ทำ ICSI รักษาภาวะมีบุตรยาก ด้วยวิธีเพาะเลี้ยงตัวอ่อน (Blastocyst) 1 ครั้ง ที่ DBN Infertility Clinic

• ระยะเวลารับบริการประมาณ 1-2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของผู้เข้ารับบริการ
• ควรนัดหมายล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการ
• เหมาะสำหรับผู้หญิงที่อายุ 25 ปีขึ้นไป
• การเลี้ยงตัวอ่อนและการย้ายตัวอ่อนระยะ Blastocyst เทคนิคล่าสุดของ IVF (การปฏิสนธิในหลอดทดลอง) โดยตัวอ่อนจะเติบโตภายใต้เงื่อนไขที่ควบคุมอย่างเคร่งครัดในห้องปฏิบัติการเป็นเวลา 5 วัน เรียกว่าตัวอ่อน Blastocyst ตัวอ่อนที่อยู่รอดได้ในระยะการพัฒนานี้ มีแนวโน้มที่จะแข็งแรง มีสุขภาพดี และแข็งแรง
• การถ่ายโอน Blastocyst คือการย้ายตัวอ่อนไปยังมดลูกของผู้หญิงในวันที่ 5 ภายใต้การส่องกล้องดูโพรงมดลูก เพื่อค้นหาตำแหน่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวอ่อนในการฝังตัว สำหรับการตั้งครรภ์ที่มีสุขภาพดี ดังนั้นการถ่ายโอน Blastocyst จึงให้โอกาสที่ดีกว่าในการย้ายตัวอ่อน ซึ่งจะนำไปสู่การตั้งครรภ์และการคลอดที่ประสบความสำเร็จ
• ขั้นตอนรับบริการ มีดังนี้

1. กระตุ้นรังไข่ให้ผลิตไข่หลายๆ ใบด้วยการฉีดยา โดยจะฉีดวันละ 1 เข็ม ติดต่อกันประมาณ 7-10 วันโดยเฉลี่ย ยาที่ใช้กระตุ้นไข่ในปัจจุบันเป็นยาชนิดใหม่ที่มีความบริสุทธิ์ของยามากขึ้น ทำให้มีโอกาสได้ไข่ในจำนวนที่มากขึ้น และใช้ปริมาณยารวมทั้งจำนวนวันที่ฉีดลดลง
2. เมื่อกระตุ้นไข่ด้วยยาแล้ว แพทย์จะทำการตรวจติดตามการเจริญเติบโตของไข่โดยใช้เครื่องอัลตราซาวด์ เมื่อพบว่าไข่สุกสมบูรณ์เต็มที่แล้ว แพทย์จะทำการเจาะไข่เพื่อดูดเอาเซลล์ไข่ออกมาภายนอกร่างกาย
3. การเจาะไข่จะเจาะผ่านทางช่องคลอด โดยใช้อัลตราซาวด์บอกตำแหน่ง แล้วใช้เข็มเล็กๆ เจาะไข่ออกมาจากรังไข่ 
4. การเก็บเชื้ออสุจิทำได้โดยให้ฝ่ายชายหลั่งอสุจิใส่ภาชนะที่จัดไว้ให้ แล้วนำอสุจิที่ได้ มาคัดเลือกตัวที่แข็งแรง ก่อนที่จะนำมาทำการปฏิสนธิกับไข่
5. ทำการปฏิสนธิไข่และอสุจิ และเลี้ยงตัวอ่อนในห้องทดลอง โดยใช้เวลาเลี้ยงตัวอ่อนภายนอกร่างกายทั้งหมด 5 วัน
6. เมื่อได้ตัวอ่อนที่เป็นระยะ Blastocyst แล้ว แพทย์จะทำการใส่ตัวอ่อนกลับคืนสู่โพรงมดลูก
7. หลังจากใส่ตัวอ่อนไปแล้ว แพทย์จะนัดมาพบเป็นระยะ เพื่อติดตามดูแลระดับฮอร์โมนให้มีความสมดุล เพื่อให้สภาพเยื่อบุโพรงมดลูกเหมาะแก่การฝังตัวของตัวอ่อน
8. หลังจากใส่ตัวอ่อนไปแล้ว 14 วัน แพทย์จะทำการทดสอบการตั้งครรภ์ โดยการเจาะเลือดตรวจหาระดับฮอร์โมน HCG หรือฮอร์โมนรกเด็ก

• ข้อดีของการทำ Blastocyst Culture มีดังนี้
  • อัตราการตั้งครรภ์สูงขึ้น
  • สามารถเลือกตัวอ่อนที่มีคุณภาพดี และมีการเจริญเติบโตที่ดีที่สุด ใส่กลับคืนสู่โพรงมดลูกได้
  • Blastocyst เป็นตัวอ่อนระยะที่อยู่ในโพรงมดลูกตามธรรมชาติ และพร้อมที่จะฝังตัวแล้ว เมื่อใส่กลับคืนสู่โพรงมดลูก ก็จะสามารถฝังตัวได้เลย ซึ่งเป็นวิธีการที่ตรงกับกระบวนการตามธรรมชาติมากที่สุด
  • ลดความเสี่ยงในการเกิดแฝดที่มีจำนวนทารกมากกว่า 2 คน เนื่องจากอัตราการตั้งครรภ์ด้วยวิธีการนี้ค่อนข้างสูง แม้ว่าจะใส่ตัวอ่อนเพียง 1-2 ตัวอ่อน ก็มีโอกาสตั้งครรภ์แล้ว
  • สามารถทำการวินิจฉัยความผิดปกติของตัวอ่อนก่อนใส่กลับคืนสู่โพรงมดลูกได้
  • ไม่มีความเจ็บปวดในการรักษา ไม่มีการผ่าตัด หรือเจาะท้อง
  • ไม่ต้องนอนพักที่โรงพยาบาล สามารถกลับบ้านได้ทุกขั้นตอน

การเตรียมตัวก่อนรับบริการ

• ฝ่ายชายงดหลั่งอสุจิ 3-5 วันก่อนการเก็บน้ำเชื้อ
• งดมีเพศสัมพันธ์ 2-3 วัน ก่อนถึงวันนัด
• ควรปรับพฤติกรรมให้เหมาะสมกับการรักษา เช่น ลดการสูบบุหรี่ ควบคุม BMI ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ
• งดอาหารที่ทำให้ท้องเสีย หรือคลื่นไส้ อาเจียน ในขณะอยู่ในกระบวนการรักษา

การดูแลหลังรับบริการ

• หลังเก็บไข่จะต้องนอนพักประมาณ 2 ชั่วโมง จนกว่าจะฟื้นดี ไม่มีอาการมึน เวียนศรีษะ ถึงจะกลับบ้านได้
• งดมีเพศสัมพันธ์ในวันที่รับบริการ หลังจากนั้นสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ โดยควรปรึกษาแพทย์ร่วมด้วย
• ควรรับประทานวิตามินและอาหารที่มีประโยชน์ รวมถึงพักผ่อนให้เพียงพอ
• ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ดจัดหรืออาหารที่ทำให้ท้องเสียโดยง่าย