Levetiracetam (ลีวีไทราซีแทม)

ลีวีไทราซีแทม (Levetiracetam) เป็นยาที่ใช้ร่วมกับยาอื่นเพื่อรักษาอาการชัก (โรคลมชัก) ซึ่งจัดเป็นยากันชักชนิดหนึ่ง (Anticonvulsants) ยา Levetiracetam อาจทำให้จำนวนครั้งของอาการชักที่คุณเป็นลดลง

Levetiracetam เป็นยากันชัก (antiepileptic drug) ที่ใช้รักษาโรคลมชัก โดยสามารถใช้เดี่ยวหรือใช้ร่วมกับยากันชักตัวอื่นเพื่อลดความถี่ของอาการชักในผู้ป่วยโรคลมชักชนิดต่างๆ ได้แก่

  • อาการชักเฉพาะที่ (focal seizures) ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่
  • อาการชักแบบเกร็งกระตุกทั่วร่างกาย (generalized tonic-clonic seizures) ในผู้ป่วยอายุ 12 ปีขึ้นไป
  • อาการชักแบบกล้ามเนื้อกระตุก (myoclonic seizures) ในผู้ป่วยอายุ 12 ปีขึ้นไปที่เป็นโรค Juvenile Myoclonic Epilepsy (JME)

กลไกการทำงานของยา Levetiracetam

Levetiracetam ออกฤทธิ์โดยจับกับ synaptic vesicle protein 2A (SV2A) ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการหลั่งสารสื่อประสาทในสมอง กลไกนี้ช่วยลดการปลดปล่อยสารสื่อประสาทที่อาจก่อให้เกิดอาการชัก โดยมีผล

  • ลดการกระตุ้นเซลล์ประสาทที่ผิดปกติ
  • ป้องกันการแพร่กระจายของกระแสประสาทที่ก่อให้เกิดอาการชัก
  • มีผลกระทบน้อยต่อช่องไอออน (ion channels) และตัวรับของสารสื่อประสาทอื่น ๆ เมื่อเทียบกับยากันชักชนิดอื่น

ยานี้มีข้อดีที่ไม่ส่งผลต่อเอนไซม์ในตับ (cytochrome P450) ทำให้มีโอกาสเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นน้อย และสามารถใช้ในผู้ป่วยที่มีภาวะตับหรือไตบกพร่องได้โดยการปรับขนาดยาให้เหมาะสม

วิธีใช้ยา Levetiracetam

  • รับประทานวันละ 2 ครั้ง (ยาทั่วไป) หรือวันละ 1 ครั้ง (ยาเม็ดออกฤทธิ์นาน) ตามแพทย์สั่ง
  • รับประทานก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ ห้ามเคี้ยวหรือบดเม็ดยาเพราะอาจทำให้มีรสขม หรือเพิ่มความเสี่ยงต่อผลข้างเคียง
  • ยาน้ำต้องใช้ช้อนตวง/อุปกรณ์ตวงยา ห้ามใช้ช้อนรับประทานอาหาร
  • ขนาดยาขึ้นอยู่กับสภาวะโรคและน้ำหนักตัว ปรับขนาดยาอย่างเคร่งครัดตามคำสั่งแพทย์
  • ควรรับประทานยาให้ตรงเวลาเป็นประจำทุกวันเพื่อให้ได้ผลดีที่สุด
  • ห้ามเพิ่มขนาดยา ใช้ยาถี่เกินไป หรือหยุดยาเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ เพราะอาจทำให้อาการชักแย่ลง

ผลข้างเคียงของยา Levetiracetam

อาการข้างเคียงทั่วไป

  • ง่วงนอน เวียนศีรษะ อ่อนเพลีย อ่อนแรง มักเกิดในช่วง 4 สัปดาห์แรก และดีขึ้นเมื่อร่างกายปรับตัวได้
  • หากอาการไม่ดีขึ้นหรือแย่ลง ควรแจ้งแพทย์

อาการข้างเคียงรุนแรง พบได้น้อย ควรรีบพบแพทย์

  • สูญเสียการประสานงานของร่างกาย เดินลำบาก ควบคุมกล้ามเนื้อไม่ได้
  • อารมณ์เปลี่ยนแปลง หงุดหงิด ก้าวร้าว วิตกกังวล ซึมเศร้า
  • มีไข้ เจ็บคอเรื้อรัง สั่น อ่อนเพลียผิดปกติ
  • ผิวซีด หายใจเร็ว หัวใจเต้นเร็ว เลือดออกง่าย มีรอยช้ำ
  • มีความคิดฆ่าตัวตาย หรือเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทางอารมณ์ผิดปกติ

การแพ้ยา พบได้น้อย ต้องรีบพบแพทย์

  • ผื่น คัน/บวม (หน้า ลิ้น คอ)
  • เวียนศีรษะรุนแรง หายใจลำบาก

หากพบอาการผิดปกติอื่น ๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทันที

ข้อควรระวังในการใช้ยา Levetiracetam

  • ห้ามใช้ หากเคยแพ้ยา Levetiracetam หรือส่วนประกอบอื่น ๆ ในยา ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้
  • โรคประจำตัว หากมีปัญหาโรคไต โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับการฟอกไต หรือมีภาวะซึมเศร้า ต้องแจ้งแพทย์ก่อนเริ่มยา
  • ผลต่อระบบประสาท อาจทำให้เวียนศีรษะ ง่วงนอน โดยเฉพาะช่วงแรกของการรักษา หลีกเลี่ยงการขับรถ ใช้เครื่องจักร และควรจำกัดการดื่มแอลกอฮอล์
  • ก่อนการผ่าตัด ควรแจ้งแพทย์หรือทันตแพทย์เกี่ยวกับยาที่ใช้อยู่ รวมถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและสมุนไพร
  • เด็ก อาจเกิดอาการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ เช่น หงุดหงิด ก้าวร้าว ซึมเศร้า หรือคิดฆ่าตัวตาย เด็กอายุต่ำกว่า 4 ปี อาจมีความเสี่ยงต่อความดันโลหิตสูง
  • ผู้สูงอายุ มีความเสี่ยงต่ออาการง่วงนอน เวียนศีรษะ และการสูญเสียการประสานงานของร่างกาย ซึ่งอาจเพิ่มโอกาสหกล้ม
  • การตั้งครรภ์ ควรใช้เฉพาะเมื่อจำเป็น เพราะยาอาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ ห้ามหยุดยาเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์
  • การให้นมบุตร ยาสามารถผ่านน้ำนมได้ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนให้นมบุตร

หากลืมรับประทานยา Levetiracetam

ถ้าคุณลืมรับประทานยานี้ ให้รับประทานทันทีที่นึกได้ หากนึกได้เมื่อใกล้กับเวลาของมื้อถัดไป ให้ข้ามมื้อที่ลืมไป และรับประทานมื้อถัดไปตามปกติ โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เท่า

Scroll to Top