ปรึกษาแพทย์ฟรี! จองคิวกับแอดมินเพื่อรับแคชแบ็ก 5% ไม่มีขั้นต่ำ ถ้าตัดสินใจรับบริการ
แพ็กเกจนี้จำเป็นต้องให้แพทย์ตรวจประเมินก่อนรับบริการ และอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากที่ระบุไว้บนเว็บไซต์
รายละเอียด
รายละเอียด
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าเสริมจมูกแบบปิด ด้วยซิลิโคนอเมริกาพรีเมียม 1 ครั้ง
สิ่งที่ต้องจ่ายเพิ่ม
- ค่า Lab สำหรับผู้ที่อายุน้อยกว่า 40 ปี ราคา 3,970 บาท
- ค่า Lab สำหรับผู้ที่อายุมากกว่า 40 ปี ราคา 5,570 บาท
หมายเหตุ
- บริการนี้สำหรับกรณีเสริมจมูกครั้งแรก
- ถ้าต้องการแก้งานเดิม มีค่าบริการประมาณ 10,000 บาท
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
- ระยะเวลารับบริการประมาณ 1-2 ชั่วโมง
- เจ้าหน้าที่จะอธิบายขั้นตอนการปฏิบัติตัวก่อนและหลังการผ่าตัด ก่อนเซ็นใบยินยอมการผ่าตัด
- ปรึกษาทรงจมูกร่วมกับศัลยแพทย์ โดยผ่านทางการใช้เครื่องออกแบบใบหน้า 3 มิติ Vectra เพื่อวางแผนร่วมกันกับศัลยแพทย์ก่อนการเสริมจมูก
- สามารถเลือกได้ว่าจะผ่าตัดแบบดมยาสลบ หรือแบบฉีดยาชาด้วยเทคนิคของศัลยแพทย์เฉพาะเดอมาสเตอร์
- ทำในห้องผ่าตัดมาตรฐานสากล
- ทำโดยศัลยแพทย์ตกแต่งผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างจมูก
- ศัลยแพทย์ตกแต่งผู้เชี่ยวชาญ จะออกแบบจมูกให้เข้ากับรูปใบหน้าของผู้รับบริการ ซึ่งอาจมีการทำหัตถการอื่นๆ โดยใช้เทคนิคชั้นสูงร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นการลดขนาดปีกจมูก (Alar Reduction) ตะไบฮัมพ์จมูก (Nose Reduction) ปรับโครงสร้างจมูกใหม่ (Nose Reconstruction) เหมาะสำหรับคนที่มีโครงสร้างจมูกเบี้ยวและใหญ่
- วัดสัญญาณชีพก่อนผ่าตัด กรณีที่มีความดันโลหิตสูง ให้แจ้งแพทย์และควรงดการผ่าตัดไปก่อน
- แพทย์จะเหลาซิลิโคนให้เข้ากับจมูกของผู้รับบริการ จากนั้นแพทย์จะเช็ดในรูจมูกและโพรงจมูก ก่อนกรีดเปิดแผล ปรับรูปจมูก ใส่ซิลิโคน เย็บปิดแผล และปิดพลาสเตอร์เพื่อช่วยพยุงรูปทรงของจมูก
- หลังทำเสร็จ เจ้าหน้าที่จะติดตามต่อจนอาการคงที่
- แพทย์อาจนัดตัดไหมหลังผ่าตัด 1-2 สัปดาห์ จมูกจะเข้าที่ได้รูป เห็นผลชัดเจนภายใน 2 เดือนหลังผ่าตัด
- ควรมีญาติรับกลับ
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- ควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
- งดแต่งหน้าหรือใช้เครื่องสำอางที่ทำความสะอาดยากในวันผ่าตัด
- ห้ามรับประทานยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบางชนิด 1 สัปดาห์ก่อนทำ เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ไดโคลฟีแนค พอนสแตน วิตามินอี น้ำมันปลา ใบแปะก๊วย โสม St. John's wort น้ำมันกระเทียม เพราะมีผลต่อยาต้านการแข็งตัวของเลือด (ควรปรึกษาแพทย์ที่รักษาก่อนหยุดยา)
- งดทายาที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว เช่น Tretinoin (Retin-A) Retinols Retinoids Glycolic Acid หรือครีมในกลุ่ม Anti-Aging อย่างน้อย 3 วันก่อนทำ
- งดแว็กซ์ผิว ขัดผิว สครับผิว นวดหน้า โกนขน ดึงขน เลเซอร์ บริเวณที่จะทำอย่างน้อย 3 วันก่อนรับบริการ
- หากมีโรคประจำตัว ยาที่ทานประจำ หรือแพ้ยา ควรแจ้งแพทย์ก่อนทำ
- งดดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ 24 ชั่วโมงก่อนทำ
- งดกิจกรรมที่ส่งผลให้มีการสูบฉีดไหลเวียนของเลือดมากขึ้น เช่น การออกกำลังกาย ซาวนา ในช่วง 24 ชั่วโมงก่อนทำ
- ควรสระผมให้เรียบร้อยก่อนการผ่าตัด เนื่องจากหลังผ่าตัดในช่วงแรกอาจสระผมไม่สะดวก
การเตรียมตัวหลังรับบริการ
- คนไข้ยังต้องประคบเย็นสลับอุ่นต่อเนื่องจนครบ 48 ชั่วโมง ห้ามนอนคว่ำหน้า
- หลีกเลี่ยงไม่ให้แผลผ่าตัดโดนน้ำ สามารถทำความสะอาดได้โดยการใช้กระดาษซับมัน หรือสำลีชุบน้ำอุ่นเช็ดทั่วบริเวณใบหน้า
- พยายามอยู่ในสถานที่ที่แห้งและเย็น ปลอดฝุ่น เพื่อหลีกเลี่ยงการเสี่ยงเกิดน้ำมูก หรือไอจาม
- นอนยกหัวสูงหรือนอนหงาย (หายใจทางปากในช่วง 1-2 วันแรก) เพื่อลดอาการบวมช้ำหลังผ่าตัดเสริมจมูก
- งดทานอาหารที่มีรสเค็ม รสเผ็ด รสจัด เพื่อลดอาการแผลบวมช้ำและแห้งช้าหลังผ่าตัด
- แนะนำให้ดื่มน้ำใบบัวบก หรือน้ำมะพร้าว เสริมได้ เพื่อช่วยลดอาการฟกช้ำหลังผ่าตัดให้หายเร็วขึ้น
- ในวันที่ 2 หลังผ่าตัดเสริมจมูก แพทย์จะนัดให้เข้ามาเพื่อนำผ้าก๊อซในจมูกที่ใส่อยู่ออก
- จมูกจะบวมช้ำ 2-3 วันหลังผ่าตัด เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กับทุกการผ่าตัดเสริมจมูก แต่จะบวมช้ำมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับเทคนิค ฝีมือของแพทย์ผู้ผ่าตัด และผู้รับบริการแต่ละบุคคล ด้วยเทคนิคพิเศษของแพทย์ จะทำให้หลังเสริมจมูกบวมช้ำน้อยมากจนแทบมองไม่เห็น
- อาการตึงที่จมูกหลังทำจมูก จะรู้สึกตึงบริเวณจมูก โดยเฉพาะตรงปลาย แต่หากตึงเกินไปอาจเป็นสาเหตุของจมูกทะลุ
- เจ็บแผลที่จมูกระหว่าง 2-3 วันแรก หลังทำจมูก อาจมีอาการเจ็บบ้างเล็กน้อย แต่เมื่อจมูกของเราปรับตัวได้ และบาดแผลได้รับการฟื้นฟูตัวเอง อาการเจ็บเหล่านี้จะหายไปเอง
ก่อนตัดสินใจ
ข้อห้ามสำหรับการผ่าตัดเสริมจมูก
- สตรีตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
- ไม่ควรผ่าตัดเสริมจมูกในผู้ที่มีอายุไม่ถึง 18 ปี หรือยังมีการเจริญเติบโตของใบหน้าไม่เต็มที่
- ใช้ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด มีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน โรคหลอดเลือดผิดปกติต่างๆ เช่น เส้นเลือดตีบ
- มีโรคประจำตัวที่อาจส่งผลต่อการผ่าตัด เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
- ติดเชื้อเอชไอวี (HIV)
- เป็นหวัด มีแผลติดเชื้อ ควรรักษาให้หายก่อนทำ
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- ความเสี่ยงทั่วไปจากการผ่าตัด เช่น มีเลือดออก เกิดการติดเชื้อ แพ้ยาชาหรือยาสลบที่ใช้
- มีอาการบวม ชาบริเวณจมูก
- มีแผลเป็นบริเวณฐานจมูก
- เส้นประสาทถูกทำลายถาวร
- สังเกตเห็นซิลิโคนที่ใช้เสริม
- อาจต้องมีการผ่าตัดแก้ไขเพิ่มในภายหลัง เนื่องจากซิลิโคนเคลื่อน เบี้ยว หรือทะลุ
ข้อมูลทั่วไป
การเสริมจมูก⠀เป็นศัลยกรรมความงามบนใบหน้าเพื่อปรับเปลี่ยนขนาดหรือรูปทรงของจมูก ให้ได้สัดส่วนที่ต้องการ และเหมาะสมเข้ากับรูปหน้ามากขึ้น
จมูกเป็นจุดที่อยู่ส่วนกลางของใบหน้า การปรับเปลี่ยนที่ส่วนนี้จะทำให้ใบหน้าโดยรวมเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ง่าย จึงทำให้การเสริมจมูกค่อนข้างได้รับความนิยม
วัสดุที่ใช้เสริมจมูก
การเสริมจมูกสามารถใช้เนื้อเยื่อตัวเอง หรือใช้วัสดุอื่นอย่างซิลิโคน ซึ่งได้รับความนิยมมากกว่าสำหรับชาวเอเชีย โดยซิลิโคนที่ใช้ควรเป็นชนิดที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์ (medical grade)
ซิลิโคนที่ใช้เสริมจมูกแตกต่างกันอย่างไร?
รูปแบบ⠀ปกติแล้วมีซิลิโคนให้แพทย์เลือกใช้ 2 รูปแบบ ได้แก่ ซิลิโคนสำเร็จรูป และซิลิโคนแท่ง (แบบเหลาเอง) ซิลิโคนสำเร็จรูปค่อนข้างใช้ง่ายกว่าซิลิโคนแท่ง เนื่องจากถูกขึ้นมาเป็นรูปทรงให้แล้ว แพทย์ไม่ต้องเสียเวลาปรับแต่งมาก
ความแข็งหรือความอ่อนนิ่ม⠀สามารถแบ่งได้เป็น 3 ระดับ ได้แก่ แข็งมาก แข็งปานกลาง และนิ่ม
-⠀ซิลิโคนแข็ง⠀จะคงรูปได้ดี ไม่ยุบตัวง่าย แต่อาจทะลุได้หากเนื้อจมูกไม่หนาพอ จึงมักเลือกใช้ซิลิโคนชนิดแข็งปานกลาง เพื่อให้ได้รูปทรงที่สวยงาม ไม่ทะลุง่าย และไม่ยุบตัวหลังทำ
-⠀ซิลิโคนนิ่ม⠀เหมาะกับคนที่เนื้อจมูกไม่หนา เสริมแล้วจมูกดูเนียนเป็นธรรมชาติ แต่อาจยุบตัวได้เมื่อเวลาผ่านไป
ประเทศที่ผลิต⠀ซิลิโคนที่นิยมในปัจจุบัน อาจมีที่มาจากอเมริกา เกาหลี และอื่นๆ
-⠀ซิลิโคนอเมริกา (USA)⠀เป็นซิลิโคนมาตรฐานพิเศษ มีความแข็งปานกลาง ยืดหยุ่นดี เหมาะกับคนที่อยากได้จมูกรูปทรงโด่งสวยงาม และไม่แข็งจนเกินไป
-⠀ซิลิโคนเกาหลี (Korea)⠀เป็นซิลิโคนมาตรฐานพิเศษเช่นกัน ค่อนข้างนิ่มโดยเฉพาะช่วงโคนและปลายจมูก มีความยืดหยุ่นค่อนข้างสูง เหมาะกับคนที่อยากได้จมูกรูปทรงสวยเป็นธรรมชาติ
หมายเหตุ
- แม้จะใช้ซิลิโคนชนิดเดียวกัน ผลที่ได้หลังการผ่าตัดเสริมจมูกจะแตกต่างกันไปตามรูปแบบที่เลือก ลักษณะเดิมของจมูก และความชำนาญของแพทย์
- การผ่าตัดจมูกแบบปิดเป็นการผ่าภายในจมูก ใช้เวลาน้อย เน้นการเสริมให้จมูกโด่งขึ้นอย่างเดียว ในขณะที่การผ่าแบบเปิด แพทย์จะสามารถวิเคราะห์และแก้ปัญหาอื่นๆ ของจมูกได้ด้วย เช่น การแก้ไขปัญหาสันจมูกโด่งเกินไป
- การรองปลายจมูกด้วยเนื้อเยื่อตัวเองหรือเนื้อเยื่อเทียม จะทำให้ซิลิโคนไม่สัมผัสกับเนื้อจมูกโดยตรง ทำให้ปลายจมูกดูเหมือนเนื้อธรรมชาติ และป้องกันซิลิโคนทะลุได้
- ทรงจมูกที่นิยมในปัจจุบันมีหลายแบบ ก่อนทำสามารถนำรูปตัวอย่างไปปรึกษากับแพทย์เพื่อวางแผนการผ่าตัด
- หากมีเนื้อจมูกน้อยหรือบางมากๆ ไม่แนะนำให้เสริมจมูกด้วยซิลิโคน
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ Dermaster ผ่าน HDmall
ขั้นตอนการจ่ายเงินและรับแคชแบ็ก
- จองแพ็กเกจกับ HDmall จากนั้นเจ้าหน้าที่จะส่งคูปองให้ทางอีเมล
- เข้ารับบริการที่คลินิกตามวันที่นัดหมาย
- ชำระเงินที่คลินิกเต็มจำนวนตามที่แพทย์ประเมิน
- ทักไลน์ @hdcoth และกดปุ่ม “ทำนัด/ขอแคชแบ็ก” กรอกลิงก์ที่เจ้าหน้าที่ส่งให้พร้อมแนบใบเสร็จภายใน 30 วันหลังรับบริการ
หมายเหตุ
- ผู้ที่ใช้สิทธิ์ประกันสังคม ประกันสุขภาพ หรือประกันชีวิต จะไม่สามารถรับสิทธิ์พิเศษต่างๆ รวมถึงไม่สามารถเบิก Cashback จาก HDmall.co.th ได้
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ (คูปองมีอายุ 30-60 วัน ตามที่ระบุในคูปอง)
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่คลินิกได้โดยตรง
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ Dermaster อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th