาการบาดเจ็บที่คอหรือกระดูกสันหลังส่วนบน
  • วิธีป้องกัน นั่งในท่าที่ถูกต้อง ยืดเหยียดกล้ามเนื้อคอและสะบักอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวที่เร็วและแรงเกินไป

2. ปวดกลางหลัง

อาการปวดกลางหลังอาจเกิดจากการยกของหนักผิดท่า หรือมีปัญหากับกระดูกสันหลังส่วนกลาง เช่น หมอนรองกระดูกเคลื่อนที่ หรือภาวะกระดูกสันหลังเสื่อม นอกจากนี้ยังอาจมีสาเหตุจากโรคไตหรือโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารได้ด้วยเช่นกัน

  • อาการ ปวดกลางหลังตลอดเวลา อาจมีอาการตึงๆ กล้ามเนื้อที่สันหลัง อาการปวดอาจรุนแรงขึ้นเมื่อนั่งหรือยืนเป็นเวลานาน
  • กลุ่มเสี่ยง ผู้ที่ยกของหนักหรือนั่งทำงานเป็นเวลานาน ผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรือการเคลื่อนไหวที่ไม่เหมาะสม ผู้ที่มีภาวะเสื่อมสภาพของกระดูกสันหลัง
  • วิธีป้องกัน ฝึกกล้ามเนื้อหลังด้วยการออกกำลังกายที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงการยกของหนัก นั่งในท่าทางที่ถูกต้องและปรับการนั่งให้สบาย

3. ปวดหลังด้านซ้าย หรือขวา

อาการปวดหลังด้านซ้ายหรือขวาอาจเป็นสัญญาณของปัญหาเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง เช่น หมอนรองกระดูกเสื่อม หรือโรคที่เกี่ยวข้องกับอวัยวะภายใน เช่น ปัญหาเกี่ยวกับไตหรือการติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ

  • อาการ ปวดหลังเฉพาะด้านซ้ายหรือขวา อาจมีอาการเจ็บเมื่อกดทับหรือเคลื่อนไหว หรืออาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ปัสสาวะมีเลือด แสบขัด
  • กลุ่มเสี่ยง ผู้ที่มีโรคไตหรือโรคที่เกี่ยวกับอวัยวะภายใน ผู้ที่มีภาวะกระดูกสันหลังเสื่อม ผู้ที่ทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายที่หนักเกินไป
  • วิธีป้องกัน ตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ รักษาท่าทางในการนั่งและยืนให้ถูกต้อง หากมีอาการควรพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ

4. ปวดหลังล่างและบั้นเอว

อาการปวดหลังส่วนล่างหรือล่างบั้นเอวเป็นอาการที่พบได้บ่อยและอาจเกี่ยวข้องกับการใช้งานกล้ามเนื้ออย่างไม่เหมาะสม เช่น การยกของหนัก หรืออาจเป็นสัญญาณของหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท หรืออาจเกิดจากภาวะกระดูกสันหลังเสื่อม

  • อาการ ปวดตึงที่หลังส่วนล่าง อาจมีอาการปวดที่ขา หรือการเคลื่อนไหวจำกัด อาจมีอาการเสียวหรือชาจากการกดทับเส้นประสาท
  • กลุ่มเสี่ยง คนที่ทำงานยกของหนัก ผู้สูงอายุที่มีภาวะกระดูกเสื่อม ผู้ที่มีกล้ามเนื้อหลังอ่อนแอ
  • วิธีป้องกัน ออกกำลังกายเพื่อเสริมความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อหลัง ใช้ท่าทางที่ถูกต้องในการยกของ หลีกเลี่ยงการทำงานในท่าทางที่ไม่เหมาะสม

5. ปวดหลังร้าวลงขา

อาการปวดหลังที่ร้าวลงขาอาจบ่งชี้ถึงปัญหาเส้นประสาทที่ถูกกดทับ เช่น จากหมอนรองกระดูกเคลื่อนที่ ซึ่งสามารถทำให้เกิดอาการปวดที่ขาได้ และในกรณีที่มีอาการร้าวลงขาควบคู่ไปกับกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือสูญเสียความรู้สึก อาจเป็นสัญญาณเสี่ยงของโรคที่รุนแรง

  • อาการ ปวดหลังที่มีอาการร้าวลงไปที่ขา อาจมีอาการชาหรืออ่อนแรงที่ขา อาการปวดอาจรุนแรงขึ้นเมื่อนั่งหรือลุกขึ้นจากที่นั่ง
  • กลุ่มเสี่ยง คนที่มีหมอนรองกระดูกเคลื่อน ผู้ที่มีอายุสูงหรือกระดูกสันหลังเสื่อม คนที่ทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมาก เช่น การยกของหนัก
  • วิธีป้องกัน ควบคุมน้ำหนักและหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่เพิ่มแรงกดที่กระดูกสันหลัง รักษาท่าทางการนั่งและยืนให้ถูกต้อง ยืดเหยียดกล้ามเนื้ออย่างสม่ำเสมอ

การป้องกันอาการปวดหลัง

การป้องกันอาการปวดหลัง ควรเริ่มต้นจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง เช่น นั่งในท่าทางที่ถูกต้อง ใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์เสริมที่ช่วยในการป้องกัน เช่น หมอนรองคอ หรือที่นั่งที่รองรับหลัง รวมทั้งยืดเหยียดกล้ามเนื้อเป็นประจำ เช่น การออกกำลังกายที่เน้นการยืดเหยียด การฝึกกล้ามเนื้อแกนกลาง (Core Strengthening) และการฝึกเพิ่มความยืดหยุ่น รวมทั้งหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บที่หลัง 

นอกจากนี้ การตรวจสุขภาพเป็นประจำ ก็สามารถช่วยให้เราพบปัญหาที่อาจเกิดขึ้นและรักษาได้ทันท่วงที

หากคุณมีอาการปวดหลังที่รุนแรง หรืออาการปวดที่ไม่ดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์ ไม่ควรละเลยหรือทิ้งไว้โดยไม่หาทางรักษา ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงจากโรคที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ปวดหลังแบบนี้ เรากำลังเสี่ยงเป็นโรคอะไร อยากปรึกษาคุณหมอ ตรวจให้แน่ชัด ทักหาทีม HDcare ได้เลย เราพร้อมเป็นผู้ช่วยส่วนตัวดูแลสุขภาพคุณ สอบถามข้อมูลเบื้องต้นกับคุณหมอเฉพาะทาง ทำนัดปรึกษาคุณหมอได้รวดเร็ว จาก รพ. หรือคลินิกใกล้คุณได้ทันที คลิกที่นี่เลย

Scroll to Top