chronic back pain screening process scaled

ปวดหลังเรื้อรัง ต้องรีบตรวจ ขั้นตอนการตรวจมีอะไรบ้าง?

อาการปวดหลังเรื้อรัง เป็นปัญหาที่พบบ่อยและมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน การตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวดหลัง จะช่วยให้รักษาได้ตรงจุดและมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะพามาทำความเข้าใจขั้นตอนการตรวจที่สำคัญ รวมถึงความแตกต่างระหว่างวิธีต่างๆ เช่น การตรวจร่างกาย การถ่ายภาพ X-ray, CT Scan และ MRI

มีคำถามเกี่ยวกับ ปวดหลังเรื้อรัง? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

อาการปวดหลังเรื้อรังแบบไหนที่ต้องรีบตรวจ?

ผู้ที่มีอาการปวดหลังเรื้อรังควรสังเกตลักษณะของอาการของตัวเอง หากมีอาการต่อไปนี้ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริง

  1. อาการปวดร้าว มีอาการปวดที่แผ่ขยายลงไปที่แขน ขา หรือฝ่าเท้า ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับปัญหาเส้นประสาท
  2. ชาหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง มีอาการชา เจ็บ หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรงในบริเวณที่เส้นประสาทนั้นควบคุม
  3. อาการปวดที่รุนแรงและไม่ดีขึ้น โดยเฉพาะที่รบกวนการนอน หรือปวดเพิ่มขึ้นในเวลากลางคืน
  4. อาการปวดเฉพาะที่ ร่วมกับไข้ น้ำหนักลด หรือความผิดปกติอื่น เช่น ความผิดปกติในกระดูกหรือข้อ

การตรวจและการประเมินอาการ

1. ซักประวัติอาการ

การซักประวัติอย่างละเอียดจะช่วยให้แพทย์วินิจฉัยอาการได้อย่างถูกต้อง เช่น

  • ตำแหน่งและรูปแบบการปวด เช่น ปวดตามแนวรากประสาท หรือปวดจากกล้ามเนื้อและกระดูก
  • อายุและอาชีพ โรคบางชนิดเช่น หมอนรองกระดูกเคลื่อน (Herniated Disc) มักพบในคนอายุน้อยกว่า 55 ปี ในขณะที่โรคช่องกระดูกสันหลังตีบแคบ (Spinal Stenosis)  มักพบในผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี
  • ลักษณะการปวด อาการปวดที่แย่ลงเมื่อทำกิจกรรม เช่น ไอ จาม หรือเดิน

2. การตรวจร่างกาย

การตรวจร่างกายประกอบด้วย

  • การตรวจทางคลินิกทั่วไป ตรวจดูท่าทางและการเดินที่ผิดปกติ เช่น ไหล่หรือกระดูกเชิงกรานไม่เท่ากัน
  • การตรวจกล้ามเนื้อและจุดกดเจ็บ เช่น ความเกร็งของกล้ามเนื้อหรือการกดเจ็บของกระดูกสันหลัง
  • การทดสอบพิเศษ เช่น
  • Spurling’s Test ตรวจการกดเส้นประสาทในกรณีที่เป็น Cervical Disc Herniation
  • Schober’s Test ตรวจความยืดหยุ่นของกระดูกสันหลังส่วนล่าง

3. การถ่ายภาพวินิจฉัย

เมื่อผลการตรวจทางคลินิกบ่งชี้ถึงปัญหาที่อาจเกิดจากกระดูกสันหลังหรือเส้นประสาท แพทย์อาจพิจารณาการตรวจเพิ่มเติม ได้แก่

มีคำถามเกี่ยวกับ ปวดหลังเรื้อรัง? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

3.1 X-ray

  • ใช้สำหรับตรวจหาความผิดปกติของกระดูก เช่น กระดูกแตก การเคลื่อนของกระดูก (Spondylolisthesis) หรือการเสื่อมของข้อ
  • ข้อจำกัด ไม่สามารถแสดงโครงสร้างอ่อน เช่น หมอนรองกระดูก หรือเส้นประสาท

3.2 CT Scan

  • เหมาะสำหรับตรวจโครงสร้างกระดูกในรายละเอียด เช่น ภาวะ Spinal Stenosis
  • ใช้เวลาตรวจสั้นกว่า MRI แต่ไม่เหมาะสำหรับการแสดงเส้นประสาท

3.3 MRI

  • เหมาะสำหรับปัญหาเส้นประสาทและหมอนรองกระดูก เช่น Herniated Disc, Spinal Cord Compression หรือเนื้องอก
  • แสดงรายละเอียดทั้งโครงสร้างกระดูก เส้นประสาท และเนื้อเยื่ออ่อน

ปวดหลังเรื้อรัง

คลิกที่นี่เพื่อดูภาพขนาดใหญ่

อาการปวดหลังอาจดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อยในช่วงแรก แต่หากไม่ได้รับการประเมินและรักษาอย่างถูกต้อง อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงและกระทบต่อการใช้ชีวิตได้

ดังนั้น การใส่ใจในรายละเอียดของอาการปวด และเข้าพบแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างเหมาะสม จะช่วยให้คุณสามารถป้องกัน หรือจัดการกับอาการปวดหลังได้อย่างทันท่วงที 

ปวดหลังเรื้อรัง ไม่ยอมหาย เสี่ยงโรคร้ายหรือเปล่า? อยากปรึกษาคุณหมอ ตรวจหาสาเหตุให้แน่ชัด ทักหาทีม HDcare ได้เลย เราพร้อมเป็นผู้ช่วยส่วนตัวดูแลสุขภาพคุณ สอบถามข้อมูลเบื้องต้นกับคุณหมอเฉพาะทาง ทำนัดปรึกษาคุณหมอได้รวดเร็ว จาก รพ. หรือคลินิกใกล้คุณได้ทันที คลิกที่นี่เลย

มีคำถามเกี่ยวกับ ปวดหลังเรื้อรัง? สอบถามฟรีทาง LINE รับคำตอบได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความสบายใจของคุณ

หากคุณติดตั้ง LINE บนคอมพิวเตอร์ของคุณแล้ว ระบบจะเปิดบัญชีทางการ LINE ของ Jib AI ผู้ช่วยสุขภาพ โดยอัตโนมัติ

หากคุณยังไม่ได้ติดตั้ง LINE บนเดสก์ท็อป โปรดสแกน QR โค้ดด้วย LINE บนโทรศัพท์มือถือของคุณเพื่อเริ่มแชทกับ Jib AI ผู้ช่วยสุขภาพ