วัคซีน HPV ควรฉีดตอนไหน?

วัคซีน HPV ใช้สำหรับป้องกัน ฮิวแมน ปาปิลโลมา ไวรัส (Human papillomavirus: HPV) ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งปากมดลูกและหูดที่อวัยวะเพศ (Genital warts)

HPV กว่าร้อยสายพันธุ์

เชื้อ HPV มีด้วยกันกว่า 100 สายพันธุ์ สามารถติดต่อได้ผ่านการมีเพศสัมพันธ์และการสัมผัสหูดที่ติดเชื้อ หลายคนเคยรับเชื้อมาแล้วโดยไม่รู้ตัวแต่ไม่แสดงอาการ เพราะร่างกายสามารถกำจัดไปได้แต่เชื้อ HPV บางสายพันธ์ุ ก็มีโอกาสทำให้เกิดโรคร้ายได้มากกว่า เช่น

  • สายพันธุ์ 6 และ 11 มีโอกาสทำให้เกิดหูดที่อวัยวะเพศ
  • สายพันธุ์ 16 และ 18 มีโอกาสทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก มีโอกาสลามไปถึงอวัยวะเพศ และทหารหนัก

วิธีลดความเสี่ยงก็คือการฉีดวัคซีน HPV ที่สามารถป้องกันเชื้อ HPV ได้ทั้งสายพันธุ์ 6, 11, 16, 18

วัคซีน HPV มีกี่ชนิด

วัคซีน HPV ที่นิยมใช้ในปัจจุบันมีด้วยกัน 2 ชนิด

1. Cervarix 

Cervarix เป็นวัคซีน HPV ที่เน้นป้องกันสายพันธุ์ 6, 11, 16 และ 18 ช่วยลดโอกาสเกิดมะเร็งปากมดลูกและหูดหนอนไก่

2. Gardasil 9 

Gardasil 9 เป็นวัคซีน HPV ที่ป้องกันสายพันธุ์หลากหลายกว่า ดังนี้ 6, 11, 16, 19, 31, 33, 45, 52 และ 58

วัคซีน HPV ฉีดตอนไหน? อายุเท่าไร?

วัคซีน HPV ควรฉีดตั้งแต่อายุ 11-12 ปี ตามที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐอเมริกา (Centers for Disease Control and Prevention: CDC) แนะนำ

อย่างไรก็ตาม หากก่อนหน้านี้คุณยังไม่เคยฉีดวัคซีน HPV มาก่อน หรือผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาแล้ว ก็ยังคงสามารถฉีดวัคซีน Gardasil 9 ได้ในช่วงอายุ 27-45 ปี แต่ประสิทธิภาพในป้องกันเชื้อไวรัสอาจลดลง

สำหรับผู้ที่อายุ 27 ปีขึ้นไป ควรปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดวัคซีน HPV เนื่องจากวัคซีนอาจมีประสิทธิภาพน้อยลง

วัคซีน HPV ฉีดกี่เข็ม แต่ละเข็มห่างกันกี่เดือน?

การฉีดวัคซีน HPV อาจมีความแตกต่างกันไปตามช่วงอายุ ดังนี้

  • สำหรับผู้ที่ฉีดตอนอายุ 11-12 ปี ฉีดเพียง 2 เข็ม โดยห่างจากเข็มแรก 6 เดือน
  • สำหรับผู้ที่ฉีดตอนอายุ 15-26 ปี ฉีด 3 เข็ม เข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรก 1 เดือน ส่วนเข็มที่ 3 ห่างออกไปอีก 6 เดือน

ที่มาของข้อมูล

Scroll to Top