รายละเอียด
รายละเอียด
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าเสริมหน้าอก ด้วยซิลิโคน Motiva รุ่นมีซิป ขนาดไม่เกิน 500 ซีซี สำหรับเคสเสริมครั้งแรก
- ค่ายารับประทานหลังผ่าตัด
- ค่าล้างแผล
- ค่าตัดไหม
- ค่ารับประกันจากซิลิโคนรั่วหรือแตก
สิ่งที่ต้องจ่ายเพิ่ม
- ค่าตรวจเลือด ได้แก่ ตรวจหาภูมิต้านทานเชื้อเอชไอวี (Anti-HIV) ตรวจไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซี และซิฟิลิส ราคาขึ้นอยู่กับสถานพยาบาลที่ไปตรวจ
- ค่าดมยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์ 10,000 บาท (ต้องจ่ายทุกครั้งที่เข้าทำการรักษา)
หมายเหตุ
- สำหรับผู้ที่เคยเสริมมาก่อน จะมีค่าแก้เพิ่มเติม ราคาเริ่มต้น 20,000 บาท (ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของแต่ละกรณี)
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
- ระยะเวลารับบริการประมาณ 2 ชั่วโมง-2 ชั่วโมง 30 นาที ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของแต่ละกรณี
- ควรนัดหมายล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการ
- ควรนัดวันที่สะดวกเพื่อปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
- สามารถปรึกษาแพทย์ก่อนทำได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
- แพ็กเกจนี้ทำโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด และงดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด
- งดรับประทานยาหรืออาหารเสริมบางชนิด ที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ไดโคลฟีแนค พอนสแตน วิตามินอี น้ำมันปลา ใบแปะก๊วย โสม สมุนไพร St. John's Wort น้ำมันกระเทียม ฯลฯ อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด แต่ก่อนหยุดยาชนิดใด ควรปรึกษาแพทย์ที่รักษาก่อน
- งดทายาที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว เช่น Tretinoin (Retin-A), Retinols, Retinoids, Glycolic Acid หรือครีมในกลุ่ม Anti-Aging อย่างน้อย 3 วันก่อนการผ่าตัด
- งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดไหลเวียนมากขึ้น เช่น การออกกำลังกาย อบซาวน่า อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด
- งดอาหารและน้ำ อย่างน้อย 6-12 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด
- หากมีโรคประจำตัว ยาที่รับประทานประจำ หรือแพ้ยาชนิดใด ต้องแจ้งแพทย์ก่อนการผ่าตัด
การดูแลหลังรับบริการ
- 24 ชั่วโมงหลังการผ่าตัด อาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ซึ่งเป็นผลข้างเคียงจากการดมยาสลบ หากรับประทานอาหารได้ แนะนำให้รับประทานอาหารอ่อนๆ
- หลังผ่าตัดไม่ควรนอนราบ แนะนำให้นอนลำตัวส่วนบนสูง ประมาณ 30-45 องศา โดยใช้หมอน 2-3 ใบหนุนหลัง
- 2-3 วันแรกหลังการผ่าตัด ไม่ควรขยับตัวมาก เพื่อป้องกันแผลฉีกหรืออักเสบ
- หลีกเลี่ยงไม่ให้แผลถูกน้ำในช่วง 5-7 วันแรกหลังการผ่าตัด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ หากแผลถูกน้ำ แนะนำให้ใช้ผ้าสะอาดซับให้แห้งทุกครั้ง
- กรณีที่พลาสเตอร์หรืออุปกรณ์ติดแผลหลุดลอก ให้กลับมาทำแผลที่สถานพยาบาล ไม่ควรทำแผลเอง
- งดรับประทานยาหรืออาหารเสริมต่างๆ ต่ออีก 2 สัปดาห์หลังผ่าตัด หากจำเป็นต้องรับประทานยาอื่นๆ เพิ่มเติมในช่วงนี้ ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้ง
- งดสูบบุหรี่และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด จนกว่าแพทย์จะอนุญาต
- ควรสวมเสื้อชั้นในชนิดไม่มีโครง เช่น สปอร์ตบรา หรือซัพพอร์ตบรา ประมาณ 6 สัปดาห์ หลังจากนั้นสามารถสวมเสื้อชั้นในได้ตามปกติ
- งดยกของหนัก หรือออกกำลังกายในท่าที่ใช้กล้ามเนื้อหน้าอก อย่างน้อย 6 สัปดาห์หลังผ่าตัด
- หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ หากยังมีอาการบวมและปวดแผล
- รับประทานยา ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ และมาตรวจตามนัดอย่างเคร่งครัด
- หลังจากที่แผลหายสนิท และอาการปวดทุเลาลง แพทย์จะให้เริ่มนวดหน้าอกเบาๆ เพื่อป้องกันปัญหาพังผืดรอบซิลิโคน เต้านมแข็ง หด เป็นก้อน โดยควรนวดคลึงเต้านมบ่อยๆ ติดต่อกันอย่างน้อย 6 เดือน
- อาการปวดบวมจะเริ่มทุเลาลง และหายสนิทภายใน 4-6 สัปดาห์หลังการผ่าตัด
- อาจมีอาการเสียวแปลบที่หัวนมหรือเต้านมด้านข้างเล็กน้อย แต่จะค่อยๆ หายไปภายในเวลาประมาณ 3 เดือน
- หากมีความผิดปกติใดๆ เกิดขึ้น เช่น มีการอักเสบ บวม แดง มีเลือด หนอง น้ำเหลืองไหลซึม เต้านมแข็งตึง มีอาการปวดแผลมากขึ้น หรือมีไข้ขึ้น ควรรีบกลับมาพบแพทย์ทันที
ก่อนตัดสินใจ
- ผลลัพธ์ของการเสริมความงามขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล หากพบอาการผิดปกติหลังรับบริการควรปรึกษาแพทย์
ข้อห้ามสำหรับการผ่าตัดเสริมหน้าอก
- สตรีตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
- มีการอักเสบติดเชื้อ หรือเป็นมะเร็งเต้านม
- กำลังรักษาด้วยเคมีบำบัด หรือรังสีบำบัด
- มีประวัติเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง
- มีประวัติแพ้ซิลิโคน
- อายุต่ำกว่า 18 ปี
- หากมีโรคประจำตัว หรือมีประวัติเป็นโรคทางจิตเวช ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ
ข้อควรระวัง
ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่
- รู้สึกเจ็บบริเวณหน้าอกหลังทำการผ่าตัด
- ความรู้สึกบริเวณเต้านมหรือหัวนมอาจเปลี่ยนไปชั่วคราว
- เกิดการติดเชื้อ
- เกิดแผลเป็นบริเวณที่ผ่าตัด
- เกิดพังผืดภายในเต้านมทำให้เต้านมแข็ง
- มีเลือดออก เกิดลิ่มเลือด หรือของเหลวคั่งเป็นก้อน
- ซิลิโคนมีรอยแยกหรือรั่ว
- อาจต้องมีการผ่าตัดแก้ไขเพิ่มในภายหลัง
- หลังการผ่าตัดเสริมหน้าอกอาจทำให้มีปัญหาการให้นมบุตร
ข้อมูลทั่วไป
การเสริมหน้าอก (Breast Augmentation) หรือ ศัพท์ทางการแพทย์ใช้คำว่า Mammoplasty คือ การปรับแต่ง แก้ไข ขนาดหรือรูปทรงหน้าอก โดยส่วนใหญ่จะใช้วิธีผ่าตัดเสริมซิลิโคน ให้มีขนาดและรูปทรงตามต้องการ
การเสริมหน้าอกเหมาะกับใคร?
- ผู้ที่มีหน้าอกเล็ก รูปร่างหรือขนาดเต้านมไม่สมดุลกัน
- ผู้ที่มีทรงหน้าอกหย่อนยานหลังคลอดบุตร
- ผู้มีความจำเป็นต้องผ่าตัดเต้านมออก ด้วยสาเหตุด้านสุขภาพ เช่น ป่วยเป็นโรคมะเร็งเต้านม
- เพศทางเลือกที่ต้องการเสริมหน้าอก
ซิลิโคนเสริมหน้าอก มีกี่รูปแบบ?
ซิลิโคนสำหรับการเสริมหน้าอกนั้นมีหลายรูปแบบ⠀สิ่งที่ผู้เข้ารับการผ่าตัดเสริมหน้าอกควรพิจารณาเมื่อเลือกซิลิโคน ได้แก่
- วัสดุซิลิโคน ซึ่งวัสดุที่นิยมนำมาทำซิลิโคนนั้นมี 2 ประเภท ได้แก่
- ซิลิโคนเนื้อเจล ทนทาน ยืดหยุ่นสูง คล้ายเต้านมธรรมชาติ
- ซิลิโคนถุงน้ำเกลือ มีทั้งแบบสำเร็จรูป และแบบที่สามารถเติมน้ำเกลือได้ตามต้องการ
- พื้นผิวของซิลิโคน โดยทั่วไปมี 2 ประเภท ได้แก่
- ซิลิโคนผิวเรียบ ข้อดีคือ สัมผัสนุ่ม คล้ายเต้านมจริง แต่มีโอกาสที่ซิลิโคนเคลื่อนตัวหรือเปลี่ยนรูปได้มากกว่า
- ซิลิโคนผิวทราย ข้อดีคือโอกาสซิลิโคนเคลื่อนตัว หรือเปลี่ยนรูปทรงน้อย แต่สัมผัสจะแข็งกว่า
- รูปทรงของซิลิโคน แบ่งได้ 2 ประเภท ได้แก่
- ซิลิโคนทรงกลม เหมาะกับผู้ที่ต้องการหน้าอกชัด แน่น อวบอิ่ม
- ซิลิโคนทรงหยดน้ำ เหมาะกับผู้ที่ต้องการหน้าอกขนาดกำลังดี คล้ายเต้านมจริงมากกว่า
- ตำแหน่งที่ผ่าตัด มี 3 ตำแหน่งหลักๆ ได้แก่
- ใต้รักแร้ ซ่อนแผลได้ดี แต่ต้องเซาะเนื้อจากรักแร้ถึงหน้าอก ทำให้เจ็บตัวมากกว่า
- ใต้ราวนม ดูแลแผลง่าย เสริมซิลิโคนที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ได้ แต่เห็นแผลชัดเจนกว่าตำแหน่งอื่น
- บริเวณปานนม แผลขนาดเล็ก แทบมองไม่เห็น แต่ไม่สามารถเสริมซิลิโคนขนาดใหญ่ได้ และปานนมต้องกว้างพอที่จะใส่ซิลิโคนลงไปได้
- ยี่ห้อซิลิโคน ปัจจุบันซิลิโคนเสริมหน้าอกมีหลากหลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ผู้เข้ารับการผ่าตัดต้องพิจารณาและปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกให้เหมาะสมกับความต้องการมากที่สุด
- ขนาดซิลิโคน ขนาดหน้าอกทั่วไปที่เหมาะสมกับสรีระของผู้หญิงเอเชียคือ ประมาณ 280-320 ซีซี กรณีต้องการขนาดหน้าอกที่ใหญ่กว่านั้น เช่น 400-500 ซีซี หากสรีระร่างกายรองรับได้ มักไม่มีปัญหาตามมา แต่หากสรีระไม่เหมาะสม อาจเกิดปัญหาหน้าอกแตกลาย หน้าอกเป็นลอนคลื่น เนื้อหน้าอกติดกันเป็นก้อนเดียว แผลปริ ติดเชื้อ ปวดหลัง ฯลฯ ต้องปรึกษาแพทย์โดยละเอียดเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
คลิกอ่านข้อมูลเกี่ยวกับ การเสริมหน้าอก เพิ่มเติม
แพ็กเกจนี้ใช้ซิลิโคน Motiva®
ซิลิโคน Motiva® เป็นแบรนด์ซิลิโคนเสริมหน้าอกจากสหรัฐอเมริกา คุณสมบัติเด่นคือ ซิลิโคนบางรุ่น มีนวัตกรรม Q Inside® Safety Technology หรือเรียกอีกอย่างว่า "ซิลิโคนฝังชิป"
ภายในชิปจะบันทึกข้อมูลการทำศัลยกรรมเสริมหน้าอกไว้ เช่น ขนาดซิลิโคน คลินิกที่ทำศัลยกรรมเสริมหน้าอก ซึ่งใช้เครื่องมือตรวจจากภายนอกได้ หากตรวจพบความผิดปกติหลังเสริมเต้านม จะช่วยให้ติดตามข้อมูลและแก้ไขได้สะดวกยิ่งขึ้น
นอกจากนวัตกรรมซิลิโคนฝังชิปแล้ว ซิลิโคน Motiva ยังมีขนาด รูปทรง และพื้นผิวให้เลือกหลากหลายตามความต้องการ
โรงพยาบาลและคลินิกอื่นที่ให้บริการเสริมหน้าอก แก้หน้าอกที่เสริมมา ทำนม ราคา เท่าไรบ้าง? เช็กราคาพร้อมโปรโมชั่นได้ที่นี่
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ Munare Clinic ผ่าน HDmall
วิธีการจ่ายเงินและการใช้คูปอง
- กดชำระเงินออนไลน์
- รับคูปองทางอีเมลภายใน 24 ชั่วโมง
- โทรนัดหรือเลื่อนนัดกับคลินิกได้โดยตรงตามข้อมูลในคูปอง
- ยื่นคูปองที่คลินิกเพื่อรับบริการ
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ (คูปองมีอายุ 30-60 วัน ตามที่ระบุในคูปอง)
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่คลินิกได้โดยตรง
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ Munare Clinic อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th